จากกรณีที่ สามีภรรยาคู่หนึ่งไปร้องเพจ สายไหมต้องรอด ว่าถูกอดีตพระอาจารย์โอ ที่ก่อตั้งลัทธิถวายตัว ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าตัวเองกำลังหมดอายุขัย เพราะช่วยเหลือบรรดาลูกศิษย์จนอ่อนแอ อีกทั้งยังหลอกให้มีเซ็กซ์หมู่กับลูกศิษย์คนอื่นด้วย สุดท้ายกลายเป็นการหลอกลวงล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์ทั้งชายและหญิง


ต่อมา ลูกศิษย์อดีตพระออกมาโต้ว่า ที่กลุ่มผู้เสียหายเหล่านี้ออกมาแฉ ไม่เป็นความจริง ทุกครั้งที่มีสัมพันธ์ ทุกคนเต็มใจร่วม และมีคลิปออกมาเผยแพร่ เป็นคลิปที่ผู้เสียหายต่าง ๆ อยู่ในสภาพเปลือย เอาออกมาเปิดเพื่อบอกว่าผู้เสียหายสมยอมเอง และที่ออกมากล่าวหาอดีตพระ เพราะว่ามีปัญหาขัดแย้งผลประโยชน์เรื่องของขลังวัตถุมงคล และยักยอกเงินอดีตพระเป็นค่าวัตถุมงคลไปกว่า 14 ล้านบาท นั้น




ล่าสุดวันที่ 15 มิ.ย. 2567 ที่ร้านแกะดำ พุทธมณฑลสาย 1 นายกิตภัท ลูกศิษย์อดีตพระโอ และ นายเนติ ทนายความ แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่ รวมย้อนไทม์ไลน์ของสามีภรรยาผู้ร้อง ในการที่เข้ามาอยู่ในที่พักสงฆ์ และมาดูแลด้านการจำหน่ายวัตถุมงคลของวัด มาทำธุรกิจมีผลประโยชน์ร่วมกับทางที่พักสงฆ์ นำไปสู่การถูกฟ้องร้องคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งมีการฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 2 คดี มูลค่าเสียหายกว่า 14 ล้านบาท


นายกิตภัท เล่าย้อนว่า โดยปี 2553 แรกเริ่มหญิงผู้ร้องเป็นแฟนกับ นาย ป. ซึ่งเป็นพนักงานในวัดที่ดูแลร้านจำหน่ายวัตถุมงคล หญิงผู้ร้องเลยเข้ามาช่วย นาย ป. จนมีความสนิทสนม ความไว้วางใจ เหมือนเป็นลูกบุญธรรมของพระ ต่อมาปี 2554 หญิงผู้ร้องก็เลิกลากับนาย ป. แล้วเข้ามาดูแล กิจการจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์ แทนนาย ป. กลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญของสำนักสงฆ์ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ ในปีเดียวกันสามีของหญิงผู้ร้องก็เข้ามาในที่พักสงฆ์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วต่อมาก็ได้พาเพื่อนชายอีกคนให้เข้ามาในที่พักสงฆ์ด้วย


ต่อมาปี 2555 หญิงผู้ร้อง สามี และเพื่อนของสามีก็สนิทสนมกันมากร่วมกันดูแลเรื่องการบริหารจัดการธุรกิจจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์ รวมไปถึงการดูแลแม่ของทั้งสามคน ซึ่งหญิงผู้ร้องได้รับความไว้วางใจจากทางอดีตพระโอ จนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือของอดีตพระโอได้ ทั้งเป็นตัวแทนของอดีตพระในการประสานงานติดต่อทุกอย่าง มีการโอนเงินซื้อขายวัตถุมงคลเข้าบัญชีของหญิงผู้ร้อง


จากนั้นหญิงผู้ร้อง สามี และเพื่อนสามี ก็เริ่มมีปัญหากับลูกศิษย์และคนที่อยู่ในที่พักสงฆ์ ซึ่งได้มีการเบิกเอาวัตถุมงคลออกไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินให้กับที่พักสงฆ์ อีกทั้งยังได้นำของบรรพบุรุษ และครูบาอาจารย์ ของอดีตพระโอไปแล้วไม่นำมาคืน ปี 2565 หญิงผู้ร้องออกไปจากที่พักสงฆ์ แต่ยังเบิกวัตถุมงคล ไปแต่ไม่ได้นำมาคือ ปี 2566 ทางที่พักสงฆ์ฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์ วัตถุมงคล 10 กว่ารายการ


ปี 2567 อดีตพระตัดสินใจฟ้องหญิงผู้ร้องข้อหายักยอกทรัพย์ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 2 คดี รวมเป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท แบ่งเป็นคดียักยอก 4.9 ล้านบาทและฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 9 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ศาลคดีแพ่งนัดพร้อม และนัดไกล่เกลี่ย แต่ตกลงกันไม่ได้ และในวันที่ 11 มิ.ย. 2567 หญิงผู้ร้องไปร้องเพจสายไหมต้องรอด และวันที่ 20 มิถุนายนนี้ ศาลนัดสืบพยานคดียักยอกทรัพย์




นายกิตภัท เปิดอีกเผยว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ตามข่าว อดีตพระจึงลาสิกขาเพื่อมาต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนการหลอกลวงสวิงกิ้งตามที่ปรากฎในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่จะไปปรากฏในชั้นศาล และจากนี้ไปหากมีการพูดให้เกิดความเสื่อมเสียจะพิจารณาดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงต่อไป


นายกิตภัท ยืนยันว่า อดีตพระป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ปี 2540 ระหว่างที่อยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้ อดีตพระไม่เคยมีการสอนในลักษณะอุตริธรรม และตนเองก็ไม่ทราบว่ามีพิธีถวายตัวตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ทั้งนี้อยากฝากบอกคู่กรณีว่าในฐานะที่ตนเองนับถือเหมือนพี่สาว จนถึงขณะนี้ก็ยังให้ความเคารพนับถือเหมือนเดิม แต่จะทำอะไรขอให้คิดให้ดีก่อนนึกถึงวันเวลาที่เคยลำบากมาด้วยกัน กว่าที่จะมีวันนี้ได้


ด้านทนายความ ระบุว่า ส่วนในคดีที่ทางฝั่งหญิงสาวมีการแจ้งข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ในข้อหาข่มขืน ตนเองก็จะพาลูกความเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อพิสูจน์ความจริงและต่อสู้คดี




ทั้งนี้ ทีมข่าวได้เดินทางมาพูดคุยกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้เผยว่า จากการที่ผู้เสียหาย นำวัตถุมงคลมาในวันนี้ ถ้าให้พูดจริงตัวราคาของตัววัตถุมงคลนั้นมันไม่ได้มีมูลค่าอย่างที่มีการนำมาตั้งราคาขาย อย่างการประเมินของอาจารย์ต้อย เมืองนนท์ เซียนพระที่ได้รับการยอมรับ เมื่อเห็นสิ่งของก็ไม่ถึงหลักร้อย ยิ่งเป็นตลับขี้ผึ้งมันไม่ถึงหลักแสนอยู่แล้ว


และจริง ๆ ในเรื่องของมูลค่า ความเสียหายที่บอกหลัก 10 กว่าล้าน ถ้าเทียบจริง ๆ มันไม่มีทางที่จะถึง มูลค่าที่มีการฟ้องร้องได้เลย และต้องบอกว่าในการฟ้องร้องนั้นมันไม่ได้เป็นจำนวนเงิน แต่มันเป็นเรื่องของวัตถุมงคลที่อยู่กับผู้เสียหายในตอนนี้ แต่ไม่ใช่ไม่อยากนำไปคืน มันเป็นในเรื่องของอาจารย์โออยากได้เป็นเงิน ไม่อยากได้เป็นของกลับไป จนทำให้ของยังคงแพ็กเพื่อส่งคืนครบทุกชิ้น ถ้าจะเรียกมูลค่าความเสียหายหลัก 10 ล้าน มันทำได้จริงเหรอ และถ้าเสียหายขนาดนั้น ทางอาจารย์โอก็ต้องชี้แจงให้ได้เช่นกัน ว่ามูลค่าวัตถุมงคลนั้นมีมูลค่าถึงที่ฟ้องร้องจริงหรือไม่


ทั้งนี้ ทางด้านของผู้เสียหายนั้น มีการนำวัตถุมงคลมาขายหน้าร้านหลาย 10 ปีแล้ว รายได้ถึง 70-80 ล้าน และรายได้ทั้งหมด มีการส่งมอบให้กับอาจารย์โอ อย่างชัดเจนในหลักฐาน หรือแม้กระทั่งผลกำไร ที่อาจจะมีการตกลงกัน 20-30% แต่โอนจริง ๆ มากกว่านั้นก็มี เพราะมีการกล่าวอ้างจะนำเงินไปสร้างสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเมื่อถามว่าสร้างจริงไหม ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน




ในช่วงเวลาที่อาจารย์โอ ให้นำวัตถุต่าง ๆ มาขาย ด้วยความเชื่อ ความศรัทธา ที่เขาพยายามยกตนเป็นคนสูงส่งนั้น ตัวผู้เสียหาย ไม่เคยทราบถึงตนทุนของวัตถุมงคล หรือมวลสารก็ไม่เคยทราบ ทราบแต่ว่าเป็นของดีของอาจารย์โอ แต่เมื่อวันนี้ มีการนำมาให้ผู้ช่วยชาญด้านวัตถุมงคลได้เห็น มันเป็นผ้ายันต์ และวัตถุมงคลที่ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์ หรือเหมาะสมกับราคาที่ตั้งไว้สูงถึงหลังหมื่น หลักแสน และมันไม่ได้เป็นวัตถุมงคลที่เสริมชีวิต แต่มันเป็นเรื่องของกามทั้งนั้น ซึ่งถ้าเป็นพระจะไม่สร้างวัตถุมงคลแบบนี้ เพราะนำมาขายให้เหล่าลูกศิษย์ได้


และต้องเผยว่า ทุกอย่าง หรือยอดการเงินทั้งหมด ทางผู้เสียหายมีบิล มีหลักฐานการโอนส่งให้อาจารย์โอ และการเสียภาษีทั้งหมดอย่างถูกต้อง ดังนั้นในเรื่องของคดีก็ต้องไปสู้ชั้นศาล ซึ่งสิ่งที่ตนต้องการจริง ๆ มันไม่ได้อยากไปแตะในเรื่องของคดี แต่แค่เป็นการออกมาตีแผ่ในเรื่องของคนที่บวชในศาสนาเป็นพระ ไม่ควรมีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์กับใคร ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา มันจะไม่ผิดอะไรเลย




พร้อมทั้งนี้ ทีมข่าวยังได้รูปวัตถุมงคล ของอาจารย์โอ ที่เป็นประเด็นการฟ้องร้องในตอนนี้


- แหวนพิรอด วงใหญ่ 56,000 บาท , วงเล็ก 16,000 บาท
- ปถมังโลกี พิธีอัษฎาง พิมพ์พระเจ้า 3 ลึงค์ ชิ้นละ 100,000 บาท
- ปถมังโลกี พิธีอัษฎาง พิมพ์สาริกาตันตระกามสูตรกำเนิดกาม ชิ้นละ 70,000 บาท
- ผงมหาวิเศษอิทธิเจ แท่งละ 16,000 บาท
- งั่งซาลาดิน อุ้มนาง ชิ้นละ 3,600 บาท
- ผ้ายันต์งั่งซาลาดิน ผืนละ 56,000 บาท
- สีผึ้งพยองคำ ตลับละ 50,000 บาท


ศิษย์ "อ.โอ" โต้ผัวเมียถูกลวงเซ็กซ์หมู่ แฉวัตถุมงคลที่แท้ไม่มีราคา