สืบนครบาล ตัดวงจรมิจฉาชีพ รวบคู่หูอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ผันตัวเป็นเอเย่นต์ขายซิมม้า และบัญชีม้า
ตำรวจสืบนครบาล นำกำลังเข้าจับกุมตัว นางสาวกฤษณา เผือกจันทึก อายุ 25 ปี และนางสาวนภัสสร ลิขิตสกุลชัย อายุ 28 ปี สองคู่หูอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ผันตัวเป็นเอเย่นต์ขายซิมม้า และบัญชีม้า พร้อมของกลาง ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งาน จำนวน 10 ซิม / ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังไม่มีการลงทะเบียน จำนวน 490 ซิม / สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมที่ลงทะเบียนผูกบัญชี เปิดบัญชีโดย นายอุทัย จำนวน 1 ชุด / สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมที่ลงทะเบียนผูกบัญชี เปิดบัญชีโดย นางสาวอารียา จำนวน 1 ชุด / และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง ขณะที่กำลังถือลังกระดาษที่มีซิมม้า และบัญชีม้ามาขายให้กับสายลับ ที่บริเวณถนนในซอยอรรถกระวี แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (16 มิ.ย.67)
สืบเนื่องจาก ตำรวจสืบนครบาล สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้ว โดยบุคคลอื่นพร้อมใช้ และบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 จึงได้ให้สายลับติดต่อล่อซื้อพูดคุยกันผ่านข้อความทางเฟซบุ๊ก โดยผู้ลักลอบจำหน่ายได้นัดหมายกันในวันที่ 15 มิถุนายน เวลาประมาณ 22.00 น. โดยต่อรองกันจนตกลงซื้อขายซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 500 ซิม ในราคา 5 หมื่น 5 พันบาท และสมุดบัญชี พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมซึ่งผูกบัญชี จำนวน 2 บัญชี ในราคา 2 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 7 หมื่น 5 พันบาท
โดยผู้ลักลอบจำหน่ายได้นัดหมายเบื้องต้นที่บริเวณหลังห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ แต่เมื่อถึงเวลา ปรากฏว่าผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กยังไม่มาตามนัด และได้แจ้งว่าโทรศัพท์แบตจะหมด ให้ติดต่อกันผ่านข้อความทางเฟซบุ๊ก จนต่อมาในเวลา 01.45 น. วันที่ 16 มิถุนายน ตำรวจที่เฝ้าจุดสังเกตการณ์ อยู่บริเวณภายในซอยอรรถกระวี เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ผู้ลักลอบจำหน่ายได้นัดพบที่หน้าร้านซูชิ ภายในซอยดังกล่าว จากนั้นมีรถเก๋งรับจ้าง สีดำ ขับเข้ามาที่จุดนัดหมาย ซึ่งมีนางสาว นภัสสร นั่งคอยอยู่บนรถ ก่อนที่นางสาว กฤษณา จะถือลังกระดาษลงมาจากรถ ตรวจสอบพบว่าภายในกล่องดังกล่าวมีซิมจำนวน 500 ซิม และสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็ม และซิมซึ่งผูกกับบัญชีดังกล่าว จำนวน 2 ชุด ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้ พร้อมของกลางดังกล่าว
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า ทั้งคู่เคยไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ไปอยู่มา 2 ปี แล้วหนีกลับมา ก่อนผันตัวมาขายซิมโทรศัพท์ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหาจำหน่ายซิมม้า และร่วมกันเป็นธุระจัดหาจำหน่ายบัญชีม้า” ก่อนนำตัว พร้อมของกลาง ส่ง สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบนครบาล กล่าวว่า อยากขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกลวงให้เปิดบัญชีม้า และเปิดซิมโทรศัพท์มือถือ เพื่อไปใช้ในการกระทำผิด แลกกับค่าจ้างเพียงไม่กี่บาท ซึ่งคนร้าย จะนำซิมการ์ดที่ได้ไปใช้กระทำความผิด เช่น ใช้โทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อ / ใช้ประกอบการเปิดระบบธนาคารออนไลน์หรือเปิดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรอรับเงินโอนจากการหลอกลวงเหยื่อหรือรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด / ใช้ผูกกับบัญชีสื่อสังคมออนไลน์แล้วนำไปใช้กระทำความผิด ซึ่งตามกฎหมายแล้ว คนที่เปิดบัญชีม้า และคนที่เปิดซิมม้า นั้น ถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ