เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สภ.หนองหมากฝ้าย ติดตามเหตุชายคลุ้มคลั่งภายในบ้าน หมู่ 9 บ้านท่าพระจันทร์ ต.หนองน้ำใส อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายพรชัย หรือ แดง อายุ 45 ปี โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วย อาละวาดโดยใช้อาวุธมีด ควงไปมาและได้ทำลายข้าวของทุบโอ่งน้ำแตก ข้าวของเสียหายหลายอย่าง หลังจากเจ้าหน้าที่มาถึงจึงได้เข้าระงับเหตุโดยยิงลูกกระสุนยางไป 2 นัด แต่ชายคลุ้มคลั่งยังไม่หยุด ยังถือมีดเดินเข้าหาเจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนที่บรรจุกระสุนจริงยิงเข้าใส่ชายคลุ้มคลั่งลูกกระสุนพลาดเข้าที่ลำคอ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่




ล่าสุดทางทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านที่นายพรชัยอยู่ อาศัยบริเวณรอบรอบบ้านนั้นจะพบข้าวของกระจัดกระจาย รอยเผาไหม้สิ่งของ รวมทั้งร่องรอยการทำลายข้าวของจนแตกและเสียหาย บริเวณจุดพื้นที่หลังบ้าน พบร่องรอยกระสุนปืนบนต้นไม้ ซึ่งเป็นรอยถากหลายจุดเกิดจากวิถีกระสุน




โดยวันนี้ทางด้านพลตำรวจตรีออมสิน บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และ พ.ต.อ.ศุภชัย ใจการ ผู้กำกับสภหนองหมากฝ้าย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางมาบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมกับพูดคุยกับทางญาติพี่น้องของนายพรชัย ผู้เสียชีวิต


และขณะที่ พลตำรวจตรีออมสิน และ พ.ต.อ.ศุภชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะเดินทางกลับ กลับปะทะกับทางญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและเกิดมีปากเสียงกัน โดยทางญาติของผู้เสียชีวิตได้ตั้งคำถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมถึงชี้แจงว่าส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุเหตุการณ์เมื่อวานถึง 6 นาย ทั้งที่ความจริงแล้วมาเพียง 3 นายเท่านั้น อีกทั้งเพราะเหตุใดจากการร่ำเรียนมาถึงไม่ใช้อาวุธปืนยิงสกัด แขนหรือขา หรือจุดที่ไม่สำคัญก่อน ทำไมถึงเลือกที่จะยิงเข้าศีรษะจนกระทั่งเสียชีวิตคาที่




ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามชี้แจงถึงเหตุผล ว่าคงต้องมีการตรวจสอบกันก่อน แต่ยืนยันว่าทางด้านผู้เสียชีวิตมีอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจกระทำไปเพราะเหตุสุดวิสัยและป้องกันตัว หลังจากนี้รับรองว่าจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย และจะให้ความยุติธรรมกับผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน


ทีมข่าวได้รับภาพวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตเดินทางไป ซื้อของหน้าหมู่บ้าน ก่อนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปง้อภรรยา ก่อนเดินทางกลับบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจมายิงวิสามัญ เสียงปืนดังลั่นกว่า 3 นัด ซึ่งภาพวงจรปิดมุมที่ 1 เวลา 9.53 น. ขณะที่นายพรชัยเดินออกมาจากบ้าน เพื่อซื้อของที่ร้านค้าหน้าซอย ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ก่อนเดินทางกลับเข้าไปบ้านอีกครั้ง






ภาพวงจรปิดมุมที่ 2 เวลา 12.21 น. ก่อนเกิดเหตุนายพรชัยขี่รถมอเตอร์ไซค์ เวฟสีดำ ไปขอคืนดีนางพรทิพย์ ภรรยาที่บ้านท่าช้าง ผ่านบริเวณหน้าร้านรับซื้อไม้ ห่างจากบ้านของนายพรชัยประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นภาพวงจรปิดมุมที่ 3 เวลา 14.51 น. ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุนายพรชัยคลุ้มคลั่ง และขี่รถมาที่บ้านของนายพรชัย ซึ่งจุดนี้ห่างจากบ้านของนายพรชัยประมาณ 200 เมตร ส่วนภาพวงจรปิดมุมที่ 4 ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังลั่น 3 นัด โดยจุดนี้ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร


ทางด้านนางสาวพรทิพย์ ภรรยานายพรชัย ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทางทีมข่าว ตนกับสามีอยู่กินกันมามีลูกด้วยกันสองคนขณะนี้อายุประมาณสองขวบ โดยเมื่อช่วง 4-5 ปีก่อน นายพรชัยมีปัญหาสุขภาพจิตหนัก แต่ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างแน่นอน ส่วนพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นก็มีดื่มบ้างตามประสา ทางญาติพานายพรชัยเข้ารับการรักษาที่ และรับยาจิตเวชมาทานอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งอาการกลับมาเป็นปกติจึงกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านตามเดิม ที่ผ่านมานายพรชัยนั้นเป็นคนอารมณ์ร้อนโมโหง่าย แต่ก็ขยันทำมาหากินมาโดยตลอด


แต่ช่วงหนึ่งเดือนให้หลังมานี้ นายพรชัยเริ่มมีสภาวะจิตใจกลับสู่สภาพเดิม มีอาการทางสุขภาพจิตหนักขึ้นเรื่อย ๆ ชอบเพ้อและพูดคนเดียว โมโหขี้หงุดหงิดและด่ากราดคนอื่นไปทั่ว อีกทั้งชอบทำลายข้าวของ และขับรถวนไปวนมาตามหมู่บ้าน จนทุกคนลือกันว่าเป็นคนสติไม่ดี จนกระทั่งก่อนจะเกิดเหตุตนกับนายพรชัยมีปัญหาและทะเลาะกันหนัก เพราะเรื่องนายพรชัยหึงหวงตน กล่าวหาว่าตนนั้นเป็นชู้กับคนงานขุดมันสำปะหลังในหมู่บ้าน และด่าทอว่าตนหยาบคาย ทำให้ตนทนไม่ไหวและหอบเสื้อผ้าพร้อมลูกหนีออกมาจากบ้าน ในวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนมาอาศัยอยู่บ้านแม่ของตัวเอง จากนั้นนายพรชัยก็มีการเดินทางมาขอคืนดี พร้อมกับเดินทางมาหาลูกบ้าง จนกระทั่งนายพรชัยกลับมาอยู่ที่บ้าน คงเกิดความเครียดสะสมดื่มเอ็ม 150 และแอลกอฮอล์ อีกทั้งมีภาวะเครียดอยู่แล้วจึงอาจทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งได้




สาเหตุในการคลุ้มคลั่งครั้งนี้ของนายพรชัยนั้น ตนคิดว่าส่วนใหญ่สาเหตุคงมาจากการที่นายพรชัยทะเลาะกับตนเอง เพราะในพรชัยนั้นบ่นและเพ้อตลอด ว่าตนเองไม่ยอมคืนดีด้วยและไม่ยอมกลับไปอยู่บ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพราะย้ายออกมาจากบ้านแล้ว มาทราบเรื่องอีกทีจากทางญาติว่านายพรชัย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญจนกระทั่งเสียชีวิต


เมื่อตนมาทราบเหตุรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทำเกินกว่าเหตุไปมาก ไม่คิดถึงว่าทางด้านนายพรชัยนั้น ยังมีลูกเล็กและมีภรรยารออยู่ อีกทั้งยืนยันว่านายพรชัยนั้นไม่มีอาวุธปืนในครอบครองอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นอาวุธปืนของนายพรชัยเลย หลังจากนี้ทางด้านครอบครัว ยืนยันว่าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายพรชัยอย่างถึงที่สุด อาจจะไปร้องศูนย์ดำรงธรรม และวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ขณะที่ นายวินัย อายุ 46 ปี พี่ชายของนายพรชัย และนางสาวสมหวัง อายุ 43 ปี พี่สะใภ้ของนายพรชัย เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่อง 8 ว่า บ้านของตนนั้นตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงบ้านของนายพรชัยผู้เสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุตนเห็นว่าทางด้านนายพรชัยนั้นเกิดอาการคลุ้มคลั่ง มีการนำมีดมาทุบและฟันทำลายข้าวของบริเวณภายในบ้าน แต่ก็ไม่ได้ออกมาทำร้ายใคร หลังจากนั้นทางด้านเพื่อนบ้านในละแวกจึงโทร. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุเหตุการณ์ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงนั้น มาพร้อมไม้ง่ามและอาวุธปืน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินเข้าหานายพรชัยเพื่อที่จะระงับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเห็นว่านายพรชัยไม่มีการต่อสู้แต่อย่างใด เห็นเพียงนายพรชัยพยายามวิ่งหลบไปบริเวณหลังบ้าน




จากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้อาวุธปืนมายิงสกัด โดยยิงเป็นกระสุนยางไปก่อน 2 นัด ก่อนจะยิงกระสุนจริงเข้าบริเวณศีรษะของนายพรชัยจนกระทั่งเสียชีวิตคาที่ โดยจังหวะหลังจากนายพรชัยล้มลงแล้วเสียชีวิตแล้วนั้น ตนเห็นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้าไปเอาปืนลูกซองในบ้านของนายพรชัยออกมา คาดว่าตั้งใจจะเอาไปไว้บริเวณข้างศพของนายพรชัยหรือไม่ ตนจึงตะโกนห้ามไว้ว่าอย่าเอาปืนไป จะเอาปืนไปไหน เอาวางลง หลังจากนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีท่าทีมีพิรุธ พร้อมกับเดินวนไปวนมาอยู่บริเวณแถวนั้น




สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าเกินกว่าเหตุไปมาก ทั้งทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่ำเรียนวิชามา คงพอรู้วิธีการระงับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ว่าควรจะยิงสกัดบริเวณที่ไม่ใช่จุดสำคัญหรือไม่ ไม่ใช่ยิงเข้าบริเวณจุดสำคัญจนเสียชีวิตแบบนี้ หลังจากนี้อยากจะวอนขอความเป็นธรรมให้กับนายพรชัยอย่างถึงที่สุด


ล่าสุดวันนี้เวลาประมาณ 19.00 น. ทางญาติได้ดำเนินการไปรับศพ และนำศพนายพรชัยกลับมาที่วัดท่าพระจันทร์ เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ญาติต่างพากันร้องไห้เสียใจ ส่วนทาง พลตำรวจตรีออมสิน บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และ พ.ต.อ.ศุภชัย ใจการ ผู้กำกับ สภ.หนองหมากฝ้าย ได้ส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาส่งมอบพวงหรีดให้แก่ นางจำปี แม่ผู้เสียชีวิต เพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง และจะเดินทางมาร่วมพิธีกรรมทางศาสนาอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.)

 

ญาติโวย! ตำรวจทำเกินเหตุวิสามัญหนุ่มคลั่ง คาใจทำไมยิงคอไม่ยิงขา