"ฝ่ายค้าน" มีมติไม่รับหลักการงบ 68 วาระแรก เหตุรัฐบาลเบียดบังงบดัน "ดิจิทัลวอลเล็ต" เกินไป "ศิริกัญญา" ให้โอกาสปรับปรุงถึงวาระสาม ถ้ายังดื้อดันต่อ ขู่ร้องศาลระงับไม่ให้เกิด
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2567 ที่อาคารรัฐสภา วิปฝ่ายค้าน นำโดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(ปวิปฝ่ายค้าน) พร้อมด้วย สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงข่าวมติวิปฝ่ายค้านถึงแนวทางในการลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า ทุกพรรคเห็นไปในแนวทางเดียวกัน ว่าการจัดสรรงบประมาณปี 68 ฉบับนี้ ไม่เหมาะสมกับประเทศไทยในอนาคต มีความพยายามที่จะเบียดบังงบประมาณ เพื่อให้นโยบายของพรรคที่เป็นแกนนำจะตั้งรัฐบาลนั้น สามารถสำเร็จลุล่วงได้ โดยไม่สนใจว่าจะไปเบียดบัง งบประมาณส่วนอื่นพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค จึงมีมติร่วมกันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568
ด้านนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงเหตุผลที่พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่รับร่างฉบับนี้ ว่า มี 3 เหตุผล 1.เรากำลังจัดทำงบประมาณที่พาประเทศเข้าไปเสี่ยง ทั้งเรื่องของปัญหาทางการคลัง เสี่ยงที่ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อสู้กับความท้าทายใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นได้ ปีนี้เป็นปีที่เราขาดทุนสูงที่สุด และมีการขาดดุลงบประมาณเต็มเพดาน จนทำให้ประเทศไม่สามารถที่จะรองรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในอนาคตได้เพียง เพื่อที่จะต้องทำโครงการที่เป็นโครงการเรือธงโครงการเดียวของรัฐบาลคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
2.รัฐบาลพยายามที่จะทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมากจึงละเลยโครงการที่สำคัญของตนเองโครงการอื่น เช่น ignite Thailand ,Soft Power ,โครงการที่ช่วยเหลือ SME ต่างๆจนงบประมาณไม่เพียงพอ 3. ประเทศยังคงมีความท้าทายใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย
จึงไม่สามารถที่จะรับร่างงบปี 68 เพียงเพื่อที่จะส่งมอบนโยบายที่เป็นเรือธงใหญ่นโยบายเดียวได้ แต่นโยบายอื่น ถูกละเลย รวมถึงการเตรียมความพร้อม กับความท้าทาย ใหม่ๆที่ประเทศจะต้องรับมือ
ส่วนจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการ จัดสรรงบประมาณให้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ตามกระบวนการทางกฎหมายถ้าต้องการยับยั้ง โครงการเรือธงอย่างน้อยก็ต้องรอให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผ่านวาระ 3 ไปก่อนเพราะอาจจะมีการแก้ไขได้ในชั้นกรรมาธิการ แต่หลังจากนั้นถ้ายังจะดื้อดึงที่จะทำต่อจนโครงการนี้เกิดขึ้นจริงก่อน จึงจะมีการไปร้องต่อศาล วันนี้ถือว่าการกระทำยังไม่เกิด ส่วนการทำงานในชั้นคณะกรรมาธิการนั้น รอบนี้คงไม่มีเหตุผลข้ออ้างใดๆ กรรมาธิการจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพื่อให้งบประมาณปี 68 เป็นไปยังมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายมากที่สุด
ขณะที่นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์เองก็มีมติ ไม่เห็นชอบไม่รับหลักการร่างพรบฉบับนี้ ด้วยประเด็นที่เห็นว่างบประมาณในปีนี้มีความพยายามที่จะกู้เงินเพื่อไปทำโครงการที่สำคัญของรัฐบาล อย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะโครงการนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณปีนี้เพียงอย่างเดียว ยังต้องกลับไปใช้ปี 67 และต้องออก พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมอีก และมีความพยายามที่จะกู้เงินจาก ธกส.อีก ซึ่งต้องแลกมาด้วยค่าเสียโอกาสที่จะสามารถนำไปทำโครงการอื่นๆได้ รัฐบาลคนฟังคำทวงจริงจากหลายๆภาคส่วน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งรัฐบาลไม่ใส่ใจปัญหาอื่นๆของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจปากท้อง มิจฉาชีพ สิ่งแวดล้อม แต่งบประมาณก็ยังจัดสรรแบบเดิมๆ
ด้านนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ยืนยันว่าความมีประสิทธิภาพในการจัดทำงบประมาณชุดนี้ของรัฐบาล ขาดไป ไม่สามารถตอบสนองพันธกิจต่างๆความจำเป็นเร่งด่วน รัฐบาลไม่ได้เอาประชาชนไปศูนย์กลางจริงๆ เอาแต่ความต้องการส่วนพรรคส่วนตน
เมื่อถามว่าจะมีมาตรการลงโทษ สส.โหวตสวนอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ ว่า แต่ละพรรคคงต้องควบคุมเสียงของตนเอง และแต่ละครั้งก็ต้องมีการลงโทษทางพรรคของตนเอง หากไม่สามารถควบคุมเสียงของตนเองได้ เพียงแต่ตอนนี้มีมติร่วมกันว่าไม่รับหลักการ
เมื่อถามว่าแล้วในส่วนพรรคก้าวไกลลงโทษอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ ยิ้มและกล่าวว่า ส่วนของพรรคก้าวไกลยืนยันไม่มีคนโหวตสวนแน่นอน พร้อมกล่าวว่า ขณะที่ภาพรวมการอภิปรายทั้ง 3 วัน เป็นไปในทางที่ดีเน้นเนื้อหาจริงๆ ฝั่งรัฐบาลก็ไม่ได้ลุกขึ้นประท้วงอะไร เราพูดกันด้วยเนื้อหาพูดกันด้วยสาระ การชี้แจงและอภิปรายที่ดีเป็นที่น่าพอใจ
ด้านนางสาวศิริกัญญา กล่าวเสริมว่า ขอชื่นชมการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะ สส.ฝั่งเพื่อไทยที่ในรอบนี้มีการเตรียมการในการอภิปรายมาเป็นอย่างดี และมีข้อมูลที่ค่อนข้างหนักแน่นแต่น่าเสียดาย ที่ข้อมูลที่หนักแน่นนั้นไม่สามารถที่จะเป็นเหตุผล กับการจัดงบประมาณที่เกิดขึ้นได้เลยเหมือนบอกเหตุผลอีกอย่างแต่งบประมาณจัดอีกอย่าง แต่ก็เข้าใจว่า สส.อาจจะเพิ่งเข้ามาเห็นงบประมาณ จึงอยากเสนอแนะว่าในโอกาสหน้าให้เข้าไปร่วมในกระบวนการจัดทำเพื่อได้ขับเคลื่อนนโยบายที่ตัวเองเห็นว่าสำคัญตามเหตุผลที่ได้ อภิปรายและทำให้เกิดขึ้นจริงในงบประมาณปีต่อไป ไม่ฉะนั้นจะเห็นว่าเหตุผลทุกอย่างงบประมาณจัดอีกอย่าง