จากกรณีเวลา 04.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน 2567 ทางอาสาสมัครกู้ภัยศรีสำโรงได้รับแจ้งจาก สภ.ศรีสำโรง ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน เหตุเกิดบริเวณ ม.1 ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย จึงออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียว บริเวณด้านบนบ้านพักเป็นห้องนอนใหญ่ มีเบาะที่นอน 2 จุด เบาะที่นอนที่ติดกับประตูห้องนอน พบร่างของ ด.ช.ภูผา อายุ 12 ขวบ ลูกชายคนโตผู้ก่อเหตุบนที่นอนถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะ บาดเจ็บสาหัส เลือดกระจายบนที่นอน ซึ่ง ด.ช.ภูผา ยังมีสติหายใจรวยริน


และด้านหลังตู้เสื้อผ้าพบเบาะที่นอนอีกอัน มีร่างของนายดนัย อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุ นอนคว่ำหน้า เลือดกระจายที่บริเวณพื้นห้องและที่นอน ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ใต้คางแล้วทะลุตาด้านซ้าย บาดเจ็บสาหัส ข้างร่างนายดนัยพบปืนไทยประดิษฐ์หักลำเบอร์ 12 อยู่ที่พื้น และข้าง ๆ ร่างนายดนัยมีร่าง ด.ช.ธันยา อายุ 6 ขวบ ลูกชายคนกลางของผู้ก่อเหตุ ถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะ บาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา นั้น




วันนี้ (21 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 รายงานบรรยากาศที่ วัดศรีนิโครธาราม อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ทางครอบครัวของนายดนัย ผู้ก่อเหตุ มีอาและเพื่อนผู้ก่อเหตุมารอทำพิธีเก็บกระดูก ด.ช.ธันยา อายุ 6 ขวบ หลังเมื่อวานทางครอบครัวประกอบพิธีฌาปนกิจศพน้องธันยา โดยบรรยากาศพิธีเก็บกระดูกวันนี้ไร้เงา “หมวย” และญาติของหมวย ฝ่ายแม่น้องธันยาที่มาร่วมเก็บกระดูกน้องธันยา มีเพียงญาติและเพื่อนของดนัย ฝ่ายพ่อน้องธันยาที่มาร่วมเก็บกระดูกเท่านั้น


โดยทางสัปเหร่อที่เผาศพพาทีมข่าวไปดูเถ้ากระดูกของน้องธันยาที่อยู่หลังเตาเผาในเมรุ ซึ่งจำนวนอัฐิและกระดูกมีเพียงนิดเดียวเนื่องจากเผาร่างเด็กอายุ 6 ขวบ ใช้เวลาเผาเพียง 1.30 ชั่วโมง ไฟมอดไม่ร่างของน้องเหลือเพียงอัฐิและเถ้ากระดูก โดยไม่มีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งก่อนที่นำร่างของน้องเข้าเตาเผาเมรุ น้องธันยานอนตายตาหลับจากนั้นสัปเหร่อนำเถ้ากระดูกของน้องมาก่อเป็นรูปคน เพื่อเตรียมทำพิธีเก็บกระดูก


ต่อมาพระสงฆ์พาทำพิธีเก็บกระดูก โดยสวดบังสกุลตายและบังสกุลเป็นก่อนเทเถ้ากระดูกลงบนห่อผ้าขาวแล้วนำกลีบกุหลาบโปรยเท่ากระดูกนำธนบัตร 100 บาทใส่เถ้ากระดูกเพื่อซื้อที่ให้คนตาย จากนั้นพรมน้ำมนต์ที่เถ้ากระดูก ซึ่งเถ้ากระดูกที่ทำพิธีในครั้งนี้จะนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำยม




ขณะที่ บรรยากาศที่บ้านพักของ “หมวย” ใน อ.กงไกรลาส จ.สุโขทัย “หมวย” ชวนแม่และญาติให้พาเดินทางไปที่วัดเพื่อถวายสังฆทานแผ่บุญกุศลให้น้องธันยา หลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้ “หมวย” ไม่กล้าไปร่วมประกอบพิธีเก็บกระดูกลูกชายคือน้องธันยา ที่วัดศรีนิโครธาราม เพราะไม่กล้าสู้หน้าญาติของดนัยและกลัวญาติทางนั้นต่อว่าที่ “หมวย” ทิ้งลูก โดยหมวยให้ญาติพาไปวัดโดยขี่ จยย. ไปที่วัดดงเดือย อ.กงไกลลาศ




จากนั้นเจ้าตัวพร้อมแม่ได้ถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์ที่วัดดงเดือย ซึ่งหมวยมีสีหน้าท่าทางเรียบเฉยขณะถวายสังฆทาน โดยพระที่พาทำพิธีก็บอก “หมวย” หลังถวายเสร็จให้กรวดน้ำที่ต้นไม้แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ลูก ขณะที่ “หมวย” กรวดน้ำใต้ต้นไทร ระหว่างกรวดน้ำ หมวยได้บอกลูกว่า “ขอให้ผลบุญนี้แก่เด็กชายธันยา จันทร์สำลี ขอให้ไปสู่สุคติ” ทีมข่าวก็ถามอีกว่า “อยากบอกลูกอะไรเพิ่มไหม” หมวยตอบ “ไม่มีค่ะ”




ต่อมา “หมวย” แม่ของน้องธันยาและภูผาเปิดใจกับเราอีกครั้งหลังถวายสังฆทานให้ลูกที่เสียชีวิต บอกว่า เมื่อสักครู่ที่ตนเองกรวดน้ำให้กับน้องธันยา ตนบอกกับลูกว่าขอให้ลูกไปสู่สุคติ และตนเสียใจที่ไม่ได้ไปร่วมพิธีเก็บกระดูกลูก แต่ที่ไม่ไปเพราะไม่อยากถูกญาติดนัยด่าตนเอง พอทีมข่าวถามต่อว่า “ทำไมถึงกลัวญาติดนัยด่า” หมวยก็ตอบว่า “เขาเป็นคนพูดไม่ออกไม่รู้จะพูดอะไร”


ประเด็นแรก ตนยอมรับแล้วว่าตนผิดที่หนีออกจากบ้านเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน หอบน้องธีร์วัย 2 เดือน ออกมาด้วย ตอนนั้นตั้งใจว่าจะเอาน้องธันยาและน้องภูผาออกมาด้วย แต่ถ้าเอาออกมาทั้งหมดดนัยก็ตามเจอ เหมือนกับทุกรอบก่อนหน้านี้ที่ตนหนีมาก็เจอตนในที่สุด ส่วนที่ทุกคนสงสัยว่าน้องธีร์ใช่ลูกของดนัยหรือไม่ ญาติของดนัยก็เคยกดดันถามตนเองว่าใช่ลูกของดนัยหรือเปล่า “ตนก็พูดไม่ออกและนิ่งเงียบ” แต่ขอยืนยันกับทีมข่าวว่า น้องธีร์คือลูกของดนัย




ประเด็นสอง “หมวย” ยอมตอบหอบผ้าหอบผ่อนแล้วหนีจากบ้านดนัยหลายรอบไปอยู่ที่ไหน หมวยบอกว่า “ตนยืนยันว่าไปอยู่บ้านเพื่อน” จากนั้นทีมข่าวก็จี้ถามอีกว่า “ญาติบอกว่าหมวยเคยไปอยู่บ้านผู้ชายที่ จ.สุรินทร์” หมวยก็ตอบว่า “จ.สุรินทร์คือรอบแรกที่ตนหนีไป โดยรู้จักเพื่อนชายทางเฟซบุ๊ก พอพูดคุยกันแล้วสนิทใจที่เลือกหนีไป จ.สุรินทร์ เพราะมันใกล้ที่สุดแล้ว ยืนยันเป็นแค่เพื่อน”


ทีมข่าวก็ว่าอีกว่า “มีอะไรเกินเลยกันไหม” หมวยบอก “ไม่มีอะไรเกินเลยกับผู้ชายที่อยู่ที่บ้านพัก จ.สุรินทร์ แม้ว่าตัวผู้ชายจะอยู่ที่บ้านพักด้วยแต่ไม่ได้มีอะไรกัน” โดยตนเองไปอยู่บ้านผู้ชายที่ จ.สุรินทร์ ได้เพียงวันเดียว ตนก็นั่งรถทัวร์กลับมาที่จังหวัดสุโขทัยทันทีโดยตอนที่กลับมาที่บ้านพัก “ดนัย” ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรตน แล้วแต่นายก็บอกตนว่า “อย่าทำแบบนี้อีกนะ” ชี้คำพูดและการกระทำของดนัยสวนทางกัน ยืนยันตอนที่ตนเองไปอยู่ที่บ้านพัก จ.สุรินทร์ ลักษณะคล้ายกับที่ไปอยู่ที่บ้านพักเพื่อนชาย จ.ปราจีนบุรี ครั้งล่าสุด ความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเกินเลย




“หมวย” ยังเปิดใจกับทีมข่าวต่อว่า ประเด็นสามที่ญาติและชาวบ้านยืนยันว่า “ดนัย” ไม่เคยทำร้ายหมวยก็ตนไม่เคยพูดว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย เพียงแต่สามีกดดันด้วยคำพูดข่มขู่ทำให้ตนเครียด ตนจึงหนีออกจากบ้านเท่านั้น จากนั้นประเด็นสี่ แชตที่ “หมวย” ดีดตัวเองออกจากกลุ่มห้องเรียน ป.1 ของน้องธันยา วันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันที่หมวยหอบน้องธีร์หนีออกจากบ้านที่เกิดเหตุ




“หมวย” ตอบว่า กลัวครูจะติดต่อมา เป็นห่วงลูกแต่ก็ได้แค่เป็นห่วงเฉย ๆ ส่วนอีกแชตสองที่ครูในโรงเรียนทักมาบอกว่า น้องธันยาเสียชีวิตแล้วตนเองอ่านไลน์แต่ไม่ตอบ เพราะตนรู้ว่าลูกชายเสียชีวิต ก่อนที่ครูในโรงเรียนทักมาบอกก่อนหน้านี้แล้ว ยอมรับว่าบล็อกเฟซบุ๊กลูกชายทั้งสอง เฟซบุ๊กดนัย และบล็อกเฟซบุ๊กครูที่โรงเรียน “บล็อกเพราะเขาต้องติดต่อมาหาเราอยู่แล้ว”




ประเด็นที่ห้า “หนูรู้สึกผิด ผิดมากเลยรอบนี้ที่หนีออกมา ไม่คิดว่าเขาจะทำ รู้สึกผิดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกเลย” แล้วหมวยก็ร้องไห้และพูดว่า “อยากขอโทษ ที่แม่ทำแบบนั้นเพราะแม่มีเหตุผล” พอทีมข่าวถามต่อว่าอยากบอกอะไรลูกไหมที่เราหนีไปแล้วลูกเสียชีวิตอาจจะเข้าใจผิดว่าเราทิ้งลูก “หมวย” ตอบว่า “ไม่รู้จะพูดอะไรค่ะ ไม่ตั้งใจทิ้งลูกอยากเอาเขาไปด้วยมาก ๆ แต่กลัวลูกจะไปลำบากด้วยก็เลยไม่เอาไป”


ประเด็นหก ตนเองเชื่อว่าญาติของดนัยคงไม่ให้ตนเอากระดูกของน้องธันยากลับมาที่บ้าน ตนก็ต้องปล่อยให้ญาติของดนัยเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ส่วนประเด็นที่เจ็ด ยืนยันว่าตนเองไม่คิดที่จะเอาผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้นจากที่ลูกเสียชีวิตแล้ว ส่วนนี้ยกให้ญาติดนัยทั้งหมดไม่ขอรับ และในส่วนที่ญาติกังวลเพราะตนยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากับดนัย ตนจะได้สิทธิ์ในมรดกของด้านในหรือไม่ ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุพร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ รวมทั้งรถกระบะ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์การช่าง รวมมูลค่าที่ประเมินเบื้องต้นครึ่งล้านบาท “ยืนยันไม่อยากยุ่งแล้วไม่ขอยุ่ง ญาติดนัยจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไป”

 

"หมวย" กลัวถูกรุมประชาทัณฑ์ ไม่กล้าไปเก็บกระดูกลูกได้แต่แอบไปทำบุญ