จากกรณีที่ น้องจีน เด็กชายวัย 14 ปี ได้มีการโพสต์คลิปตามแม่ให้แม่กลับมาหา นั่นคือ น.ส.นิจวรา อายุ 34 ปี หรือ ส้ม หลังจากที่ได้ทอดทิ้ง น้องจีนและน้องอีกสองคนให้อยู่เพียงลำพังกับพ่อคือ นายสิทธิชัย สามี โดยในช่วงเมื่อวานทีมข่าวได้เข้าไปพบครอบครัวดังกล่าว และได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นในวันนี้ (21 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ติดตามหา น.ส.นิจวรา แม่ของเด็กชายทั้งสามคน




หลังจากนั้นทีมข่าวจึงได้ทราบข้อมูลว่า นายพันศักดิ์ อายุ 49 ปี หรือ ดำ ได้พา น.ส.นิจวรา ไปอยู่ในสวนปาล์มซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่ได้ทิ้งให้เด็กอยู่เพียงลำพังประมาณ 10 กิโลเมตร ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของนายพันศักดิ์ เมื่อทีมข่าวได้เดินทางถึงบ้านหลังดังกล่าว จึงได้พบกับนายพันศักดิ์ หรือ นายดำ โดยได้ชี้แจงกับทีมข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเห็นว่า นายสิทธิชัย และ น.ส.นิจวรา เป็นเหมือนน้องชายน้องสาวของตน เมื่อก่อนทั้งสองคนทำงานเก็บของเก่าขาย จากนั้นตนจึงได้ชวนไปกรีดยางบนเขา โดยตนได้ให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท




ซึ่งในระหว่างนั้น น.ส.นิจวรา ก็ได้พาลูกทั้งสามคนขึ้นไปอยู่ด้วย ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นอายุได้ 20 ปีแล้ว จึงอยู่กับครอบครัวของเขา ซึ่งในระหว่างที่เด็ก ๆ ได้ขึ้นไปอยู่บนเขานั้น ตนเป็นผู้ดูแลโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการซื้อกับข้าวหรือซื้อขนม ตนก็จะคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด โดยทางพ่อของเขาไม่เคยมาซื้อข้าวของอะไรให้เลย และระยะหลังนายสิทธิชัยได้มีการหึงหวงตนกับภรรยาของเขา ตอนนั้นตนยืนยันว่าตนไม่ได้คิดอะไร คิดแต่เพียงเป็นพี่และน้องเท่านั้น โดยนายสิทธิชัยได้มีการพูดจาดูถูกภรรยาของเขากับตนว่าเป็นชู้กัน ระยะหลังตนจึงแบ่งสวนยางให้กรีดยางขายคนละครึ่งกับตน


ซึ่งยางที่กรีดได้นั้นตนก็ให้เขานำไปขายด้วยตัวเองเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว แต่นายสิทธิชัยกลับมีอาการหึงหวงรุนแรงมากขึ้น และมักจะมีปากเสียงกับภรรยาของเขา จนกระทั่งภรรยาเขากลับมาอยู่ที่บ้านที่คลองท่อมพร้อมกับลูกทั้งสามคน และได้มีการติดต่อตนกลับไปเพื่อที่ให้มารับ เพราะทนพฤติกรรมของนายสิทธิชัยไม่ไหว โดย น.ส.นิจวรา ได้มาบอกกับตนว่านายสิทธิชัยพูดจาดูถูกรุนแรง และมีพฤติกรรมใช้ยาเสพติด จนกระทั่งทนไม่ไหวจึงได้ให้ตนพาหนีไปอยู่ที่อื่น ระยะแรกตนก็มองว่า น.ส.นิจวรา เป็นน้องสาวแต่หลังจากที่เขาได้มีปัญหากับสามี และขอให้ตนช่วยเหลือพาไปอยู่ที่อื่นความสัมพันธ์ของตนกับ น.ส.นิจวรา จึงเปลี่ยนเป็นการคบกันในลักษณะชู้สาว




ซึ่งในตอนนั้นตนก็เลยถามกลับไปว่า จะนำลูกไปอยู่ด้วยหรือไม่ แต่เมื่อมาคิดดูแล้วเด็กทั้งสามคนยังเรียนหนังสืออยู่ และกลัวว่าจะลำบากที่จะต้องไปอยู่ในสวนยางและสวนปาล์ม ตนจึงได้บอกกับ น.ส.นิจวรา ว่าให้ขึ้นไปกับตนเพียงสองคนก่อน โดยไปทำงานระยะหนึ่งแล้วค่อยส่งเงินกลับมาให้ลูก เพราะไม่เช่นนั้นจะลำบากหลายเรื่อง


ซึ่งจากกรณีดังกล่าวที่เด็ก ๆ ได้มีการโพสต์ทวงถามถึงแม่ของเขา ตนยืนยันว่าตนไม่ได้พาแม่ของเขาหนีมา เพียงแต่แม่ของเด็ก ๆ นั้นขอให้โปรดช่วยพาหนีมา เนื่องจากทนพฤติกรรมของพ่อเด็ก ๆ ไม่ไหว และตนก็ยืนยันด้วยว่าตนไม่ได้พาแม่ของเด็ก ๆ หนีและให้ทิ้งเด็ก ๆ ไว้เพียงลำพัง โดยเด็ก ๆ นั้นไม่ได้อยู่อย่างลำบาก ซึ่งก่อนที่ตนจะออกมา ตนก็ทิ้งเงินไว้ให้จำนวน 200 บาท และก็ได้บอกกับแม่ของเขาว่า เดี๋ยวค่อยส่งเงินกลับไปให้ ซึ่งในตอนนี้เด็ก ๆ ก็ได้อยู่กับพ่อของเขา ซึ่งตนก็อยากจะถามว่า ทำไมพ่อของเขาถึงไม่ดูแลเด็ก ๆ


ทั้งนี้ทางด้านน้องสาวของพ่อเด็ก ๆ ได้มีการนำรูปของตนไปโพสต์ลงโซเชียลและสร้างความเสียหายให้กับตน ซึ่งในตอนนี้ตนก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ ว่าตนไม่ได้เป็นคนพาแม่ของเด็กหนีมา อีกทั้งตนยังถูกนำรูปไปลงในโซเชียลซึ่งเป็นการหมิ่นประมาท โดยหลังจากนี้ตนก็จะดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งตนยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ว่าตนไม่ได้เป็นคนพาแม่ของเด็กหนี เพียงแต่แม่ของเด็กขอให้ตนช่วยพาหนี เนื่องจากว่าทนพฤติกรรมของพ่อเด็กไม่ไหว




นอกจากนั้นทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ น.ส.นิจวรา อายุ 34 ปี หรือ น.ส.ส้ม ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก ๆ ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนยอมรับว่าตนเป็นคนให้พี่ดำพาหนีออกมาจากบ้านนั้นเอง เพราะตนทนพฤติกรรมของสามีของตนไม่ไหว ในเรื่องการต่อว่าดูถูกว่าตนเป็นชู้กับพี่ดำ อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยมีการลงไม้ลงมือกับตน และยังเรื่องพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดของสามีของตน จึงทำให้ตนไม่อยากอยู่ด้วยและต้องขอร้องให้พี่ดำผ่าตัดออกมาจากบ้าน เพื่อไปอยู่ที่อื่นซึ่งในตอนนั้นต้นก็บอกกับพี่ดำว่าให้พาต้นไปอยู่ที่ไหนก็ได้


ในส่วนที่ตนต้องทิ้งลูกออกมาแล้วในเรื่องนี้ ตนก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทิ้งลูก ๆ ออกมา แต่ตนทนพฤติกรรมของสามีของตนไม่ไหวจริง ๆ ก่อนหน้านี้ตนอยู่ด้วยกันมา 21 ปี แต่สามีของตนไม่เคยสร้างอะไรเลยมีแต่ทำลาย และทำให้ครอบครัวไม่เจริญก้าวหน้าตน จึงอยากออกมาเพื่อที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว




จากกรณีที่ลูกของตนได้มีการโพสต์ลงโซเชียล และเรียกร้องให้ตนกลับไปนั้น ตนคิดว่าต้องมีคนสอนให้ลูกของต้นพูดเพราะปกติลูกของตนจะไม่เป็นเด็กเช่นนี้ นอกจากนี้ยังได้มีการนำรูปพี่ดำไปโพสต์ลงโซเชียลในเรื่องนี้ก่อนก็ได้ให้พี่ดำไปลงบันทึกประจำวันและแจ้งความไปแล้ว


ซึ่งในตอนนี้ลูกของตนก็ได้อยู่กับพ่อของเขา ก็มีความเป็นอยู่ที่ดี โดยไม่ได้ลำบากอะไร โดยช่วงที่ตนได้ทิ้งรูปมานั้นตนได้ทิ้งบัตรเอทีเอ็มไว้ตังค์ในบัตรนั้นไม่มีเงินอยู่เลย ซึ่งตนได้ทิ้งไว้เพราะว่าในช่วงแรกก่อนคิดว่าจะโอนเงินเข้าเอทีเอ็มดังกล่าวเพื่อให้ลูกได้ใช้ในการกินอยู่ แต่ช่วงหลังมานี้ตนเกรงว่าสามีของตนคือพ่อของเด็ก ๆ นั้น จะนำไปใช้ซื้อยาเสพติดตนจึงไม่โอนเงินดังกล่าวเข้าไป


ทั้งนี้ในตอนนี้ต้นยังไม่พร้อมที่จะรับลูกทั้งหมดมาอยู่ด้วย เส้นทางอนาคตตนสามารถตั้งตัวได้ ตนก็จะไปรับลูกมาอยู่ด้วยอีกทั้งต้นก็จะขอหย่ากับสามีของตนและจะมาอยู่กับพี่ดำ ซึ่งเขาดูแลตนได้ดีกว่าสามีของตน


จากนั้นทีมข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของเด็กทั้งสามคน ซึ่งในวันนี้โรงเรียนได้ปิดในช่วงเทศกาลอารีรายอ น้องจีน น้องนิว และน้องจิ๋ว ก็ได้ยินอยู่ที่บ้านพร้อมกับพ่อของเขาโดยทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับ นายสิทธิชัย อายุ 47 ปี (พ่อของเด็ก) ถึงกรณีที่ น.ส.นิจวรา ได้เปิดใจกับทีมข่าวถึงเรื่องต่าง ๆ โดยนายสิทธิชัยได้ชี้แจงกับทีมข่าวว่า กรณีเรื่องที่ภรรยาของตนได้กล่าวอ้างว่าตนทำร้ายร่างกายนั้นไม่เป็นความจริง โดยเหตุการณ์ที่ตนถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายภรรยานั้น มีเพียงครั้งเดียวเมื่อช่วงปีที่แล้ว ในตอนนั้นต้นกับภรรยามีปากเสียงกัน ภรรยาของตนได้ขว้างเหล็กมาใส่ตน




หลังจากนั้นตนจึงเกิดความโมโห จึงจะวิ่งไปหยิบขวานที่อยู่ที่พื้น โดยในตอนนั้นภรรยาของตนก็ได้วิ่งเข้ามาด้วย แต่ตนได้ถือขวานก่อนจึงได้หยิบขวานขึ้นมา ภรรยาของตนจึงวิ่งหนีและไปสะดุดล้มหัวกระแทกพื้นเป็นแผลเท่านั้น แต่กลับกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ทำร้ายร่างกาย


ในส่วนเรื่องที่ตนถูกกล่าวหาว่าพูดจาดูถูกเหยียดหยามภรรยา ในเรื่องนี้ตนก็ไม่เคยพูดและไม่เคยกล่าวหาอะไรทั้งสิ้น อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันหรือไม่ และอาจจะเป็นข้ออ้างของภรรยาของตนที่จะไม่กลับมาอยู่กับตนละลูก และในเรื่องการใช้ยาเสพติดนั้น ตนยอมรับว่าตนใช้ยาเสพติดบ้างบางครั้ง ยาเสพติดที่ตนใช้ก็คือยาบ้า ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนไปกรีดยางอยู่บนเขานั้นทาง ด้านนายดำก็เป็นคนที่เอามาให้ตนเสพ และยาเสพติดนั้นตนก็ไปเอามาจากนายดำโดยตลอด ซึ่งตัวนายดำเองนั้นก็มีการใช้ยาเสพติดเช่นกัน


และในเรื่องที่มากล่าวหาว่าตนเป็นคนสอนให้ลูกของตนพูด และโพสต์ลงในโซเชียลนั้น ในเรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริงตนยืนยันว่าให้สอบถามกับลูกของตนได้เลย เพราะลูกของตนนั้นได้ทำเองทั้งหมดและไม่มีใครสอน เรื่องทั้งหมดนั้นภรรยาของตนพูดไม่เป็นความจริงเลย มีแต่เรื่องโกหก โดยหลังจากนี้ตนจะจัดการในเรื่องลูกของตนให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นกดจะไปฟ้องชู้เนื่องจากตนกับภรรยาของตนนั้นได้จดทะเบียนสมรสกัน ในส่วนของนายดำนั้นเป็นมือที่สามที่เข้ามาพาภรรยาของตนไป ในเรื่องนี้ตนก็จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

 

เจอแล้ว! แม่ทิ้งลูก 3 คนไปกับผัวใหม่ เปิดใจชัด ชวนคนใหม่หนีเองทิ้งเงิน 200 ไว้ให้ลูก