สืบ บก.น.7 ขยายผลบุกทลายโรงงาน ผลิตยาแก้แพ้ปลอมย่านไทรน้อย เสียหายกว่า 100 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.7 ได้นำหมายค้น ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 548/2567เข้าตรวจค้นสวนกระท่อมล้อมรั้วสังกะสีทึบ ไม่มีเลขที่ ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยภายในสวนดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ มีโรงงานและเครื่องจักรสำหรับผลิตและบรรจุสินค้าขนาดใหญ่ จากการตรวจจค้นพบ
1. ยาแก้แพ้ (ปลอม) ขนาด 60ml ที่บรรจุเสร็จแล้วติดฉลาก ยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) จำนวน 60 ลัง จำนวน 12,000 ขวด
2. เครื่องจักรบรรจุ ยาแก้แพ้ชนิดน้ำ 2 เครื่อง
3. เครื่องจักรปิดฝา 1 เครื่อง
4. เครื่องจักรติดฉลาก 1 เครื่อง
5. ฉลาก ยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น)
6. เครื่องรัดกล่องกระดาษ 1เครื่อง พร้อมเชือกรัดกล่อง 35 ม้วน
7. รถยนต์ตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน ฒห 6766 กทม
8. ขวดเปล่าบรรจุยา 80,000 ใบ
9. รถแฮนด์ลิฟต์ 1 คัน โดยมีนายฐนกฤต หรือมี่ อภิมหาเจริญไพศาล อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของ และนายทวีศักดิ์ หรือเอส นามสกุล คำภูผา อายุ 25 ปี เป็นผู้ดูแล
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากบริษัทที่ผลิตและจัดจำหน่ายยาแก้แพ้ยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยพบว่ามีการลักลอบผลิตยาเลียนแบบขึ้นมา โดยใช้ฉลากและบรรจุภัณฑ์ ที่เหมือนกับของแท้มาผลิตและจัดจำหน่ายเอง ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ธรรมศาลา จนกระทั่งมีการล่อซื้อและจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน จากนั้นได้ทำการขยายผลไปถึงต้นตอแหล่งผลิตจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางไว้ได้ทั้งหมด
นายฐนกฤต ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยมีนายทวีศักดิ์ หรือเอสฯ เป็นผู้จัดการและได้ร่วมกันผลิตยาแก้แพ้ยี่ห้อ allergin syrup (อเลอร์ยิ่น) ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบจริง เมื่อผลิตเสร็จทางหุ้นส่วนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามที่สั่งไว้ และจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปโดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำการตลาด โดยลักลอบผลิตยาปลอมมาได้ประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งสูตรที่ผลิตยาตัวนี้ทางหุ้นส่วนเป็นคนได้มา ตนเองเป็นเพียงพ่อค้าคนกลาง ส่วนเครื่องจักรทั้งหมด ตนเป็นคนสั่งมาเอง และเป็นคนลงทุนทั้งหมด ออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเดือนนึงตกประมาณ 50 ลัง บรรจุลังละ 200 ขวด ราคาลังละ 9,000 บาท
นายณัฐวุฒิ สิมานุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการสืบทราบมาว่ามีการปลอมแปลงยาของบริษัทฯ จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ธรรมศาลา ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทได้ประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลของกลุ่มผู้ก่อเหตุกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอดจนกระทั่งนำไปสู่การจับกุม ซึ่งการผลิตยาปลอมครั้งนี้ทางบริษัทมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท เชื่อว่าเขาทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยเขาจะนำสินค้าไปวางขายในร้านขายยาทั่วไป และขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น หลังจากนี้ทางบริษัทจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ กก.สส.บก.น.7 เพื่อทำบันทึกการจับกุม และบันทึกตรวจยึดของกลางทั้งหมด โดยแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ข้อหา 1.มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิ์ประกอบการวิชาชีพโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต 2.ร่วมกันขายยาปลอมโดยผิดกฎหมาย 3.นำชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใดๆในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า หีบห่อวัตถุที่ใช้หุ้มห่อเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของผู้อื่น จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป