จากกรณีพบร่างคนถูกเผานั่งยางบนท่อนไม้ สภาพนอนหงายไหม้ เหลือแค่กระโหลกศรีษะกับอุ้มเท้าข้างซ้าย บริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ไม่พบหลักฐานระบุตัวตน ทราบร่องรอยตรงจุดเกิดเหตุเพียงเบื้องต้น คาดว่าผู้เสียชีวิตเป็นชาย สูงประมาณ 170 ซม. อยู่ในวัยทำงาน และคาดว่าถูกการฆาตกรรมมากจากที่อื่นแล้วนำศพมาเผาทิ้ง เนื่องจากศพที่ถูกเผาอยู่ในท่าที่ถูกมัดมือไขว้หน้าอก แล้วนอนบนท่อนไม้ทับด้วยยางรถจักรยานยนต์อีกชั้น




นอกจากนี้ ยังพบอุปกรณ์เสพสารเสพติดตกอยู่บริเวณใกล้กับศพ จากลักษณะการก่อเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะมากัน 2-3 คน ดูได้จากร่างของผู้เสียชีวิตที่มีรูปร่างใหญ่ ประกอบกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นท่อนไม้ซึ่งเชื่อว่านำมาจากที่อื่น หรือยางรถจักรยานยนต์ที่มีจำนวนมากกว่า 6 เส้น รวมไปถึงระยะทางที่ต้องเดินเท้าจากถนนลูกรังเข้าไปยังจุดเกิดเหตุอีกพอประมาณ 150 เมตร ส่วนเมื่อวานนี้ภายหลังจากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุและได้ส่งเศษชิ้นส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ไปยัง รพ.ขอนแก่น เพื่อตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล




ล่าสุด (22 มิ.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุศพปริศนาถูกนั่งยางเผากลางป่า ที่บริเวณป่ารกร้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล บ้านป่านเจริญ ต.เดื่อศรีคันไชย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โดยจุดเกิดอยู่ห่างจากถนนเส้นทางหลักประมาณ 500 เมตร เข้าไปเป็นถนนลูกรังขรุขระ ส่วนจุดพบศพต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าอีกประมาณ 200 เมตร โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สำหรับต้อนวัวออกไปเลี้ยงตามป่า ตามเขา และหาของป่า ซึ่งต้องใช้ความชำนาญในการเดินทางค่อนข้างสูง จึงไม่มีใครสัญจรผ่าน ส่วนที่จุดเกิดเหตุที่ชายนิรนามถูกเผานั้น เหลือแค่เพียงเศษลวดจากยางรถจักรยานยนต์และท่อนไม้ที่ใช้ก่อเหตุ




ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่ สภ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร หลังทราบว่า มีญาติเข้ามาติดต่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้่ที่ตำรวจ กรณีลูกชายหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยทีมข่าวได้พบกับ นางเกศ อายุ 54 ปี พร้อมกับญาติรวม 3 คน ได้เดินทางเข้าลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สภ.เจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร ว่า นายสัณหาณัฐ หรือนายนิมิตร อายุ 33 ปี ลูกชาย หายตัวไปตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้




โดยนางเกศ เล่าว่า นายนิมิตร ลูกชาย ทำงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลหนองแปน อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร โดยจะออกไปทำงาน 06.00 น. กลับบ้านช่วง 13.00 น. วันที่หายไปเมื่อวานนี้หลังจากเลิกงานช่วง 13.00 น. นายนิมิตรได้กลับมาที่บ้านแล้วมีโทรศัพท์เข้ามาในมือถือ ก็ร้อนรนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านไป ก่อนออกไปบอกแม่แค่ว่าจะไปอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี และบอกให้แม่เอากับข้าวไปให้ญาติ จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นฟีลาโน่ สีดำ น้ำตาล ยังไม่มีทะเบียน (รถเพิ่งซื้อใหม่)




จนถึงตอนนี้ครอบครัวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับนายนิมิตร ตั้งแต่เมื่อวานติดแต่ไม่มีคนรับโทรศัพท์ จนล่าสุด 17.00 น. พบว่าโทรศัพท์โทร. ไม่ติดแล้ว ทำให้ครอบครัวเป็นห่วงมาก ส่วนลูกชาย ยอมรับว่า มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และติดเพื่อนมาก แต่ปกติลูกชายจะหายไปแค่วัน 2 วันก็กลับบ้าน แต่ถ้าไม่กลับตนก็ติดต่อได้ตลอด หรือบางครั้งโทรศัพท์ไม่ติด ลูกชายก็จะใช้โทรศัพท์เพื่อนโทรมาหาตลอด แต่ครั้งนี้เงียบหายไปตั้งแต่วานนี้




ขณะที่เมื่อช่วงเช้าเพื่อนบ้านได้นำภาพข่าวชายนิรนาม ถูกเผาในป่ามาให้ดู จึงกังวลใจว่าจะเป็นลูกชายหรือไม่ เพราะจุดที่พบศพ นายนิมิตร ก็เคยไปบริเวณนั้น และส่วนสูง 160-170 ซม. ก็ใกล้เคียงกับลูกชาย ตอนนี้ก็เป็นห่วงลูกชายอย่างมาก เพราะปกติไม่เคยไปค้างคืนที่ไหน จึงอยากให้ข้อมูลตำรวจไว้ช่วยติดตามหาอีกทางหนึ่ง


ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอ้วน เพื่อนสนิทของนายนิมิตร ทราบว่า ปกติตนเองและนายนิมิตร จากโทรศัพท์พูดคุยกันตลอดเวลาเป็นประจำทุกวัน ล่าสุดเมื่อเช้าวานนี้ตนเองได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายนิมิตรปกติ ก็ไม่ได้มีท่าทีผิดสังเกตแต่อย่างใด จนกระทั่งประมาณ 11.00 น. ตนได้โทรศัพท์หานายนิมิตรอีกครั้ง แต่นายนิมิตไม่ได้รับสาย ตนจึงทำงานต่อ เพราะโดยปกติแล้วหากนายนิมิตรไม่ได้รับสาย ก็จะโทรศัพท์กลับมาหาตนเอง แต่เมื่อวานทั้งวันกลับไม่โทร. ติดต่อกลับมา




จนกระทั่งเช้าวันนี้ทางแม่ของนายนิมิตรได้โทรศัพท์มาบอกตนเอง ว่านายนิมิตรหายตัวไปตั้งแต่เมื่อเช้านี้ จึงรู้สึกเป็นห่วงมาก เนื่องจากปกตินายนิมิตรจะออกไปหาเพื่อนหรือหาใคร ก็ไม่ค่อยบอกตนเองมากนัก แต่ก็ไปไม่นานวันสองวันก็กลับมา แต่ในครั้งนี้เงียบหายผิดสังเกต จึงเป็นกังวลมาก ส่วนกรณีล่าสุดที่นายนิมิตรบอกกับแม่ว่าจะไปที่ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ตนเองก็ไม่ทราบว่านายนิมิตรไปหาใคร เพราะตนไม่เคยทราบเลยว่านายนิมิตรมีเพื่อนอยู่ที่ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรฯ ขณะเดียวกันตนเองได้โทรศัพท์ไปหานายนิมิตรตั้งแต่เช้า แต่ก็ไม่มีคนรับสาย ซึ่งผิดวิสัยของนายนิมิตร ที่จะต้องติดต่อได้


ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาพูดคุยกับนายวุธ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี คนพบศพคนแรก เล่าว่า โดยปกติตนเองจะต้อนวัวและควายออกไปเลี้ยงตามทุ่งหญ้าเป็นประจำทุกวัน โดยใช้เส้นทางหลักผ่านจุดที่พบศพ ช่วงเย็นประมาณ 5-6 โมงเย็นตนก็จะต้อนวัวและควายกลับบ้าน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร


ส่วนวันเกิดเหตุวันนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ตนเองได้ต้อนวัวและควายออกจากบ้านเหมือนเช่นทุกวัน และก็ได้ผ่านจุดเกิดเหตุสังเกตเห็นว่ามีกองขี้เถ้าและเศษไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างห่างจากตนเองประมาณ 10 เมตร ในตอนนั้นจึงนึกเอะใจว่าชาวบ้านมาลักลอบเผาขยะในที่ของคนอื่น แต่เนื่องจากกล่องคิดเท่าดังกล่าวไม่มีกลิ่นเหม็นคล้ายกับคนเผาขยะ




ตนจึงได้เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ถึงกับต้องตกใจ เพราะตนเห็นเท้าทั้งสองข้างอยู่ในกองขยะพร้อมกับเศษลวด ส่วนบริเวณอื่นตนเองไม่ทันสังเกต เนื่องจากว่ามีขี้เถ้าทับถมกันเป็นกองขนาดใหญ่ ด้วยความตกใจตนเองจึงได้รีบวิ่งไปหาชาวบ้านที่เลี้ยงควายด้วยกันเพื่อแจ้งให้กับผู้นำหมู่บ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ


นายวุธ บอกว่า เมื่อวานนี้ช่วงเช้าและช่วงเย็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ตนเองต้อนวัวกลับบ้านและได้ผ่านจุดที่พบศพไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ขณะเดียวกันเส้นทางที่ผ่านเข้าไปยังจุดเกิดเหตุหากเป็นคนในพื้นที่จะรู้ว่าสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ส่วนช่วงที่ตนเองต้อนวัวออกไปเลี้ยงจนกระทั่งไปเจอศพตนเองยอมรับว่าไม่ได้ทันสังเกตว่ามีรอยล้อรถหรือไม่ อีกทั้งสองวันก่อนในพื้นที่ก็มีฝนตกลงมาปรอยปรอยจึงทำให้ตนไม่เห็นรอยล้อรถแต่อย่างใด


ล่าสุด ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเจริญศิลป์ จ.สกลนคร ได้มีการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์และได้มีการลงบันทึกประจำวันให้กับนางเกศ พร้อมจะมีการกระจายข่าวตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อตามหาบุคคลต่อไป

 

มัดมืออุ้มทิ้งป่าเผานั่งยาง คาดเป็นเจ้าหน้าที่โรงเรียนหายตัว