จากกรณีในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. คลองท่อมและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ได้มีการควบคุมตัว นายประไพ อายุ 77 ปี ซึ่งตามพยานและหลักฐานซึ่งเป็นภาพวงจรปิดนั้นได้พบว่านายประไพได้เข้าไปยังบ้านของผู้เสียชีวิตในช่วงวันที่เกิดเหตุแต่หลังจากนั้นไม่ปรากฏภาพของนายประไพเดินออกมาจากบริเวณบ้านซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าหลังจากที่นายประไพเข้าไปก่อเหตุน่าจะ หลบหนีออกทางหลังบ้าน ซึ่งในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. คลองท่อมในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นนายประไพยังให้การปฏิเสธ ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาว่าอะมูลเหตุในการก่อเหตุนั้น น่าจะมาจากเรื่องพฤติกรรมเรื่องชู้สาว ของนายประไพ

 

โดยในวันนี้ทีมข่าวจึงได้เข้าไปบ้านซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุอีกครั้งซึ่งเดี๋ยวนี้ทางญาติได้อยู่ภายในบ้านโดยทีมข่าวได้พบกับ นางเงียบ อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิตได้พาทีมข่าวเดินดูภายในบ้านซึ่งได้พบว่าตามภาพวงจรปิดนั้นนายประไพได้เข้าไปภายในบ้านของผู้เสียชีวิตแต่ไม่มีภาพปรากฏว่านายประไพเดินออกมาจากบ้าน นางเงียบถึงได้ชี้ให้ทีมข่าวได้เห็นว่า บริเวณด้านหลังบ้านของผู้เสียชีวิตนั้น สามารถเดินทะลุออกไปได้และสามารถเดินอ้อมไปยังบ้านของนายประไพซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 ได้ เพราะบริเวณด้านหลังนั้นจะเป็นลักษณะสวนยางที่เชื่อมต่อกันและไม่มีกำแพงกั้น จากนั้นนางเงียบยังได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ตนเองนั้นเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิตหลังจากทราบเรื่องก็ได้เดินทางมาที่บ้านแห่งนี้เลยและรู้สึกเสียใจมากที่น้องสาวถูกก่อเหตุดังกล่าว ในส่วนของนายประไพนั้นตนก็รู้จักเพราะแต่ก่อนตนก็พักอาศัยอยู่แถวนี้ ซึ่งในเมื่อก่อนนั้นนายประไพก็เป็นคนดีคนหนึ่งและยังเป็นเหมือนญาติของตน แต่ในช่วงหลังมานั้นเหมือนเขามีอาการป่วยทางจิตและไม่ค่อยมีใครอยากจะไปสุงสิงด้วย

 

ในส่วนเส้นทางหลังบ้านนั้นก็สามารถทะลุไปถึงบ้านของนายประไพได้เพราะเป็นลักษณะสวนยางและไม่มีกำแพงกั้น

 

ก่อนหน้านี้ภรรยาของนายประไพก็ยัง มาให้น้องสาวของตนนวดอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้ตนไม่ทราบมูลเหตุที่ทำให้นายประไพต้องมาฆ่าน้องสาวของตน

 

ในตอนนี้ตนก็ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังไม่สามารถตอบได้ว่านายประไพเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตัวรู้สึกสงสารน้องสาวที่ต้องมาเสียชีวิตในลักษณะนี้และอยากให้น้องสาวไปสู่ภพภูมิที่ดี”

 

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจันทร์ (นามสมมติ) โดยได้เล่าว่า ครอบครัวนายประไพกับนางออง รู้จักกันมานานที่ผ่านมาไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน มิหนำซ้ำยังช่วยเหลือเกื้อกูลกันดีต่อมาโดยตลอดทำให้วันที่เกิดเหตุไม่มีใครคิดเลยว่าคนร้ายจะเป็นนายประไพ แต่หากถามถึงพฤติกรรม และนิสัยของนายประไพทุกคนในชุมชนรู้ดีว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้ายและใจคอโหดเหี้ยม เคยฆ่าคนมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยถูกดำเนินคดีและไม่เคยเป็นเรื่องเพราะทุกครั้งจะมีการชดใช้เงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตศพละหนึ่งล้านบาท เธอบอกว่า พฤติกรรมที่นายประไพทำทุกคนรู้ หากเขาไม่พอใจ ขัดแย้งใคร ก็จะยิงโดยไม่คิด และไม่กลัวความผิด เคยใช้มีดปาดคอ และปืนยิงตายมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 5 ศพ 

 

ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวของนายประพันธ์ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะให้ข้อมูล ซื้อถ้าหากว่านายประไพได้รับการประกันตัวออกมาผู้ที่ให้ข้อมูลนั้นก็เตรียมตัวที่จะต้องตายได้เลย ในตอนนี้คนในครอบครัวและคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลหรือให้พยานหลักฐานนั้นก็ต้องอยู่ในความกลัวด้วยกันทั้งหมดเนื่องจากกลัวว่านายประไพจะได้รับการประกันตัวออกมาแล้วจะออกมาก่อเหตุในลักษณะที่ได้ก่อเหตุกับนางละออง

 

ทั้งนี้ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและไม่อยากให้มีการประกันตัวออกมาเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านและบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้

แฉพฤติกรรมหนุ่มต้องสงสัย เอี่ยวคดียิงหมอนวดดับ ผงะ ยิง 5 ศพ ไม่ติดคุก?