อีกแล้วเพื่อนบ้านใจบุญเลี้ยงนกพิราบสร้างความเดือดร้อนในหมู่บ้านอย่างหนักเจ้าตัวแจง ใจบุญและนกพิราบไม่มีเชื้อโรคขณะที่เพื่อนบ้านบอกเดือดร้อนหนัก ผลกระทบต่อสุขภาพร้องเรียนหน่วยงาน เกือบ 10 ปีไร้ความเคลื่อนไหว

ปัญหาเรื่องการเลี้ยงนกพิราบของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่องรายล่าสุดก็พบแล้วเกิดขึ้นที่ใจกลางเมืองซอยโชคชัยสี่ ซอย 57 โดยเพื่อนบ้านได้ส่งเรื่องร้องเรียนมาทางทีมข่าว เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีที่เพื่อนบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ตรงกลางหมู่บ้านเลี้ยงนกพิราบโดยจะให้อาหารแต่ช่วงเช้ากลางวันและเย็นทำให้นก พิราบมาอาศัยอยู่จำนวนมากสร้างความเดือดร้อนทั้งขี้นกขับถ่ายเลอะไปทั่วบ้านขนนกปลิว ไปทั่ว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและเรื่องสุขภาพปัญหาระบบทางเดินหายใจความสะอาด

ทีมข่าวตรวจสอบคลิปที่ชาวบ้านส่งให้พบว่ามีนกพิราบจำนวนมากเกาะอยู่บนหลังคาบ้านและตามจุดต่างๆของบ้านเรือนชาวบ้านและ บ้านที่เกิดเหตุและหน้าบ้านในตอนเวลาที่ให้อาหารนกพิราบรวมไปถึง ขี้นกตามซอกมุมบ้านต่างๆทั้งระเบียงหลังคา ผนังบ้าน พื้นบ้าน

ทางด้านคุณ กุหลาบ (นามสมมติ) ซึ่งบ้านปลูกติดกันกับลุงเลี้ยงนกพิราบ เปิดเผยว่าบ้านตนเองต้องทนอยู่ในสภาพที่เรียกว่าเหมือนเป็นดงสวนสัตว์นกพิราบจะเห็นพยายามหาวิธีป้องกันไม่ให้นกพิราบมาที่บ้านทั้งการนำซีดีมาติดการกั้นพื้นที่แต่ก็ไม่สามารถ ห้ามได้ในแต่ละวันเวลาที่เค้าให้อาหารนกพิราบก็จะบินมาจำนวนมากระหว่างที่บินไปขนก็จะร่วงแล้วก็ขี้นกก็มีเลอะเทอะ ทำให้เดือดร้อนอย่างหนักบริเวณระเบียงบนชั้นสองของบ้านตอนนี้เป็นเหมือน จุดที่นกพิราบจะมาขี้บริเวณนี้ซึ่งพวกตนอดทนมานานร้องเรียนก็แล้วแต่ไม่มีใครช่วยเหลือได้เคยถามลุงคนเลี้ยงแล้วเขาก็ยังยืนยันว่าเค้าเลี้ยงในบ้านไม่ได้เดือดร้อนใครและล้างทำความสะอาดขี้นก ขนนกไม่ได้ให้ใครเดือดร้อนแต่ส่วนนกจะบินไปที่บ้านใครหรือทำความเดือดร้อนให้ใครก็ไม่สามารถห้ามได้แต่ เค้าอ้างว่านกมันจะไม่ไปกินเสร็จแล้วก็จะหนีซึ่งไม่เป็นความจริงจะสังเกตได้ว่าบ้านเพื่อนบ้านทุกคนจะมีซีดีห้อยอยู่บางบ้านก็นำโมบาย มาห้อยเพื่อขับไล่นกพิราบไม่ให้มาอยู่ในเขตบ้านของของตัวเอง อยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการดำเนินการเพราะต้องทนแบบนี้มากว่าแปดปีแล้ว แต่ไม่มีการร้องเรียนอย่างจริงจังพึ่งมาร้องเรียนอย่างจริงจังเมื่อปี 2565 แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ต้องทนอยู่แบบนี้ต่อไป

หลังจากที่ทีมข่าวลงพื้นที่คุยกับชาวบ้านที่เดือดร้อนก็ปรากฏว่า นายสมบูรณ์หรือลุงสมบูรณ์ก็ยอมเปิดใจกับทีมข่าวว่าเรื่องราวที่ชาวบ้านร้องเรียนนั้นไม่เป็นความจริงตนเองเลี้ยงนกไม่ได้ไปเดือดร้อนใครและทำความสะอาดทำความสะอาดเป็นอย่างดีเวลาให้อาหารก็ให้อาหารในบ้านพร้อมสาธิตให้ทีมข่าวดูการ ให้อาหารนกพิราบแค่เพียงถืออาหารออกมานกพิราบก็บินมาในบ้านจำนวนมากกว่า 30 ถึง 40 ตัวจากนั้นก็หว่านอาหารให้นกพิราบกินโดยลุงสมบูรณ์บอกว่าอาหารที่นำมาให้นกพิราบนั้นเป็นอาหารนกไม่ใช่เป็นเศษข้าวเศษอาหารซึ่งถ้าเป็นพวกนั้นจะทำให้เกิดเชื้อโรคแต่การให้อาหารนกอย่างดีก็เหมือนการเลี้ยงนกชนิดหนึ่งซึ่ง จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงนกพิราบเริ่มมาจากแม่ตนเองเห็นนกพิราบป่วยสามตัวก็เลยเลี้ยงดูแลพาไปหาหมอจนนกสามตัวนั้นแข็งแรงหลังจากนั้นมันก็เรียกพวกมันมาจึงต้องให้อาหารเพราะสงสารแต่ก่อนยอมรับว่าเคยให้อาหารบนหลังคา มีนกมาจำนวนมากและถูกร้องเรียนจึงเปลี่ยนมาเลี้ยงในบ้านแทน ตนเองไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครส่วนขี้นกก็ล้างทำความสะอาดขนนกที่ปลิวก็ล้างทำความสะอาดเช่นกัน 

ส่วนป้าข้างบ้านที่นกไปขี้ใส่นั้นตนเองก็ไปทำความสะอาดให้แต่ระยะหลังป่วยจึงไม่ได้ไปทำความสะอาดสิ่งที่เพื่อนบ้านพูด เป็นเรื่องของคนใจแคบและเป็นคนที่ไม่มีสมอง

ซึ่งตนยืนยันมา ตลอดหลังจากปรึกษาสัตวแพทย์ยืนยันว่านกพิราบไม่มีเชื้อโรคและหากมีเชื้อโรคตนเองก็คงป่วยและติดเชื้อไปนานแล้วแต่นกพิราบเหล่านี้ไม่มีที่อยู่ ไม่มีของกินก็จึงให้มันกินเปรียบเหมือนการทำบุญอย่างหนึ่ง และจะไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพราะไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

ก่อนหน้านี้เคยมีการร้องเรียนมาแล้วเรื่องการให้อาหารบนหลังคาตนก็ปรับเปลี่ยนไม่ให้บนหลังคาเป็นให้ที่หน้าบ้านแทนแต่อยู่ในพื้นที่บ้านของตนเองไม่ออกไปข้างนอกสวนนกมันจะบินออกไปข้างนอกไปตรงจุดไหนนั้นตนไปบังคับไม่ได้อยากบอกเพื่อนบ้านว่าอย่าใจแคบและ พวกที่ไปร้องเรียนเป็นคนที่ไม่มีสมอง