กรณีเพจ “เจ๊ม้อย V+” ลงคลิป พร้อมระบุว่า ”แบบนี้เค้าเรียกว่าขวางซอยมั้ย ??? หันหน้ามาคุยกันด้วยดีถอยคนละก้าว เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ใช้สติ ในการแก้ปัญหานะคะ ซอยอิสระภาพ” นั้น

 

วันนี้ (22 มิ.ย.) ทีมข่าวช่องแปด ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โดยได้เดินทางไปที่ซอยบริเวณวัดหิรัญรูจี ย่านวงเวียนใหญ่ เขตพื้นที่รับผิดชอบสน. บางยี่เรือ โดยพบว่าซอยดังกล่าวเป็นซอยหลังวัด และตัดทะลุออกแยกบ้านแขกได้ แต่จะเป็นซอยซึ่งมีความกว้างประมาณ 4 เมตรซึ่งเป็นซอยหลัก ส่วนซอยย่อยที่เข้าไปภายในบ้าน จะมีความกว้างประมาณ 3 เมตรครึ่ง และซอยที่เกิดเหตุนั้น เป็นซอยย่อย ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนตั้งอยู่หลายหลังลักษณะเป็นอาคารคูหา 3 ชั้น ลักษณะปลูกติดกัน 

 

ซึ่งตามคลิปที่ปรากฏจะเห็นว่า ก่อนหน้านี้มีรถเก๋งสี บรอนซ์เทา ป้ายทะเบียนกรุงเทพ จอดลักษณะขวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่ในช่วงที่ทีมเขาเดินทางไปถึง พบว่ารถเก๋งไม่ได้มีการจอดอยู่ มีเพียงรถมอเตอร์ไซต์จอดหน้าบ้านใครบ้านมัน , และจากกรณีที่ทีมข่าวขับรถเข้าไปทำการตรวจสอบภายในซอยดังกล่าว ไม่สามารถที่จะขับเข้าไปจนถึงท้ายซอยได้เพราะเนื่องจากทางค่อนข้างแคบ แม้ว่าบ้านที่หันหน้าชนกันจะเอารถมอเตอร์ไซต์จอดหน้าบ้านก็ตาม พื้นที่ว่างจะเหลือเพียงแค่ประมาณ 2 เมตร รถขาวก็ยังไม่สามารถที่จะขับเข้าไปถึงท้ายซอยได้เพราะเนื่องจากซอยแคบพอสมควร 

 

และนอกจากนี้ ทีมข่าวยังสังเกตว่า มีบ้านหลังสีน้ำเงิน ซึ่งด้านหน้าเปิดเป็นร้านเสริมสวย มีการนำกระถางต้นไม้ลักษณะใหม่ จำนวน 5 กระถาง นำมาวางเรียงเอาไว้ข้างบ้าน แทนตำแหน่งเดิมที่เคยเห็นรถเก๋งเคยจอดอยู่ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นข้างบ้านของบ้านร้านเสริมสวย เจ้าตัวจึงเอากระถางต้นไม้มาวางเพื่อป้องกันไม่ให้บ้านของชายที่ปรากฏอยู่ในคลิปเอารถเก๋งมาจอด 

 

ด้านนางสาวโซเฟีย (นามสมมติ) คู่กรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งเป็นหญิงที่ใส่เสื้อสีเทา โต้เถียงกับคู่กรณีเพื่อนบ้านที่จอดรถขวาง เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรก แต่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ซึ่งบ้านของตนเองยอมรับว่าเพิ่งเข้ามาซื้ออยู่ภายในซอยดังกล่าว 4 คูหา และกำลังมีการเรียกช่างมาทำการรีโนเวทเพื่อเข้าอยู่อาศัย 

 

โดยจุดเริ่มต้นเกิด (ตามคลิปต้นเรื่อง) จากเหตุ เมื่อวันจันทร์ ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยตอนนั้น ได้มีการให้รถช่างเอาของไปลงท้ายซอยบ้านที่กำลังจะมีการรีโนเวท แต่ปรากฏว่ารถของช่างเอาของไปลงไม่ได้เนื่องจากติดรถเก๋ง ของบ้านคู่กรณีที่จอดชิดกำแพงบ้านของเพื่อนบ้านอีกหลัง จึงทำให้มีเนื้อที่ไม่พอที่จะขับเข้า จึงได้ไปขอให้บ้านคู่กรณีขยับรถ แต่ก็เกิดประเด็นโต้เถียงกัน ถึงขั้นต้องเรียกตำรวจสน. บางยี่เรือเข้ามาเคลียร์ เพื่อขอขยับรถและเปิดทาง แต่ในวันนั้นเจ้าของบ้านที่บ้านคู่กรณีเอารถไปจอด ได้ทำตามข้อแนะนำของตำรวจโดยมีการเอากระถางต้นไม้มาวางเพื่อไม่ให้มีคนเอารถมาจอดขวาง เพื่อเป็นการกีดขวางการจราจรสำหรับการเข้าออกซอย เพื่อนบ้านซึ่งเป็นร้านเสริมสวยจึงได้มีการเอากระถางต้นไม้มาวาง ตามข้อแนะนำ

 

และต่อมา หลังจากที่เพื่อนบ้านเอากระถางต้นไม้มาวางเพื่อไม่ให้บ้านคู่กรณีจอด เจ้าตัวได้มีการเปลี่ยนเอาไปจอดเทียบหน้าบ้านของตัวเองแทน ทำให้พื้นที่แคบลงกว่าเดิม และรถที่เข้าออกก็ได้แต่มอเตอร์ไซค์ , โดยเมื่อวันพุธ ที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนเองกำลังจะเอารถขับไปลงของที่ต่อเติมบ้านต่อ แต่เนื่องด้วยรถเก๋งของบ้านคู่กรณีขวางหนักกว่าเดิม โดยจอดแปะที่หน้าบ้าน จึงทำให้มีพื้นที่กว้างไม่ถึงเมตร และไปขอให้มีการขยับรถก็ถูกต่อว่า และด่าทอ จึงทำให้มีการวิวาทะกัน 

 

ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น ตอนแรกก็ไม่ได้เกิดการโต้เถียงกันรุนแรง แต่ได้มีการไปขอให้มีการขยับรถตามปกติ เพื่อที่จะเอารถของช่างถอยเข้าไปลงของ แต่ระหว่างที่เดินไปบอกเสร็จแล้วตนเองกำลังจะเดินเข้าไปในบ้านท้ายซอย ได้มีคนในบ้านพูดทำนองว่า “ ไม่มีมารยาท มาขอให้เค้าขยับรถแล้วยังไม่ขอบคุณ ” แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากเผชิญหน้าจึงเดินเข้าบ้าน แต่ก็ยังมีการตะโกนทิ้งทวนอีกว่า “ไม่มีการศึกษา” จึงทำให้ตนเองต้องออกมาสอบถามว่า สรุปแล้วมีปัญหาอะไรเพียงแค่ขอให้มีการขยับรถ จึงได้มีการโต้เถียงกันอีกครั้ง ที่คลิปบันทึกเป็นครั้งที่2

 

โดยเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่บ้านของตนเองที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ แต่มีคนที่อยู่มานานกว่า 40 กว่าปี ก็ต้องเผชิญหน้ากลับบ้านหลังดังกล่าวจนไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง เพราะเขามีปัญหากับคนไปทั่ว ที่สำคัญบ้านบางหลังมีคนแก่ ก่อนหน้านี้ญาติจะพาไปส่งโรงพยาบาลก็เข้าออกลำบาก แถมยังต้องไปอ้อนวอนขอขยับรถเกือบทุกครั้ง และเวลาบ้านใด ไปขอให้มีการขยับก็จะถูกต่อว่าไม่ต่างจากบ้านของตนเอง ดังนั้น ทางออกที่ตนเองไปปรึกษา คือต้องมีการฟ้องต่อศาลเท่านั้น ตำรวจก็อ้างว่าไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ส่วนสำนักงานเขตก็ไม่เคยเข้ามากำกับดูแลโดยอ้างว่าอยู่นอกเหนือเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพราะไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ จึงทำให้ทุกวันนี้ก็ได้แต่รอ ขึ้นศาล

 

ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบนั้น ทีมข่าวยังได้เดิยทางไปเจอ กับบ้านที่เป็นคู่กรณีที่ปรากฏในคลิป โดยเป็นบ้านประตูสีเขียว (ขวามือในคลิป) โดยคนในบ้านดังกล่าวปฏิเสธที่ ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยขอชี้แจงผ่านประตูรั้ว โดยคนในบ้านทีมข่าวสังเกตว่ามีคนอาศัยอยู่ 3 คน เป็นหญิงสาว 2 คน และหญิงมีอายุ 1 คน แต่ไม่พบตัวชายคนที่ยืนโต้วาทะกับเพื่อนบ้านตามคลิป 

 

และในช่วงที่ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้าน ของบ้านคู่กรณี จากเดิมที่ปรากฏภาพและคลิปเห็นว่ามีการจอดรถจอดรถขวาง ในวันนี้ไม่เห็นรถเก๋งสีบรอนซ์เทาจอดอยู่แต่อย่างใด มีเพียงเพียงซอยว่างเปล่า มีเพียงรถมอเตอร์ไซต์ของบ้านหลังอื่นที่จอดอยู่หน้าบ้าน 

 

โดยคนในบ้านคู่กรณี เผยว่า ตนเองเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ แต่มันมีขบวนการของกลุ่มคนในซอยรวมหัวกันกลั่น ที่สำคัญมีเพื่อนบ้านคนใหม่ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ได้มีการกั้นซื้อตึก4คู่หา เพื่อทำการรีโนเวทแล้วปล่อยเช่า หรือปล่อยขาย ดังนั้นจึงเป็นขบวนการของกลุ่มนายทุนที่เข้ามาเพื่อที่จะซื้อตึก ในการปล่อยเช่าหรือเกร็งกำไร และด้วยความที่เจ้าตัวกำลังจะเปิดเป็นพื้นที่ให้เช่า หรือตึกเช่า ก็ต้องมีการเคลียร์พื้นที่โดยเฉพาะทางเข้าออกให้มีทางสะดวก เพราะฉะนั้นก็จะกระทบต่อธุรกิจของเขาที่กำลังจะทำอยู่ ดังนั้นจึงต้องมา จัดการพื้นที่โดยเฉพาะมา ให้รถของบ้านตนเองย้ายออกไปจอดที่อื่น 

 

และที่สำคัญ บ้านของเพื่อนบ้านคนอื่น แม้ว่าจะไม่มีรถมาจอดขวาง หรือไม่เอามาจอดทิ้งเอาไว้ แต่ก็ได้เอากระถางต้นไม้มาวาง กินพื้นที่ถนนทำให้แคบลง และเวลารถที่เข้าออกซอยก็จะทำให้เข้าออกไม่ได้ ที่สำคัญ ซอยนี้ไม่ใช่ซอยตัน หากเข้าไปแล้วสามารถที่จะเป็นลักษณะตัวยูไปออกอีกซอยได้ หากอ้างว่าซอยนี้มีบ้านของตนเองจอดรถขวาง ทำไมเพื่อนบ้านท้ายซอยไปออกอีกซอย ทั้งที่สามารถออกทะลุได้

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับตามคลิปที่ปรากฏและเรื่องที่เกิดขึ้น บ้านของตนเองยอมถอยแล้วนับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องและมีตำรวจเข้ามาเจรจา แต่ทั้งนี้เข้าใจว่าไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเพราะเนื่องจากเป็นพื้นที่เอกชนที่ทุกคนต้องใช้ร่วมกัน หรือเรียกได้ว่าเป็นถนนส่วนบุคคล ที่จะต้องตกลงพูดคุยกันด้วยดี แต่ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ บ้านของตนเองก็ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน จึงตัดสินใจย้ายรถไปจอดที่อื่นซึ่งวันนี้เป็นวันที่3แล้ว ที่ไม่ได้เอารถมาจอดที่ซอยหรือหน้าบ้าน โดยมีการไปเช่าพื้นที่เอกชนจอดเพื่อลดปัญหา และไม่ต้องการให้เป็นปัญหาทะเลาะกับเพื่อนบ้าน เรียกได้ว่าบ้านของตนเองยอมถอยแล้ว

ศึกเพื่อนบ้านทะเลาะฝีปากนัว ปมจอดรถขวางทางเข้าออกซอย