จากกรณีครอบครัวของผู้สูญหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลำพูน หลังนายฤชากร ใจสันติ อายุ 43 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม อ.เมือง หายตัวอย่างเป็นปริศนา เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยก่อนหายตัวนายฤชากร ขับขี่รถเก๋ง สีบอร์น ออกจากบ้านพัก ม.3 หมู่บ้านผาสุก ต.สันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เวลาที่ออกจากบ้านพักคือ 07.00 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน แต่งกายสวมกางเกงสแลคสีดำ สวมเสื้อสีชมพูหรือแดง เพื่อจะไปทำงานที่โรงเรียนสันป่างยางหน่อม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน แต่ไม่มีผู้ใดพบเห็นว่าได้มาที่โรงเรียนแต่อย่างใด จนถึงขณะนี้เมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปไม่สามารถติดต่อได้ ทางครอบครัวจึงเดินทางมาแจ้งความ พร้อมกับร้องสื่อให้ช่วยตามหาตัว




ล่าสุด (25 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่โรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม อ.เมืองลำพูน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่นายฤชากร หรือ “แบงค์” อายุ 43 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเจ้าตัวมารับตำแหน่งและเริ่มทำงานเมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า นายฤชากรมาทำงานที่โรงเรียนเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา คือวันที่ 14 มิถุนายน




จากภาพวงจรปิดกล้องตัวที่ 1-3 เวลา 10.19 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน จะเห็นนายฤชากรใส่เสื้อพื้นเมืองและเดินพูดคุยกับครูที่อยู่ในโรงเรียน หลังจากเจ้าตัวได้มาทำงานที่โรงเรียนแล้ว โดยคุยอยู่ครู่หนึ่งก่อนขอแยกตัวมาทำงานที่ห้องรองผู้อำนวยการ จากภาพจะเห็นนายฤชากรมีท่าทีปกติไม่เครียด แล้วหลังจากนั้นเจ้าตัวก็หายตัวปริศนา และไม่เดินทางมาทำงานที่โรงเรียนอีกเลย




ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาที่บ้านพักของนายฤชากร หรือ รอง ผอ.แบงค์ ผู้สูญหายที่ จ.ลำปาง โดยพบว่าเป็นบ้านของพ่อแม่ของเจ้าตัวซึ่งมีทั้งหมดสองหลัง หลังใหญ่ทรงไทยคือบ้านพ่อแม่ และหลังเล็กที่สร้างหลังบ้านหลังใหญ่เป็นบ้านที่พ่อแม่ปลูกไว้ให้เจ้าตัวกับภรรยา ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม ที่ รอง ผอ.แบงค์ ทำงานประมาณ 8 กิโลเมตร


ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอนงค์ แม่ของ รอง ผอ.แบงค์ อายุ 71 ปี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับลูกตลอดทั้งจากทางโทรศัพท์และแชตคุยกันตามแชตที่ได้เปิดเผยให้กับทีมข่าวช่อง 8 ก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้ลูกบอกว่าตนเองได้สอบติดตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ติดตัวสำรอง ซึ่งตนและสามีก็ดีใจมากเพราะครอบครัวของตนเป็นครอบครัวข้าราชการ ซึ่งตนและสามีก็เป็นข้าราชการครูที่เกษียณมาแล้ว


ต่อมาลูกชายก็หายตัวเป็นปริศนาในวันที่ 16 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ตนโทรศัพท์หาลูกชายและแชตไลน์หาลูกชายแต่ลูกชายไม่ยอมตอบ ตนจึงสอบถามภรรยาลูกชายเนื่องจากทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ลูกชายจะกลับไปหาภรรยาและลูกเล็กวัย 4 เดือน ที่บ้านพักใน จ.เชียงใหม่ ปรากฏว่าทางลูกสะใภ้ของตนแค่ว่า ลูกชายตนออกจากบ้านพักของภรรยาที่จังหวัดเชียงใหม่ช่วง 07.16 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน โดยบอกจะขับรถเก๋งมาที่โรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม จ.ลำปาง เนื่องจากมีงานที่ต้องทำคือเซ็นเอกสารที่โรงเรียน แล้วจากนั้นลูกชายก็หายการติดต่อที่บ้านและหายตัวไปเลย




เผยประวัติรับราชการของลูกชาย ลูกชายรับราชการครูตั้งแต่ พ.ศ 2548 สอนพลศึกษา จนล่าสุดสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการได้ปี 2564-2565 ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 (ทุ่งฟ้าบดราษฎร์บำรุง) ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โดยปี 2566 มีคำสั่งโยกย้ายลูกชายมาดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการ โรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม อ.เมืองลำพูน แต่ให้ช่วยราชการที่โรงเรียนเทศบาลจามเทวี อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งระหว่างนี้เกิดเรื่องเกี่ยวกับการหักหลังลูกน้องของลูกชายเกิดขึ้น ทำให้ลูกชายไปเอี่ยวกับปมการทุจริตในโรงเรียน ซึ่งระหว่างนี้ลูกชายตนก็มีการไปพบจิตแพทย์เนื่องจากเครียดเรื่องดังกล่าว แล้วต่อมา 3 มีนาคม มีคำสั่งให้ลูกชายตนไม่ต้องไปช่วยราชการที่โรงเรียนเทศบาลจามเทวี อ.เมือง จ.ลำพูนแล้ว แต่ให้มาตำรงตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการและทำงานที่โรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม เนื่องจาก ผอ. โรงเรียนถูกโยกย้าย


ปมที่ลูกชายกังวลเกี่ยวกับเรื่องเอี่ยวกับปมการทุจริตในโรงเรียน ช่วงที่ไปช่วยราชการ (โรงเรียนเทศบาลจามเทวี) เพราะลูกน้องหักหลังเกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ทางลูกชายมีการเซ็นอนุมัติเช็คเงิน จำนวน 150,000 บาท โดยให้ครูอัตราจ้าง คนหนึ่ง มีตำแหน่งครูการเงิน ถือเช็คดังกล่าวไปจ่ายให้กับร้านจำหน่ายเครื่องเรียนเครื่องเขียน แต่ครูคนดังกล่าวไม่ได้นำเช็คไปจ่ายให้กับทางร้าน แล้วก็เชิดเช็คหลบหนีไป (คาดหนีไปชลบุรี) ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้รอง ผอ.แบงค์ มีความเครียด เพราะช่วงที่เกิดเรื่องขึ้นลูกชายเป็นผู้บริหารที่เซ็นเช็คดังกล่าว ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้มีความกังวลอะไร เพราะลูกชายเป็นคนตั้งใจทำงาน ไม่เล่นการพนัน ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หลังจากเลิกงานที่โรงเรียนก็มักจะซื้อกับข้าวมาให้คุณแม่ที่จังหวัดลำพูน แล้วก็ขับรถเดินทางกลับบ้านไปหาภรรยาและลูกชายวัย 4 เดือน ที่ อำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่


ตอนนี้ไม่รู้ว่าลูกชายเป็นตายร้ายดีอย่างไร ทางครอบครัวร้อนใจมาก เพราะนี่ก็ล่วงเลยมาเกือบ 10 วันแล้ว เป็นห่วงมาก เพราะลูกชายแม่ไม่เคยหายจากบ้านไปแบบนี้ แต่อีกใจหนึ่งตนก็คิดว่าลูกอาจจะหลบไปตั้งสติ หรืออาจจะหลบไปบวชถือศีลหรือเปล่า ซึ่งตนก็ไปตามหาตามสถานที่บวชถือศีลทุกที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ลำพูนและเชียงใหม่แต่ก็ไม่พบ ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาวมั่นใจว่าไม่มีแน่นอน เพราะว่ลูกชายตนไม่ใช่คนเจ้าชู้ ตอนที่แต่งงานกับภรรยาคนนี้ ไม่ได้มีความเจ้าชู้หรือคบผู้หญิงหลายคน ส่วนเพื่อนสนิทที่เป็นครูที่จังหวัดสุโขทัย ตนก็โทรศัพท์ไปถามแล้ว ทราบข้อมูลว่าลูกชายไม่ได้เดินทางไปหาเพื่อนที่นั่น




จากข้อมูลของตำรวจ พบว่า นายฤชากร หายตัวอย่างเป็นปริศนา ในวันที่ 16 มิถุนายน พร้อมกับรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ซึ่งทีมข่าวยังได้ภาพหลักฐานเพิ่มก่อนนายฤชากรหายตัว เวลาเวลา 12.11 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน นายฤชากรขับรถเก๋งคันดังกล่าวเข้ามาที่ ปตท.หนองหนาม เพื่อเติมน้ำมัน หลังเติมน้ำมันเสร็จเจ้าตัวออกจากปั๊มเลี้ยวซ้ายผ่านหน้า สภ.เหมืองจี้




จากนั้นเวลา 12.18 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน กล้องวงจรปิดจะสามารถจับภาพนายฤชากร ขับรถมุ่งหน้ามาบริเวณสี่แยกป่าห้า แล้วมุมต่อมาจะเห็นนายฤชากรขับรถแล้วเลี้ยวขวาไปทางบ้านแป้น เวลา 12.29 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน นายฤชากรขับรถออกมาผ่านจุดเดิมกลับมาทางแยกป่าห้า แล้วเลี้ยวซ้ายกลับทางเดิม ต่อมากล้องวงจรปิดในเขต อ.เมือง จ.ลำพูน จับภาพเวลา 12.39 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน นายฤชากรได้ขับรถผ่านปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณถนนลำพูน-ป่าซาง ซึ่งอยู่ในเขต อ.เมืองลำพูน มีกล้องวงจรปิดที่จุดนี้ 2 มุม ที่บันทึกได้ เป็นพิกัดสุดท้ายของวงจรปิดที่จับภาพ “รอง ผอ.แบงค์” ไว้ได้




ด้านนายเฉลิม อายุ 72 ปี พ่อผู้สูญหายได้นำถ้วยรางวัลต่าง ๆ และใบประกาศนียบัตรของลูกชายมาโชว์ให้ทีมข่าวดู เพื่อยืนยันว่าลูกชายเป็นคนที่มีการทำงานดี เคยได้รับรางวัล และยืนยันเป็นคนสุจริตไม่ยุ่งเกี่ยวกับปมเอี่ยวทุจริตโรงเรียนเก่า ยอมรับว่าลูกชายเครียดมากกับการที่ต้องไปต้องไปเอี่ยวปมเอี่ยวทุจริตโรงเรียนเก่า ทั้งที่ตัวลูกชายยืนยันว่าไม่ได้ทำแต่ถูกลูกน้องฝ่ายธุรการหักหลัง และเชิดเช็คขึ้นเงิน 150,000 บาท


หลังจากที่ลูกชายขับรถเก๋งออกจากบ้านพักที่ จ.เชียงใหม่ แล้วมุ่งหน้ามาที่ จ.ลำพูน ก่อนหายตัวปริศนา ตนเองได้แจ้งความ ซึ่งทางตำรวจได้มีการแกะรอยพิกัดจากโทรศัพท์มือถือ พบล่าสุดอยู่ที่ หมู่ 2 ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยลูกชายไปโผล่ที่นั่นช่วง 13.00 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน จากนั้นสัญญาณมือถือก็หายไป ทั้งนี้ตนยังได้ภาพนิ่งจากตำรวจว่าตำรวจมีการเช็กพิกัดจากโทรศัพท์มือถือ ทั้งของลูกชายตนและลูกสะใภ้ ซึ่งพิกัดลูกสะใภ้อยู่ที่ ต.สันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ตลอด




ส่วนเส้นทางการเงินของลูกชายมีการเบิกถอนเงินสองครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะหายตัวไปในวันที่ 16 มิถุนายน โดย 14 มิถุนายน ลูกชายเดินทางไปเบิกเงินที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดลำพูน เป็นจำนวนเงินประมาณ 3,000- 3,500 บาท และวันที่ 16 มิถุนายน ก่อนหายตัวมีการเบิกถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม 500 บาท ทางตำรวจคาดว่าเงินส่วนนี้ลูกชายน่าจะไปเติมน้ำมันที่ ปตท.หนองหนาม ตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิดที่ทีมข่าวได้ก่อนหน้านี้


ตอนนี้ครอบครัวตนมุ่งประเด็นการหายตัวของลูกชาย เชื่อเครียดจากตนที่ไปเกี่ยวข้องกับเช็ค 150,000 บาท ที่ลูกชายเป็นคนเซ็นเช็คให้กับครูอัตราจ้างตำแหน่งการเงิน จึงกลัวว่า 1. ลูกชายอาจคิดสั้นโดยขับรถเก๋งลงน้ำเพื่อจบชีวิต และ 2. ถูกอุ้มหรือไม่ สุดท้ายหากบอกลูกชายได้ อยากบอกว่าพ่อแม่เป็นห่วงและรีบกลับมา เพราะพ่อแม่ทำใจไม่ได้ที่ลูกชายหายไป

 

แม่รอง ผอ. หวั่นลูกถูกอุ้ม ปมลูกน้องยักยอกเงินแสน!