จากกรณีเมื่อช่วง ตี 5 เช้าวันนี้ (25 มิ.ย. 2567) ตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกัน มีผู้บาดเจ็บหลายคน ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 78 ต่อมาตำรวจและเจ้าหน้ามูลนิธิร่วมกตัญญูได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 คน โดยต่างฝ่ายมีบาดแผลตามใบหน้าและตามตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวทั้ง 3 คนไปสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้น ทั้ง 3 ยอมรับว่า ทะเลาะกันเนื่องจากแบ่งผลประโยชน์กันไม่ลงตัวจากการโบกรถ นั้น




ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 78 ซึ่งอยู่บริเวณโค้งหักศอก เมื่อไปถึงพบว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ตำรวจได้ปล่อยตัวกลับมาแล้ว โดยใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยแผล และยับมีคราบเลือดเลอะตามตัว


ทีมข่าวได้สอบถามนายสุทัศน์ หรือ ลุงทัศน์ อายุ 53 ปี ซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผล เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเป็นคนเร่ร่อนและไม่มีบ้านอยู่ ทุกวันตนเองจะมายืนโบกรถบริเวณ 3 แยกโค้งหักศอกตรงนี้เพื่อหารายได้ ซึ่งรายได้ทั้งหมดไม่มีใครจ้าง แต่จะได้เงินจากการเป็นจิตอาสาช่วยโบกรถ อำนวยความสะดวกในซอย ซึ่งประชาชนที่ผ่านไปมาสงสาร จะยื่นเงินให้เป็นสินน้ำใจทุกวัน ครั้งและ 10 บาท 20 บาท บางวันก็ให้ข้าว โดยตนเองเริ่มโบกรถที่ตรงนี้มานาน 2-3 เดือนแล้ว มีตารางการโบกรถตั้งแต่ 10 โมงเช้า - ช่วงเย็นยันดึก




แต่ต่อมาเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีนายประโยชน์ คนเร่ร่อนอีกคน ได้มาขอแบ่งกะในการโบกรถหารายได้บ้าง เพราะเห็นว่า ตนเองได้เงินดี ตนเองจึงตกลงกะเวลาในการโบกให้นายประโยชน์ไม่ให้ทับกัน จะได้ไม่มีปัญหา กระทั่งช่วงเช้ามืดของวันนี้ตนเองได้นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนอีกหนึ่งคน คือ นายสมใจ อายุ 31 ปี ซึ่งกำลังเตรียมรอเวลาเข้ากะโบกรถหารายได้ ระหว่างนั้น นายประโยชน์ คู่กรณีซึ่งเป็นคนเร่ร่อนอีกฝ่าย กำลังยืนโบกรถอยู่ตามเวลาที่ตกลง คือ ตี 3-10 โมงเช้า แต่ระหว่างที่นายประโยชน์โบกรถอยู่นั้น ตนเองเห็นว่ามีรถบรรทุกคันหนึ่งได้ให้เครื่องดื่มชูกำลังกับนายประโยชน์เพื่อเป็นสินน้ำใจ จำนวน 1 ขวด


ยอมรับด้วยความอิจฉา และตนเองเป็นคนบุกเบิกการโบกรถตรงนี้มาก่อน เห็นว่า นายประโยชน์ได้เครื่องดื่มชูกำลังจากผู้ใจดี จึงเดินไปถามว่า “มึงจะโบกคนเดียว กินคนเดียวหรอ” แต่นายประโยชน์คู่กรณีได้ตอบกลับตนเองว่า “ก็เขาให้กูอะ” จากนั้นนายประโยชน์ก็ได้ชักมีดคัตเตอร์ออกมาทำร้ายตนเองทันที โดยเอามีดกรีดใบหน้าและตามตัวตนเองจนเลือดอาบ ตนเองและเพื่อนจึงจำเป็นต้องช่วยกันกระทืบนายประโยชน์เพื่อเอาคืน




ล่าสุดทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 04.30 น. ก่อนเกิดเหตุจะเห็นว่านายสุทัศน์ผู้บาดเจ็บได้เดินเมาโซเซไปตามถนน และเดินกลับไปบริเวณหัวโค้งหักศอกที่นายประโยชน์ยืนอยู่ จากนั้นจะได้ยินเสียงทั้งสองคนมีปากเสียงกัน ก่อนจะมีการทำร้ายร่างกายกันขึ้น จากนั้นคลิป 2 เวลาประมาณ 05.02 น. จะเห็นรถกู้ชีพได้วิ่งเข้าไปอย่างที่เกิดเหตุ และคลิปที่ 3 เวลา 06.06 น. เป็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวทั้ง 3 คน ไปที่โรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์






ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ไปสอบถามนายประโยชน์ อายุ 48 ปี คู่กรณีที่ใช้มีดแทงอีกฝ่าย ซึ่งระหว่างที่ทีมข่าวสัมภาษณ์นายสุทัศน์อยู่ที่เพิงพัก ยังเห็นนายประโยชน์ยังโบกรถไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็บาดเจ็บมีแผลที่ใบหน้าโดนเย็บเช่นกัน และเสื้อกั๊กยังเต็มไปด้วยเลือด


นายประโยชน์ อ้างว่า ตนเองไม่เคยหาเรื่องใครก่อน เมื่อช่วงเช้าตนเองโบกรถอยู่ดี ๆ แล้วบังเอิญมีคนผ่านไปผ่านมา เห็นความตั้งใจของตนเอง จึงให้เครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงให้เงิน 20 บาท แต่พวกนั้นเห็นเขาแล้งเกิดความอิจฉา จะเดินมาแย่งเครื่องดื่มชูกำลังของตนเองไป และมาต่อว่าตนเองให้เลิกโบกรถได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่กะเวลาในการโบกตนเองคือตั้งแต่ ตี 3-10 โมงเช้า ยังไม่หมด ซึ่งตนเองมองว่า ไม่ยุติธรรมและถูกเอาเปรียบ ประกอบกับอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้าย ตนเองจึงใช้มีดคัตเตอร์ที่พกติดตัวแทงไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งตนเองก็ถูกอีกฝ่ายรุมกระทืบบาดเจ็บเหมือนกัน

 

คัตเตอร์แทงเพื่อน แย่งที่โบกรถ อิจฉาเห็นคนให้เครื่องดื่มชูกำลัง