ปธ.กกต. จับตาปม ล็อบบี้เลือก สว. หากมีหลักฐานพร้อมดำเนินการ เผย ผู้สมัครจัดประชุมแนะนำตัวในโรงแรมไม่ผิดกฎหมาย

นายอิทธิพร บุญประครอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับประเทศ ในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ผู้สมัครมาครบ เหลือเพียงบางกลุ่มที่ขาด 1-2 คน คาดว่าน่าจะมาครบทั้ง 2,995 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบปัญหา ขอให้เจ้าหน้าที่ใช้ความละเอียดรอบคอบในการอธิบายขั้นตอนต่างๆแก่ผู้สมัครอย่างครบถ้วน

โดยขั้นตอนจากนี้ในเวลา 09.00 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.ในฐานะผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ บรรยายสรุปขั้นตอนที่จำเป็นให้ผู้สมัครได้รับทราบ คาดว่าจะใช้เวลา 20-30 นาที โดย 09.30 น.จะเริ่มกระบวนการออกเสียง โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนหยุดพักรับประทานอาหารในช่วงเที่ยงและจะมีการจับสลากแบ่งสายพร้อมกับแจกใบสว.3 หรือเอกสารแนะนำตัว สำหรับการเลือกรอบบ่ายโดยให้เวลาศึกษาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยตั้งใจว่าจะเริ่มการเลือกรอบบ่ายในเวลา 14.30 น. และคาดว่าจะเสร็จสิ้น 17.00 - 17.30 น.

ส่วนกรณีที่มีแชตไลน์กลุ่ม NGO ขอคะแนนให้กับคนของตนเองนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ได้ยินข่าวและเห็นว่าแต่ละกลุ่มมีใครน่าจะได้รับเลือกบ้าง ตามกรอบกฎหมายได้ห้ามไม่ได้ทำโพล แต่การแสดงความคิดเห็นหรือการเสนอข้อมูลว่ามีผู้สมัครคนใดน่าจะได้รับการคัดเลือก ตามแนวปฏิบัติของสำนักกรรมการการเลือกตั้งเมื่อมีกรณีนี้ก็จะมีการศึกษาตามหลักกฎหมาย หากมีสิ่งใดที่สำนักงานกกต.ต้องตัดสินใจก็จะต้องดำเนินการ

สำหรับกรณีที่ 300 ผู้สมัครจัดงานแนะนำตัวภายในโรงแรมเมื่อวานนี้ เป็นการจัดงานอย่างเปิดเผย กฎหมายไม่ได้ห้าม เกี่ยวกับการพบปะแนะนำหรือหาเสียงเพราะได้รับการผ่อนคลายไปแล้ว กระบวนการใดที่กระทำการโดยเปิดเผยให้ถือว่าเป็นการกระทำที่สุจริต โดยทุกเหตุการณ์กกต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย

ขณะที่ประเด็นการล็อบบี้ นายอิทธิพร ระบุว่า ต้องดูว่าเป็นการล็อบบี้โดยให้ผลประโยชน์หรือไม่ หากการล็อบบี้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ นำเสนอว่าตัวเองมีคุณสมบัติเหมาะสมก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนที่ปรากฎตามข่าวว่า ซื้อเสียงในการเลือกระดับประเทศหลักแสนถึงล้านบาท ถือเป็นสิ่งที่ติดตามมาโดยตลอดตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ ซึ่งกกต.ได้ติดตามพฤติกรรมที่น่าสงสัยก่อนการเลือกระดับอำเภอ หากมีพยานหลักฐานเรื่องใดก็จะดำเนินการ รวมถึงพยายามรวบรวมหลักฐานตั้งแต่ระดับอำเภอจนถึงระดับประเทศ

“การทำอะไรเป็นกลุ่มเป็นก้อนไม่ใช่ว่าจะเรียบร้อยเสมอไป ได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแส ซึ่งมีเงินรางวัลให้ ซึ่งตอนนี้มีผู้แจ้งเบาะแสอยู่บ้าง อยู่ในระหว่างฝ่ายสืบสวนของสำนักงานกกต. ซึ่งจะเป็นส่วนที่ดูข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อทำสำนวนเสนอต่อกกต. โดยขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนมาแล้วประมาณ 300 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการยื่นคำร้องแต่เรื่องที่เราสอบสวนเองก็มีอยู่ แต่ยังไม่ได้แจ้งจำนวนเข้ามา ทั้งนี้จะต้องปรากฎความผิดที่ชัดเจนและเสนอเข้ากกต.ตามลำดับชั้น” นายอิทธิพร กล่าว

อย่างไรก็ตามการเลือกในรอบจังหวัดมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเข้าห้องน้ำ เราได้มีการวางมาตรการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กกต.ให้ตรวจสอบห้องน้ำว่ามีการแอบวางอะไรไว้หรือไม่ โดยผู้สมัครที่จะเข้าห้องน้ำจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีผู้นำไปถึงห้องน้ำ เพื่อคอยดูว่ามีอะไรไม่ดีไม่งามหรือไม่ หากไม่มีอะไรปรากฎเป็นหลักฐานความผิด ก็ไม่สามารถดำเนินการได้แต่เราก็มีมาตรการป้องกัน

หากปรากฎว่ามีผู้สมัครมีการแสดงสัญลักษณ์ที่อาจจะเชื่อมโยงเกี่ยวพัน สนับสนุน ส่งเสริม กับพรรคการเมืองก็มีความผิด ทั้งนี้ไม่มีข้อห้ามการชู 3 นิ้ว เพราะบางทีถ่ายภาพก็ชอบทำท่านั้นท่านี้ เป็นเรื่องปกติ