เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณี มีข่าวทางสื่อโซเชียล ว่ามี นางสาวเปรมมณี อายุ 59 ปี ชาวบ้าน ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกหวยลอตเตอรี่ รางวัลที่หนึ่ง จำนวน 15 ใบ รวมเป็นเงิน 90 ล้านบาท งวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2565 หมายเลข 157196 โดยอ้างว่าเพิ่งรู้ตัว หลังลูกชายนำมาตรวจสอบ จนกระทั่งกลายเป็นข่าวดัง ทำให้มี ชาวบ้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ไปต่างๆ นานา ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีสภาพความเป็นอยู่ขัดแย้งกับความเป็นจริง ทั้งสภาพบ้านเก่า ทรุดโทรม รวมถึงถูกตัดน้ำ ภายหลังทางผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบไปยังบ้านพักหลังดังกล่าว เป็นบ้านปูนสองชั้น สภาพเก่า สอบถามทราบว่า มีอาชีพเป็นสำนักร่างทรง หมอดู โดยไม่พบเจ้าตัว มีเพียงลูกชาย อ้างว่า แม่ไม่อยู่ไป กทม. อีกทั้งปฏิเสธการให้ข่าว
สอบถามชาวบ้าน ใกล้เคียง รวมถึงผู้ใหญ่บ้าน ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง และไม่น่าเชื่อว่าหากถูกรางวัลใหญ่จริง จะมีการเก็บไว้นานเกือบ 2 ปี แต่หลังเป็นข่าวกับไม่ออกมายืนยัน และสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่นำมาโชว์ถ่ายรูป ยังไม่มีใครตรวจสอบได้ว่าเป็นของจริง สาเหตุอาจจะมาจากต้องการสร้างกระแส เพราะเป็นสำนักร่างทรง ทั้งนี้ ล่าสุดทราบว่า ทาง ตำรวจ สภ.ธาตุพนม กำลังสอบสวน รวบรวมหลักฐาน หากพบเข้าข่าย ความผิดเกี่ยวกับการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เสนอต่อประชาชน อาจจะเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยัน
นายประจิต อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.น้ำก่ำใต้ ม.3 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ถ้าหญิงคนนี้ถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านจริง เรื่องคงไม่เงียบแบบนี้ที่พบเห็นก็แต่ในโลกออนไลน์ ตอนไปเบิกเงินคนอื่นก็ไม่รู้ด้วย หลังข่าวแพร่สะพัดออกไปมีเจ้าหน้าที่ธนาคาร 2 แห่งโทรศัพท์มาสอบตนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพื่อจะให้พาตนไปพบและนำเงินที่ถูกรางวัลหรือเช็กเงินสดไปฝากในบัญชีธนาคาร
ผู้ใหญ่บ้านวัย 59 ปี กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการที่ชาวบ้านถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ หญิงคนนี้ไม่ค่อยสุงสิงกับชาวบ้านอ้างตนว่าสูงศักดิ์ ชาวบ้านจึงไม่กล้าไปถาม เพื่อคลายความสงสัยตนจะพาไปสอบถามถึงบ้าน ทั้งหมู่บ้านไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้แม่แต่คนเดียว แม้แต่ญาติพี่น้องหญิงคนนี้และเพื่อนบ้านไม่เชื่อ ส่วนที่มีข่าวว่าไปเบิกเงินมาแล้ว 60 ล้าน และจะไปเบิกในวันเกิดวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ชาวบ้านมองว่าน่าจะไม่เป็นความจริง
ผู้ใหญ่หมู่บ้าน กล่าวต่อไปว่า ขนาดนายอำเภอธาตุพนม ยังโทรศัพท์มาสอบถามตน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจสายตรวจ ยังขับรถมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านวันละ 2-3 รอบ เพื่ออยากจะรู้ นอกจากนี้เจ้าหนี้ร้านค้าก่อสร้างที่หญิงรายนี้ไปขอเครดิตติดค้างค่าวัสดุยังมาถามชาวบ้านเพื่อทวงหนี้ ขอยืนยันถ้าคนถูกลอตเตอรี่มันไม่ใช่แบบนี้
“ตอนที่หญิงอ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 หลายปีที่แล้วมักกล่าวอ้างว่ามีบ่อน้ำมันของสามีที่ประเทศซาอุ 111 บ่อ ช่วงตี 3 ตี 4 ก็มักจะเปิดเสียงพระเทศน์สนั่นจนสว่าง ชาวบ้านหนวกหูและเอือมระอาถึงพฤติกรรม แต่ชาวบ้านก็ไม่กล้าพูดมาก สรุปชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เชื่อ แต่คงอีกไม่นานความจริงต้องปรากฏ” นายประจิต กล่าว
ต่อมานายประจิต พาผู้สื่อข่าวไปบุกพิสูจน์ที่บ้านหญิงรายนี้ เพื่อขอพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง พบแต่ลูกชายคนที่ 3 ในจำนวน 5 คน อ้างว่าแม่ไม่อยู่บ้านไป กทม.ให้สัมภาษณ์ไม่ได้อ้างว่าจะคาดเคลื่อน รอถามแม่หลังจากกลับไปขึ้นเงินเอง จากการตรวสอบพบท่อน้ำหน้าบ้าน ถูกตัดมิเตอร์จริง ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนขับรถกระบะมา 5 คน จอดที่หน้าบ้านหญิงอ้างตนถูกรางวัลใหญ่
ต่อมาทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับ “บ่าวเบียร์ ธาตุพนม“ หรือ นายสุริยัน อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้เข้าไปถ่ายคลิปวิดีโอของนางเปรมมณีที่อ้างว่าตัวเองได้ถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท โดยนายสุริยันเปิดใจเล่าว่า ตนนั้นเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกับนายอาทิตย์ (ลูกของเปรมมณี) ซึ่งทำให้ตนได้เห็นโพสต์ในเฟซบุ๊กของนายอาทิตย์ที่มีการถ่ายรูปพร้อมระบุข้อความว่าตนเองนั้นถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง (ลบโพสต์ไปแล้ว) นายสุริยันจึงได้ทำการติดต่อเพื่อเข้าไปขอถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวเนื่องจากตนก็เป็นยูทูปเบอร์ ซึ่งในวันนั้นมีช่องยูทูปไปถ่ายทำทั้งหมด 3 ช่อง แต่ในส่วนของนายสุริยันนั้นได้เดินทางไปถ่ายทำเพียงลำพัง
เมื่อเข้าไปถึงบ้านของนางเปรมมณี ตนก็รู้สึกแปลกใจที่เห็นว่ารอบบ้านมีสแลนสีเขียวปิดล้อมไว้ ตนจึงเอ่ยถามไปว่าทำไมถึงต้องปิดมิดชิดขนาดนั้น ด้านนางเปรมมณีก็บอกว่าเป็นการปิดล้อมไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว ในตอนนั้นนายสุริยันก็ไม่ได้สงสัยอะไรต่อเนื่องจากกำลังโฟกัสกับการถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท ซึ่งขณะที่มีการถ่ายคลิปเอาไว้นางเปรมมณีก็มีการนำลอตเตอรี่ออกมาให้ตนได้ถ่ายรูป แต่นางเปรมมณีก็ไม่อนุญาตให้นำลอตเตอรี่ออกมาจากซองพลาสติก ตนจึงไม่ได้สัมผัสกับลอตเตอรี่โดยตรงจึงไม่สามารถตอบได้ว่าลอตเตอรี่เป็นของจริงหรือปลอมขึ้นมา ซึ่งภายหลังจากการถ่ายทำจบตนก็ได้เดินทางกลับในทันที
กระทั่งมีการเผยแพร่คลิปและกลายเป็นกระแสข่าวว่ามีการกุเรื่องสร้างคอนเทนต์ ตนก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเช้านี้ตนก็ได้ติดต่อไปหานางเปรมมณีเพราะอยากจะพิสูจน์ว่าลอตเตอรี่เป็นของจริงหรือปลอม แต่นางเปรมมณีนั้นยืนยันว่าตัวเองถูกลอตเตอรี่จริง แต่ปฏิเสธที่จะออกมาพิสูจน์กับสื่อมวลชนเนื่องจากไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่าเดิม ส่วนนายอาทิตย์นั้นก็ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ ตนก็รู้สึกกังวลและเครียดที่ถูกมองว่าไปร่วมมือกันสร้างคอนเทนต์กับนางเปรมมณี จึงอยากใช้โอกาสนี้ในการแสดงความบริสุทธิ์ว่าตนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างคอนเทนต์หลอกลวงคนดู
นอกจากนี้นายสุริยัน ยังได้ส่งคลิปวิดีโอฉบับเต็มมาให้กับทีมข่าวช่องแปด โดยต้นคลิปจะเห็นตั้งแต่ทางเข้าบ้าน ซึ่งสภาพแวดล้อมนั้นต้องยอมรับว่ามีความรกประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพัดลมที่ชำรุดแต่ยังคงมีการนำมาใช้งานอยู่ โซฟาเก่าที่ใช้ผ้าคลุม ระหว่างทางเดินที่เต็มไปด้วยพานพุ่ม กระทั่งนายสุริยันเดินเข้าไปหานางเปรมมณีที่นั่งอยู่ภายในบ้าน บางช่วงบางตอนนางเปรมมณีก็มีการบอกถึงสาเหตุที่ต้องทำบ้านให้ดูรกรุงรัง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าที่ทำแบบนั้นเป็นเพราะต้องการจะปกปิดความลับที่ตัวเองถูกลอตเตอรี่ ไม่อยากให้คนเข้ามาสนใจตัวเอง หรือในตอนที่นำลอตเตอรี่ออกมาโชว์ให้คนอื่น ๆ ดู นางเปรมมณีก็มีการสั่งห้ามไม่ให้คนอื่นจับลอตเตอรี่ โดยบอกว่าเจ้าหน้าที่ลงน้ำยาไว้ที่ลอตเตอรี่แล้ว ไม่อยากให้มีลายนิ้วมือคนอื่นมาติดอยู่ที่ลอตเตอรี่ เดี๋ยวลอตเตอรี่จะเสียหาย ซึ่งหลังจากที่นำลอตเตอรี่ออกมาโชว์ นางเปรมมณีก็มีการพยายามใช้นิ้วมือของตัวเองในการปิดบาร์โค้ดเอาไว้ด้วย
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่องแปดได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของนางเปรมมณี พบว่าบ้านพักนั้นมีลักษณะเป็นบ้านปูน 2 ชั้น โดยที่รอบบ้านนั้นได้มีการน้ำผ้าสแลนสีเขียวขึงปิดล้อมรอบบ้านจนแทบมองเข้าไปไม่เห็นภายใน อีกทั้งบริเวณหน้าบ้านก็ได้ปิดประตูรั้วไว้พร้อมกับติดป้ายขนาดใหญ่ด้วยข้อความตัวสีแดงว่า “บุคคลภายนอกห้ามเข้า” โดยนักข่าวก็พยายามจะตะโกนเรียกนางเปรมมณีอยู่หลายครั้งแต่ก็ไร้วี่แววและไม่มีใครออกมาจากบ้านแม้แต่คนเดียว
จากนั้นนักข่าวก็ได้เดินไปบริเวณกำแพงข้างบ้าน เนื่องจากสังเกตเห็นเงาตะคุ่มของคนอยู่บริเวณชั้นสองของบ้าน นักข่าวก็มีการเรียกคนที่อยู่ชั้นสอง ปรากฏว่ามีเสียงตอบกลับแต่ไม่ยอมโชว์ตัวออกมาให้เห็น ซึ่งอีกฝ่ายนั้นมีเสียงเป็นผู้ชายคาดว่าจะเป็น “นายอาทิตย์” ลูกชายของนางเปรมมณี โดยทีมข่าวก็พยายามจะสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการถูกลอตเตอรี่ แต่ชายคนดังกล่าวก็ตะโกนตอบกลับมา บอกว่า “บอกแล้วว่าเขาไม่อยู่ จะถามอะไรนักหนา รำคาญ ถามร้อยคนก็ต้องมานั่งตอบร้อยคน ไม่ต้องมาถามแล้ว” นักข่าวก็ได้ถามหานางเปรมมณีต่อ แต่ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า “เขาไปกรุงเทพแล้ว ไปหาเอาเอง” จากนั้นอีกฝ่ายก็ได้เงียบหายไปในทันที
นายประจิต อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านน้ำก่ำใต้ เปิดเผยว่า นางเปรมมณีนั้นอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด โดยเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว นางเปรมมณีก็ได้เปิดตำหนักร่างทรงภายในบ้านของตัวเอง แต่คนในชุมชนนี้ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่านางเปรมมณีเป็นร่างทรงของเทพอะไร เพราะในชุมชนก็ไม่ได้มีใครเชื่อหรือเคยเข้าไปภายในตำหนักของนางเปรมมณี จะมีก็แต่คนต่างถิ่นที่มักจะรวมกลุ่มกันเข้าไปหานางเปรมมณีในตำหนัก ซึ่งอันนี้ก็ไม่ว่ากันเพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
แต่ถ้าถามถึงนิสัยใจคอของนางเปรมมณี ต้องบอกตรง ๆ ว่าไม่มีใครรู้จักนิสัยของนางเปรมมณี เนื่องจากเจ้าตัวมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ถึงขนาดมีการนำผ้าสแลนสีเขียวมาปิดล้อมรอบบ้านเพื่อที่จะไม่ให้คนภายนอกมองเข้าไปเห็น คนในชุมชนจึงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปสุงสิงยุ่งเกี่ยวกับนางเปรมมณี ทราบเพียงแค่ว่าภายในบ้านมีคนอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ นางเปรมมณี , นายอาทิตย์ (ลูกชาย) และคนรับใช้ที่เป็นผู้หญิง ส่วนวีรกรรมอื่น ๆ ของนางเปรมมณี ตนก็ไม่ค่อยทราบอะไรมากนัก แต่ทราบมาว่านางเปรมมณีกำลังจะถูกยึดบ้านที่กำลังอาศัยอยู่ เนื่องจากนางเปรมมณีได้ติดหนี้ธนาคารอยู่ โดยทางธนาคารได้มีการส่งหมายเรียกเพื่อให้นางเปรมมณีไปไกล่เกลี่ยแล้วถึง 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมไป ซึ่งในครั้งที่ 3 นี้ก็คงจะเป็นการออกหมายจับ โดยที่ตำรวจก็มีการประสานมาแล้วว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขอหมายศาล
ส่วนประเด็นเรื่องการถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท ตนก็ไม่อยากจะตัดสินว่าจะถูกจริงหรือไม่จริง แต่ชาวบ้านแถวนี้ก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่านางเปรมมณีจะถูกลอตเตอรี่ ถ้าให้พูดกันอย่างเห็นภาพโดยที่ไม่ได้ดูถูกก็อยากให้ดูสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่บ้านของนางเปรมมณี ตามหลักความเป็นจริงแล้วคนที่มีเงิน 90 ล้านบาท ทำไมถึงปล่อยให้บ้านช่องอยู่ในสภาพแบบนั้น ทำไมถึงไม่ซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน และถ้าหากว่านางเปรมมณีไม่ได้ถูกลอตเตอรี่จริง ตนก็มองว่าคงเป็นการสร้างคอนเทนต์เพื่อเรียกกระแสให้ตัวเอง แต่ถึงจะเป็นการสร้างคอนเทนต์ก็คงจะไม่มีใครไปว่าอะไรเขาได้หรอก เพียงแค่อาจตั้งข้อสงสัยว่าจะทำไปทำไม
นางน้ำบุญ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนางเปรมมณี ได้เปิดเผยว่า ตนเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของนางเปรมมณี โดยที่ตนเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของนางเปรมมณี ซึ่งต้องบอกก่อนว่าตนและน้องสาวนั้นไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันและไม่ค่อยจะสนิทสนมกันเท่าไหร่ นาน ๆ มีงานอะไรก็จึงจะมาเจอกันทีหนึ่ง ทำให้ตนนั้นไม่ค่อยรู้จักนิสัยใจคอและไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของนางเปรมมณี แม้กระทั่งเรื่องการเป็นร่างทรงก็ไม่เคยทราบ เรียกได้ว่าอยู่ใครอยู่มันเลยก็ว่าได้ นักข่าวก็ถามถึงเรื่องการถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาทของนางเปรมมณี นางน้ำบุญก็ยืนยันว่าตนนั้นยังไม่ได้ยินจากปากของน้องสาว เพียงแต่ได้ยินจากข่าว ซึ่งถ้าหากเป็นเรื่องจริงตนก็รู้สึกยินดีไปกับน้องสาวด้วย แต่ตนก็ไม่อยากจะยืนยันอะไรให้นางเปรมมณี เนื่องจากตนก็ยอมรับว่ารู้สึกไม่แน่ใจว่าน้องสาวจะถูกลอตเตอรี่จริง มองว่าหากนางเปรมมณีถูกลอตเตอรี่ก็คงจะต้องประกาศและนำมาอวดแล้ว เพราะหลายปีก่อนที่นางเปรมมณีได้ถูกเลขท้าย 2 ตัว จำนวนเงิน 2,000 บาท นางเปรมมณีก็ดีอกดีใจประกาศให้คนรู้ไปทั่ว แต่มาครั้งนี้กลับเก็บเงียบไว้โดยที่ไม่บอกอะไรใครเลย