จากกรณีที่เด็กหญิง อลิส วัย 3 ขวบ หายไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนพบจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำกลางทุ่งนา ระยะห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปประมาณ 800 เมตร เมื่อเวลา 12.40 น.ของวันที่ 14 มิ.ย. 67 ซึ่งพ่อแม่ไม่ปักใจเชื่อลูกตนเองเดินไปยังจุดเกิดเหตุ

 

ล่าสุดวันนี้(26 มิ.ย.67) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ในพื้นที่ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ 

 

โดยบรรยากาศหน้าห้องสืบสวน สภ.ยางชุมน้อย ทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีการเชิญนางนิ่มนวล และครูหนุ่ย เข้ามาสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งตอนแรกตำรวจมีการนั่งคุยกับครูหนุ่ย อยู่ที่ศาลาข้างห้องสืบ แต่ทันทีที่ทีมข่าวขับรถเข้ามา เมื่อตำรวจเห็นรถช่อง8 จึงมีการพาครูหนุ่ย เดินเข้าไปคุยต่อในห้องสืบสวน ซึ่งตามข้อมูลก่อนที่ทีมข่าวจะไปถึง ทางนางนิ่มนวล แม่ครัวถูกแยกสอบปากคำอยู่ภายในห้องสืบ 

 

จากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ทางตำรวจได้เชิญนางนิ่มนวล แม่ครัวออกมาด้านนอก ส่วนครูหนุ่ย ยังอยู่ในห้องสืบสวน ซึ่งขณะที่นางนิ่มนวล แม่ครัวออกมานั่งด้านนอก ทีมข่าวสังเกตเห็น ทาง พ.ต.ท.วีระจักร์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ยางชุมน้อย มีการเดินออกมานั่งคุยกับนางนิ่มนวลต่อที่ด้านนอกจากนั้นเมื่อทางรองผู้กำกับสืบสวน ได้ข้อมูลอะไรบางอย่างจากนางนิ่มนวล ก็จะเห็นว่าทางรองผู้กำกับสืบสวน ได้มีการเดินเข้าไปหาครูหนุ่ยในห้องสืบสวน 

 

จากนั้นเมื่อนางนิ่มนวล ให้ข้อมูลเสร็จในช่วงแรก ทีมข่าวก็ยังจับสีหน้าท่าทางดูตลอดว่า นางนิ่มนวล จะมีอาการเครียดหรือไม่ปรากฎว่า จากที่เฝ้าดูอยู่โดยทีมข่าวไม่เข้าไปวุ่นวายการทำงานของตำรวจ ทีมข่าวสังเกตเห็นนางนิ่มนวล มีท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส 

 

จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 25 นาที ทางตำรวจก็ได้มีการเชิญนางนิ่มนวล เข้าไปสอบปากคำในห้องสืบอีกครั้ง ซึ่งเท่าที่สังเกต ทางนางนิ่ม เดินยิ้มและให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี

 

นอกจากนี้ตำรวจยังเชิญนายสัตติญา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 เข้ามาสอบปากคำ ซึ่งผู้ใหญ่สัตติญา ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าวันนี้ที่ตำรวจเรียกมาสอบ เขาถามถึงไทม์ไลน์ในวันเกิดเหตุว่าใครทำอะไรอยู่ที่ไหนและผู้ใหญ่บ้านเข้าไปถึงที่เกิดเหตุตอนไหน

 

จากนั้นเวลา 11.30 น. ตำรวจได้มีการเชิญตัวนายพรชัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เข้าไปสอบปากคำ ซึ่งช่วงที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เดินทางมาถึง ตำรวจได้พาเข้าไปในห้องสืบ ประมาณ 2 นาที จากนั้นตำรวจได้พาผู้ใหญ่บ้านหมู่9 เดินไปขึ้นรถแล้วก็ขับรถออกไปจากโรงพัก จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที ตำรวจก็ได้พาผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 กลับมาที่ห้องสืบสวน แต่ไม่ได้พาเข้าไปสอบถามในห้อง และมีการแยกสอบปากคำที่ศาลาด้านหน้าห้องสืบสวน ซึ่งตามข้อมูลที่ตำรวจต้องเรียกผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านมาสอบปากคำ เป็นเพราะว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ใหญ่บ้านหมู่9 รับผิดชอบเขตพื้นที่บ้านของน้องอลิส

 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางทองทิพย์ (ย่า) และ นางสาวพุทธมาลย์ (แม่) ของน้องอลิส โดย ย่า ทองทิพย์ เปิดเผยว่า ตนมีความสบายใจขึ้น ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หลังจากที่ คุณกันจอมพลัง ได้เข้ามาช่วยเหลือ ก็ได้ประสานหน่วยงานต่างๆ รู้สึกมีความหวังมากขึ้น เพราะรู้สึกคดีไม่คืบหน้าและไม่รู้อะไรเลย 

 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าหลังจากที่ได้พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความคืบหน้าอย่างไร น.ส.พุทธมาลย์ (แม่อลิส) เผย ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างใด 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหลังจากเจ้าหน้าที่หลายๆหน่วย เช่น ตำรวจส่วนกลาง ศพฐ เข้ามาดูแล รู้สึกอย่างไร ย่าทองทิพย์ เผยว่า เริ่มทำงานเริ่มจะมีปฏิกิริยามากขึ้นกว่าเดิม ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าหาก ผลชันสูตรออกมาแล้วน้ำในปอดเป็นน้ำประปาคิดเห็นอย่างไร ย่าทองทิพย์ เผยว่า ก็ยังคิดว่าถูกกระทำจากศูนย์ฯ และถูกนำโยนไปทิ้ง โดยเป็นสิ่งที่ทางครอบครัวติดใจ และยังเชื่อว่าเด็กเดินลงไปเองไม่ได้ นอกจากจะมีคนพาไป ทั้งนี้หาก ผลออกมาเป็นน้ำในสระ ตนก็ยังคงไม่เชื่อ นอกจากจะนำหลักฐาน มาพิสูจน์จนกว่าทางครอบครัวจะเชื่อตามหลักฐานที่เป็นไปได้ ทางตนก็อยากให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มกำลัง 

 

อีกทั้ง ตนเองยังมีความกังวลที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพึ่งมาเก็บเพิ่มเติม เพราะกลัวหลักฐานขณะนี้จะเหลือน้อย ส่วนทางด้าน อบต. ที่มีการจะเข้ามาเหมือนปรับปรุงรั้ว และกล้องวงจรปิด และเพิ่มบุคลากรครู โดยมีการพักงานครูชุดเก่า ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดีควรจะทำ เพราะทางชาวบ้านจะได้ไว้วางใจในการดูแลเด็ก ไม่อยากให้ประวัติ ศาสซ้ำรอย เหมือนน้องอลิส

 

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้จะมีการนัดหมายพูดคุยเรื่องค่าปลงศพด้วย กับทาง อบต. เป็นครั้งแรก แต่ทั้งนี้ตนยังไม่ชัดเจนว่าจะคุยเรื่องอะไรเดี๋ยวจะต้องมีการปรึกษาภายในครอบครัวก่อน โดยทาง อบต. ได้ติดต่อมา ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ยางชุมน้อย และจะมีการนัดหมายพูดคุยกับ 3 ครู อีกครั้ง หลังจากที่ทนายโนบิ เดินทางมา โดยคุณกันจอมพลัง เป็นผู้ประสานให้ อีกทั้งส่วนตัวมองว่าตำรวจควรที่จะมาตั้งนาน เพราะเวลาผ่านไปนานหลักฐานอาจจะน้อยลง สุดท้ายนี้ตนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคดี และมีการพิสูจน์ อย่างละเอียด ซึ่งทางครอบครัวก็ขอฝากความหวังไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าหลังจากที่ไปดูหมอทำมาก่อนหน้านี้สองครั้งได้ระบุหรือไม่ว่าเป็นใคร นางสาวพุทธมาลย์ (แม่น้องอลิส) เผยว่า ไม่ได้ไม่ได้ระบุว่าเป็นใครเพียงบอกแค่เป็นเพศไหน นอกจากนี้ขอฝากไปถึงคุณครู ทั้งสามคน หลังจากที่ตนได้ทราบข่าวว่าคุณครูมีการเดินทางไปพบพระ และต้องการที่จะเจรจาเปิดใจกับพ่อแม่ ตนขอฝาก ผ่านสื่อ หากพร้อมที่จะเจรจาไทมไลน์ เชิญเข้ามาได้เลย ตนพร้อมและรออยู่ และขอยืนยันว่ารอตั้งแต่วันแรก จนถึงขณะนี้ โดยที่ที่ผ่านมามีเพียงแค่คำขอโทษ แต่ไม่ได้รับการอธิบายแต่อย่างใด และมางานศพ ก็รีบกลับตลอด หากจะไปหาพระ ท่านช่วยไม่ได้ ให้หาเวลาว่างเข้ามาเจรจากับครอบครัว 

 

ทั้งนี้ในส่วนของพิธีกรรมเปิดปากน้องอลิสเป็นความเชื่อของส่วนบุคคล ซึ่งทางครอบครัวทำแล้วสบายใจ ตนก็มีความเชื่อ 50% ไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด แต่ความหวังทั้งหมดของตนอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ น่าจะนอกจากนี้ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามว่าหลังจากทำพิธีเปิดปากน้องอลิสได้มีการมาบอกกล่าวหรือไม่ ย่าทองทิพย์ เผย ตนนอนไม่ค่อยหลับ จะเป็นทางญาติๆ ที่ฝันถึง

 

ต่อมาทีมข่าวช่องแปด ได้พูดคุยกับ นายนวรัตน์ 47 ปี (ญาติน้องอลิส) ประเด็นหลังทำพิธีเปิดปาก และได้ฝันถึงน้อง เปิดเผยว่าในเหตุการณ์ความฝัน เห็นผู้หญิงลักษณะตัดหน้าม้า โดยเป็นแฟนของตนที่ลงมาจากรถโดยสาร หลังจากนั้นตนได้พาแฟนไปอยู่ในบ้าน และออกไปซื้อของ ซึ่งจู่ๆ ก็มีเพื่อนของตนได้ตะโกนออกมาว่า “แฟนมึงโดนทุบหลังอยู่ในห้องน้ำ 3-4 ครั้ง” ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นน้องอลิสมาดลบันดาลใจให้ตนฝันเห็นภาพเหตุการณ์ที่น้องโดนทำร้าย คล้ายตามที่หมอธรรม ได้บอกกล่าวว่าน้องอลิสถูกคนทุบหลังเสียชีวิต ซึ่งตั้งแต่น้องเสียชีวิตตนไม่เคยฝันเห็น และเป็นครั้งแรก หลังจากทำพิธี

จากนั้น นายคำแพง อายุ 55 ปี (ปู่น้องอลิส) เผยว่า ตนฝันเห็นน้องอลิสมานั่งยิ้มอยู่หน้าบ้านและมีพี่กันจอมพลัง นั่งคุยอยู่หน้าบ้าน สีหน้าน้องยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งตนยังไม่ได้ถามอะไรหลานจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนตี 4 ทั้งนี้ก็มีความรู้สึกดีใจมาก ตั้งแต่วันที่น้องเสียชีวิตจนถึงวันนี้ระยะเวลากว่า 10 วันไม่เคยฝันเห็นน้องเลย โดยจากที่ตนได้ไปหาหมอธรรม และทำพิธีเปิดปาก ตนก็คิดว่าเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่เป็นความสบายใจ

 

ขณะเดียวกันกรณีเรื่องความเชื่อของทางครอบครัวว่า ที่ไปทำพิธีมาเมื่อวานนี้ และหลังจากการทำพิธี ทางน้องอลิส มีการมาเข้าฝันญาติๆ 

 

ล่าสุดวันนี้เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา คนที่น้องอลิส ยังไม่ได้ไปเข้าฝัน ก็คือทางนางสาวพุทธมาลย์ ซึ่งเป็นแม่ของน้องอลิส ได้มีการพา ยายผ่อน ซึ่งเป็นคนนำทำพิธีปักธูปกลับหัวเมื่อวานนี้ ไปจุดธูปตรงจุดที่ฝังศพน้องอลิส ภายในป่าชาวัดป่ามณีศรีชมพู เพื่อบอกกล่าวให้น้องอลิส ไปเข้าฝันทางแม่ในคืนนี้ 

 

โดยบรรยากาศเมื่อทางแม่อลิส ยายผ่อน รวมถึงถึงตาแสบ ไปถึงหน้าอุโมงค์ฝังศพน้องอลิส ทางยายผ่อน ได้มีการให้ทางแม่น้องอลิส และตาแสบ จุดธูปคนละ 1 ดอก โดยในการมาบอกกล่าว ทางแม่ได้ถือนมมาให้กับน้องอลิส จำนวน 2 กล่อง จากนั้นเมื่อจุดธูปเสร็จแล้ว ทางยายผ่อน ได้เป็นคนนำพูด โดยบอกว่า ขอให้เจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้น้องอลิส ไปเข้าฝันพ่อแม่ปูย่าตายาย ไปบอกกับพ่อแม่ ว่าหนูอยู่กินยังไง ถูกเขาผูกไว้ไหม หรือเขาทำอะไรกับหนูบ้าง ซึ่งคืนนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ของวัดและเจ้าหน้าที่เจ้าทาง ปล่อยน้องอลิส ไปเข้าฝันพ่อกับแม่ ไปบอกลุงป้าน้าอา ให้รู้ภายใน 2 วัน ถ้าอลิส ฟังอยู่ก็ขอให้ไปเปิดปากบอกพ่อแม่ ให้รู้ว่าใครเป็นคนทำหนู 

 

จากนั้นเมื่อยายผ่อน พูดจบระหว่างที่กำลังจะปักธูป ทางแม่ของน้องอลิส และตาแสบ ก็ช่วยกันพูดว่า ถ้าดวงวิญญาณของลูกรับรู้ไปเข้าฝันแม่นะลูก กินนมนะลูก ถ้าได้ยินเสียงใครแปลหน้ามาเรียก ไม่ต้องออกไปหาเขานะลูก ไม่ว่าใครจะมาเรียกก็ช่าง ถ้าไม่ใช่เสียงพ่อกับแม่ อย่าออกมาเจอกับเขานะลูก กลับไปกับแม่เลยก็ได้นะลูก

 

วันที่ 26 มิ.ย. 67 เวลา 10.00 น. พล ต.ต. หญิง ธิติมา ธรรเมศรานนท์ ผบก.ศพฐ.3 ลงพื้นที่ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ โดยมี พ.ต.อ.เทอดไทย สุขไทย รอง ผบก.ศพฐ.3 พร้อมชุดปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพฐ.3 และ พ.ต.ต. ปัญญา โพธิ์ขำ สว.(สอบสวน) สภ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ 

 

ต่อมาทีมข่าวช่องแปดได้ สังเกตเห็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้มีการเดินตรวจสอบภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ มีการสำรวจห้องน้ำ จากนั้นเดินออกมาสำรวจบริเวณรั้วที่ชำรุด จุดบันไดไม้ และเดินเท้าสำรวจไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บตัวอย่างของน้ำในสระที่น้องอลิสเสียชีวิต โดยขณะเดียวกัน ได้มีการใช้ลูกกลิ้งวัดระยะทาง ตั้งแต่หน้าอาคารศูนย์ฯ ไปยังจุดเกิดเหตุทั้งขาไป และขากลับ โดยวัดระยะทางได้ 574 เมตร โดยขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ได้ขอความร่วมมือสื่อ จึงไม่สามารถตามบันทึกภาพทั้งหมดขณะปฏิบัติงานได้

 

จากนั้น ทีมข่าวช่องแปดได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.เทอดไทย สุขไทย รอง ผบก.ศพฐ.3 โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวยืนยันว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุเพื่อที่จะมาพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะมีการประสานพนักงานสอบสวนอีกที ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามวันนี้มีการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ ท่านรอง ผบก.กล่าวว่าเบื้องต้นทางตำรวจได้เก็บหลักฐานไปหมดแล้ว วันนี้เพียงมาดูพื้นที่สภาพจุดเกิดเหตุทั่วๆไป เพื่อพิสูจน์ต่อ ทั้งนี้ ยัง ไม่สามารถการันตีย์ได้ว่าจะใช้ระยะเวลากี่วันในการพิสูจน์ โดยจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งในการตั้งสมมุติฐานต่อไปสำหรับวันนี้ได้มีการใช้เครื่องมือในการวัดระยะทางจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไปยังจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นจะมีการร่วมประชุมหารือกันอีกครั้ง และยังคงปักหลักร่วมกันทำงานต่อไป โดยพื้นที่ยางชุมน้อย เป็นพื้นที่ของทาง สพฐ.ภาค 3 โคราชกำกับดูแลอยู่แล้ว

 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลจาก พ.ต.ต. ปัญญา โพธิ์ขำ สว.(สอบสวน) สภ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ถึงความคืบหน้าขอคดี ในการตรวจสอบเสื้อผ้าของครูเป็นอย่างไรบ้าง เผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างใดในเรื่องของพิสูจน์หลักฐานยังคงรอผลอยู่เช่นกัน

 

เวลา 15.04 น. ได้มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีษะเกษ เดินทางมายัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อเพื่อเก็บตัวอย่างดิน โดย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีการ หยิบดิน จุดดินนอกรั้ว จุดดินในรั้ว(จุดข้างรั้ว) จุดดินใต้ต้นไม้หน้ารั้ว และจุดดินใต้บันได เพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมและคลี่คลายคดีน้องอลิสนั้น 

 

ต่อมาเวลา 18.00 น. ทีมข่าวช่องแปดได้ลงพื้นที่ไปเก็บตัวอย่างดินตามจุดทั้งสี่จุด ตามที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาเก็บตัวอย่างดินไป เพื่อนำไป ตรวจสอบ โดยใส่ในถุงใสบรรจุดินทั้ง 4 จุด ทั้งนี้ จุดแรก เริ่มจาก บริเวณจุดดินนอกรั้ว จุดที่สองจุดดินในรั้ว (จุดข้างรั้ว) จุดที่สามดินใต้ต้นไม้หน้ารั้ว และจุดที่สี่ดินใต้บันได โดยขณะที่ ทีมข่าวกำลังเก็บตัวอย่างดิน นั้นเป็นขณะที่ฝนกำลังตก

 

จากนั้นทีมข่าวได้นำตัวอย่างดินทั้ง 4 จุด นำมาเทใส่กระดาษแผ่นสีขาว เพื่อสังเกตลักษณะสีที่แตกต่าง และความละเอียดของดิน 

 

ปรากฏว่า ดินในกระดาษแผ่นที่ 1 นอกรั้ว มีลักษณะ สีดำเข้ม โดยทีมข่าวได้มีการทดสอบสัมผัสดิน พบว่ามีความละเอียดและร่วนซุย

 

แผ่นกระดาษใบที่สอง จุดดินด้านในรั้ว มีลักษณะ สีเทา และมีความหยาบของเนื้อดิน เล็กน้อย

 

แผ่นกระดาษใบที่สาม ดินจุดใต้ต้นไม้ ลักษณะ สีน้ำตาลอ่อน ลักษณะของเนื้อดินมีความละเอียด และร่วนซุย

 

แผ่นกระดาษใบที่สี่ ดินจุดใต้บันได ลักษณะสี น้ำตาลเข้ม มีความหยาบของเนื้อดินเล็กน้อย

 

นายพรชัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ที่ตำรวจเชิญไปสอบปากคำในวันนี้ บอกว่า วันนี้ที่ตำรวจเรียกตัวมาสอบปากคำเป็นครั้งแรก ซึ่งตำรวจมีการขอโทรศัพท์ตนเองไปเช็กประวัติการใช้โทรศัพท์ในวันเกิดเหตุ ซึ่งตนเองยอมรับว่าก็จำไม่ได้ว่าโทรหาใครบ้าง แต่รายละเอียดอยู่ในโทรศัพท์ทั้งหมด และเท่าที่จำได้วันเกิดเหตุ ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 เป็นคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ 

 

นอกจากนี้ตำรวจยังมีการสอบปากคำไทม์ไลน์อย่างละเอียดว่าวันเกิดเหตุใครเข้าไปถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรกๆ ซึ่งในส่วนตัวผู้ใหญ่เอง ให้การกับตำรวจไปว่ามตนเองไปถึงที่เกิดเหตุประมาณคนที่ 10 กว่าๆ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ก็เป็นคนเข้าไปถึงที่เกิดเหตุก่อน 

 

ขณะเดียวกันในวันเกิดเหตุ เท่าที่ตนเองจำได้ ขณะที่เข้าไปถึงตรงจุดที่พบศพน้องอลิส จำได้ว่าหลังจากที่มีคนอุ้มร่างน้องอลิส ขึ้นมาจากสระน้ำ ตนเองเห็นย่าของน้องอลิส อุ้มร่างของน้องอลิส พาดบนบ่า จากนั้นเมื่อแน่ใจว่าน้องอลิส ตายแล้ว ตนเองจึงวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านและมีการประกาศเสียงตามสายให้ผู้ปกครองเข้าไปรับลูกหลานออกจากศุนย์พัฒนาเด็กเล็ก 

 

ก่อนที่ตนเองจะวิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุ ตนเองได้เจอกับครูหนุ่ย ที่หน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และก็ถามกับครูหนุ่ยว่า ชาวบ้านเขาออกไปตามหาน้องอลิส ที่ไหนกัน ซึ่งครูหนุ่ย ก็ชี้ไปตรงจุดเกิดเหตุ จากนั้นตนเองก็เข้าไปเจอครูน้อยกับครูปูเป้ อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งพอนำศพขึ้นมาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาอยู่ตรงนั้นนานพอสมควร จากนั้นเมื่อรถพยาบาลมาถึง เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล ได้มีการนำร่างของน้องอลิส ออกมารอทางแพทย์เวรที่บริเวณต้นตาล และภาพที่ช่อง 8 เปิดให้ดู ตนเองยืนยันว่าคือภาพครูหนุ่ย ซึ่งตนเองจำได้ว่า วันนั้นหลังจากผู้ปกครองมารับเด็กออกไปจนหมด เมื่อครูหนุ่ย เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีการเคลื่อนร่างน้องอลิส มาที่ใต้ต้นตาล ก็เห็นครูหนุ่ย มายืนดูตามภาพที่ช่อง 8 เปิดให้ดู และตอนที่เจอครูหนุ่ย ที่หน้าศูนย์ ครูหนุ่ยก็ใส่เสื้อเหมือนกันกับในภา

ครูหนุ่ยร่ำไห้ขอพูดความจริงกับแม่อลิส ชี้ดิน 4 จุดไขปริศนา แต่คนกกกอกห่วงอดีตซ้ำรอย