จากกรณีที่เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว3” ได้โพสต์ภาพและข้อความที่ว่า “ตัวตึงรังสิต พฤติกรรมทำสาวท้อv 3 รายไม่รับผิดชอบแถมไล่ให้ทุกคนไปทำแท้v -หนุ่มตี๋หน้าตาดีดีกรีเด็กธรรมศาตร์ ชอบอวดอ้างว่าบ้านรวยเป็นลูกคุณหนูมักตีสนิทกับสาวๆ ที่บ้านมีฐานะ -เค้ามักชอบพาสาวๆ ขึ้นไปหลับนอนบนคอนโด โดยที่ไม่เคยป้องกัน ซึ่งถ้าสาวคนไหนขัดขืนเค้าจะโมโห ไม่พอใจ -หนุ่มหน้าตี๋คนนี้ทำผู้หญิงท้อvมาแล้ว 3 รายซึ่งทุกคนจะโดนบัvคับให้ไปเอาเด็กoอก -มีคนนึงต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้า หลังถูกเค้าบีบบังคับให้ไปทำแท้v สุดท้ายสาวรายนี้ต้องจบชีวิตลvเพราะไม่สามารถผ่านประสบการณ์เลวร้ายนี้ได้ -คนล่าสุดถูกบังคับให้ไปเอาเด็กอoกเหมือนกับทุกคนที่ผ่านมาและติดเชื้oที่ช่อvคลoดต้องนอนรักษาตัวทั้งวันโดยที่"โด่ง"ไม่เคยมาเหลียวแลและก็หายตัวไป
ข่าวอ้างว่าหนุ่มหน้าตี๋ ติดเชื้อเoชพีวี ซึ่งอาจมีผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่oอีกหลายคนโดยหลายรายอาจยังไม่รู้ตัว...“
ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาพบกับผู้เสียหายรายล่าสุดคือน้องจิ๋ว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งถูกนายโด่ง ผู้ก่อเหตุ ชายหน้าตาดี แต่อวดอ้างว่าตนเองโปรไฟล์หรู หลอกจนตั้งครรภ์ โดยน้องจิ๋วเล่าให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า เมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายโด่ง ได้มีการทักแชตมาหาตนผ่านสตอรี่อินสตาแกรม ซึ่งเป็นการทักมาชวนคุยเพื่อขอจีบ
จากนั้นเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการนัดเจอกันโดยไปนัดเจอกันที่ตลาดนัดจตุจักร ก่อนที่เมื่อเจอกันแล้วและเดินเล่นตลาดนัดจตุจักรไปเรื่อยๆ นายโด่งจึงชวนกันกลับคอนโดที่ย่านรังสิต ซึ่งเมื่อกลับไปถึงคอนโดแล้ว ตนและนายโด่งก็ตกลงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน โดยการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งในครั้งนั้นก็ยอมรับว่าตนเองก็สมัครใจเช่นกัน อีกทั้งขณะที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันนั้นตนก็ยอมรับว่าไม่ได้สวมถุงยางอนามัย แต่ได้มีการกินยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันไว้แล้ว จึงคิดว่าไม่น่าจะเกิดการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน
แต่ในที่สุดเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทางตนก็รู้สึกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ เพราะตั้งแต่สัมพันธ์ลึกซึ้งกันกับนายโด่ง ประจำเดือนก็ไม่มาอีกเลย ซึ่งขณะเดียวกันก็คิดว่าการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติก็อาจจะเป็นเพราะอยู่ในช่วงสอบและทำกิจกรรมที่โรงเรียนอย่างหนัก จึงอาจเกิดความเครียดก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ด้วยความไม่สบายใจจึงได้ไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ สุดท้ายก็พบพบว่าตัวเองนั้นตั้งครรภ์จริงๆ ถึงแม้จะกินยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันเอาไปแล้วก็ตาม
และนั่นจึงทำให้ทางตนนั้นได้บอกกับนายโด่ง ว่าตนเองนั้นได้ตั้งครรภ์ แต่คำตอบของนายโด่งกับตอบตนเองมาว่า “เธอไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลายคนหรือเปล่า ก็อาจจะเป็นไปได้ที่เธอนั้นจะท้องกับคนอื่น คงไม่ใช่ฉันหรอก” นั่นทำให้ตนก็ตอบไปว่าตนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครเลยนอกจากนายโด่ง และนายโด่งก็บอกว่าตอนนี้ตนเองยังไม่พร้อมเพราะตนเองยังต้องดูแลครอบครัวเนื่องจากเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวอยู่ในขณะนี้
ซึ่งพอคุยกันไปมานายโด่งตอนนั้นก็เหมือนว่าจะยอมรับแล้วว่าตัวเองเป็นคนทำจนท้อง ทำให้นายโด่งได้มาหาตนพร้อมกับส่งคอนแทคของหมอทำแท้งให้กับตน พร้อมกับบอกว่าให้ตนไปทำแท้งด้วย ซึ่งทางตนก็สองจิตสองใจอยู่ว่าจะทำแท้งดีหรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดทางตนก็ตัดสินใจเอาเด็กออก เนื่องจากทางนายโด่งบอกว่าเดี๋ยวจะช่วยออกค่าใช้จ่ายในการทำแท้งด้วย และนายโด่งยังบอกอีกว่าตอนนี้ยังหาเงินไม่ได้ขอทำงานเก็บเงินก่อน โดยค่าทำแท้งจะอยู่ที่ 2500 บาท
จนในที่สุดช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทางตนก็ตัดสินใจไปทำแท้งกับหมอที่นายโด่งจ้างมา ซึ่งในการทำแท้งทางหมอให้ตนเองกินยา 2 เม็ด เม็ดแรกคือยายุติการตั้งครรภ์ เม็ดต่อมาคือยาบีบรัดช่องคลอด และเมื่อกินครบแล้วไม่นานตนเองก็เบ่งเด็กออกมา ซึ่งในตอนที่เห็นเด็กนั้นก็รู้สึกใจหายเพราะว่าเด็กที่ออกมานั้นตัวเด็กเริ่มเป็นรูปเป็นร่างและมีหัวใจและเรียบร้อย
และหลังจากที่ตนทำแท้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เกิดอาการภาวะครรภ์เป็นพิษ เนื่องจากการทำแท้งในครั้งนั้นรกของเด็กยังฝังตัวอยู่ภายในมดลูก จึงต้องทำการหาหมอเพื่อทำการขูดรกออกจากมดลูก จากนั้นเมื่อรักษาอาการคันเป็นพิเศษก็นึกขึ้นได้ว่าการที่นำเด็กออกเช่นนี้ก็อยากจะนำเด็กในท้องซึ่งก็คือลูกของตนมาทำพิธีทางศาสนาให้ถูกต้อง
จึงทวงถามนายโด่งไปว่าตอนนี้เด็กที่ทำแท้งออกไปนั้นอยู่ที่ไหนอย่างไร นายโด่งก็อ้างว่าเอาไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอ่างทองแล้วเรียบร้อย โดยตนก็ได้มีการทวงถามภาพหรือสถานที่ว่านำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ไหน นายโด่งก็อ้างว่าจำไม่ได้ ก่อนที่จะตอบมั่วมั่วมาแล้วตนก็โทรหาทางวัดทางวัดก็เผยว่าไม่เคยมีการนำร่างของเด็กทารกหรือเด็กที่ถูกทำแท้งมาประกอบพิธีทางศาสนาเลยแม้แต่น้อย
และเมื่อเป็นเช่นตนจึงได้มีการเข้าไป ทวงถามเรื่อยเรื่อยว่าสรุปแล้วเด็กในท้องของตนอยู่ที่ไหน ก่อนที่ในที่สุดในโด่งจะยอมรับว่าเอาไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ปทุมธานีแล้วเรียบร้อย ก่อนที่ตนจะไม่เชื่อและเค้นไปเรื่อยๆนายโด่งก็พูดวกไปวนมา ยังไม่พูดความจริงอีก จนในที่สุดนายโด่งก็นำร่างของเด็กในท้องมาให้ตนไปประกอบพิธีทางศาสนาด้วยตนเอง
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางตนได้มีการไปสืบสอบประวัติของนายโด่ง แล้วก็ได้ไปรู้จักกับแฟน คนปัจจุบันของนายโด่ง ซึ่งแฟนคนปัจจุบันของนายโด่ง ก็บอกว่านายโด่งเคยทำพฤติกรรมเช่นนี้กับผู้อื่นมาแล้วกว่า 20 คน และถือว่าเป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ตัวเองได้มีการเลิกรากับนายโด่งไปแล้ว รับไม่ได้จริงๆ สุดท้ายตอนนี้ตนได้ไปแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้วในข้อหาพรากผู้เยาว์เพียงข้อหาเดียว สุดท้ายก็อยากฝากให้กับผู้หญิงที่เห็นผู้ชายโปรไฟล์ดีหน้าตาดีแต่สุดท้ายแล้วก็โดนหลอก ก็ยอมยอมรับว่าเจ็บใจแต่ด้วยความที่ตนสมยอมก็อาจจะทำอะไรได้ไม่มากนัก จึงอยากฝากให้ดูแลตนเองดีดีและรักตัวเองให้มากๆจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนเหล่านี้อีก
ทีมข่าวช่อง 8 ได้ติดต่อผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อจากพฤติกรรมของนักศึกษาหนุ่มคนดังกล่าว ซึ่งน้องข้าวฟ่าง (นามสมมติ) ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 เผยว่า ตนเริ่มรู้จักกับ นายโด่ง จากแอพแอปหาคู่ ซึ่งเริ่มรู้จักกันตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา จากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือนทางด้านของนายโด่ง ได้นัดเจอตนที่คอนโดของเขา ตนจึงได้เดินทางไปหา และเมื่อไปถึงก็เห็นนายโด่งอยู่กับเพื่อนผู้ชายและผู้หญิง ทำให้ตนรู้สึกปลอดภัย เนื่องจากมีเพื่อนอยู่ด้วย หลังจากนั้นก็ได้เดินทางกลับที่พักของตน ซึ่งต่อมาผ่านมาอีกครึ่งเดือน นายโด่งได้นัดตนให้ไปหาที่คอนโดอีกครั้ง และตนก็ได้เดินทางไป ซึ่งต่างจากครั้งแรก เพราะในห้องที่คอนโดมีนายโด่งเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้อง ก็เริ่มคุยกัน และนายโด่งพยายามขอที่จะมีเซ็กซ์กับตน ตนจึงได้ถามกลับไปว่ามีถุงยางป้องกันไหม นายโด่งได้อ้างว่า ตัวเขาเองไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากแล้วจึงไม่ได้มีถุงยางป้องกัน แต่ตนก็ปฏิเสธที่จะร่วมมีเซ็กซ์เนื่องจากไม่มีถุงยางป้องกัน หลังจากนั้นนายโด่งานมีอาการและท่าทีที่ฉุนเฉียว และด่าทอตน และได้พูดว่า มาแล้วไม่ให้จะมาทำไม และเกิดปากเสียงกัน จากนั้นตนได้ขอตัวกลับไปเปิดประตู จากนั้นได้เข้ามากระชากตนไปที่เตียง เนื่องจากสู้แรงไม่ไหวจึงอะไรกันในครั้งนั้น
หลังจากนั้น ตอนมีอาการปวดท้องเป็นอย่างมาก ทำให้มีอาการตกขาวเป็นสีเขียวซึ่งผิดปกติเพราะตนเองไม่เคยมีอาการแบบนี้ ตนตัดสินใจ ไปหาหมอตรวจภายในซึ่งหมอได้ตรวจออกมาแล้วบอกว่าปกติดี แต่ตนก็ไม่ได้สบายใจ จึงมีการไปหาหมอตรวจเลือดอีกครั้ง ซึ่งผลเลือดเป็นลบ และเมื่อมีกระแสข่าวออกไปทำให้ตนมีความรู้สึกกังวล ว่าจะติดเชื้อHIV และ HPV ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนนั้นเลิกคุยกับนายโด่ง เพราะมีพฤติกรรมชอบให้ออกเงินให้ก่อน โดยอ้างว่าให้ลงไปเอากับข้าวที่ใต้คอนโด และได้ฝากตนซื้อของ แล้วอ้างว่าจะคืนเงินสดให้ แต่เมื่อตรงมาถึงห้องและลงไปรับของให้แล้วนายโด่งกลับไม่คืนเงินให้ตนอยู่หลายครั้ง ตนรู้สึกไม่โอเคกับพฤติกรรมเหล่านี้ ประกอบกับเพื่อนของตนเห็นนายโด่งอัพสตอรี่ กับผู้หญิงคนอื่นขณะที่คบกับตน ทำให้ต้องตัดสินใจที่จะตีตัวออกห่างตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 67 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการแชร์พฤติกรรมของนายโด่ง บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้ตนรู้สึกเป็นวิตกกังวล เพราะกลัวจะโรคจากนายโด่ง และตนยังได้พูดคุยกับผู้เสียหายที่ถูกนายโด่ง มีอะไรกันจนท้องและถูกบังคับให้ไปทำแท้ง ตนรู้สึกสงสารผู้หญิงด้วยกันกับพฤติกรรมดังกล่าว
จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับน้องเบนซ์ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เป็นแฟนคนล่าสุดของนายโด่ง โดยน้องเบนซ์เล่าว่า ตนเองรู้จักกับนายโด่งเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยรู้จักกันที่ร้านเหล้า และสานสัมพันธ์เรื่อยมาจนเป็นแฟนกัน ซึ่งในระหว่างที่คบหากันนั้น ตนเองก็จับได้ว่านายโด่ง นอกใจตัวเองอยู่ตลอด ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่านายโด่งไปเอานิสัยเจ้าชู้ขนาดนี้มาจากไหน ซึ่งในตอนที่จับได้ว่านายโด่ง นอกใจ นานโด่งก็มักจะพูดออกมาเหมือนให้ตัวเองดูดีตลอดว่า “ก็ยอมรับว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่การกระทำของตน เป็นเพียงเพียงการนอกกายไปมีสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ได้เป็นการนอกใจคบหากับผู้อื่นแบบคบซ้อนแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ตัวเองผิด”
กับเรื่องของการมีข่าวออกมาว่านายโด่งนั้น อาจจะเป็นโรค HPV (โรคติดเชื้อไวรัสทางอวัยวะเพศ) ตนเองไม่เคยทราบมาก่อนว่านายโด่งเป็นโรคดังกล่าว แต่ก็ยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าในขณะที่ตนเองมีสัมพันธ์กับนายโด่ง ไม่เคยใส่ถุงยางอนามัยเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็มีการป้องกันด้วยการกินยาคุมฉุกเฉินพ่วงด้วย จึงโชคดีที่ยังไม่ตั้งครรภ์อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นตนเองก็มีอาการของตกขาวที่มีมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงพร้อมกับสีของตกขาวกลายเป็นสีเขียวขุ่นดูน่ากลัว จึงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุสาเหตุที่นายโด่งอาจเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่อย่างไร แต่ตอนนี้ก็อาการดีขึ้นตามลำดับแล้วเพราะได้เลิกกับนายโด่งมาประมาณสองถึงสามเดือนแล้วด้วยกัน
และในขณะที่เลิกกันแล้วก็มีผู้เสียหาย ทักมาร้องเรียนตนกว่า 30 คนว่านายโด่งนั้นมาพูดคุยด้วย จนตอนนี้ต้องทำให้ตัวนั้นต้องปิดไอจีชั่วคราวเพราะไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว ส่วนเรื่องของโปรไฟล์หรูต่างๆของนายโด่ง ก็คงเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งนั้น เพราะการที่คบกันมาก็ไม่เคยเห็นนายโด่งนั้นไปเรียนหรือไปทำกิจกรรมอะไรที่มหาลัยเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งเรื่องของอายุที่นายโด่งอ้างว่าตัวเองอายุ 21 ปี แต่พอตนไปเจอประชาชนในห้องพักของนายโด่งกลับพบว่านายโด่งเกิดปีพ.ศ. 2542 ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 25 ปีแล้ว ตนจึงถามว่าทำไมต้องโกหกเรื่องอายุอีกด้วยแต่นายโด่งก็ตอบกลับมาว่ามันคือบัตรประชาชนปลอมที่จริงก็อายุ 21 นั่นแหละ 25 ปีไม่ใช่อย่างแน่นอน
ส่วนตอนนี้ก็ไม่มีอะไรอยากจะบอกนายโด่งแล้วเพราะเสียความรู้สึกไปเสียทุกเรื่อง กับเรื่องที่เกิดขึ้นก็อยากขอให้นายโด่งนั้นออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำด้วยอย่าคิดว่าตัวเองนั้นทำผิดแล้วจะไม่ต้องรับผิด ขอให้ออกมาสู้กับความจริงดีกว่า
ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายโด่ง หนุ่มหน้าตาดีโปรไฟล์หรูพี่กำลังถูกแฉอย่างหนักในเวลานี้ โดยนายโด่งได้ขอชี้แจงผ่านทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนอยากชี้แจงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่มีการออกมาแฉตนตามเพจต่างๆ ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด โดยเรื่องแรกที่อยากขอชี้แจงคือเรื่องที่มีข่าวออกไปว่ามีสาวที่ตนมีสัมพันธ์กับเขาแล้วเกิดเสียใจจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย และเรื่องที่มีการออกมาแฉว่าตนนั้นเป็นคนเจ้าชู้ทำแต้มเก็บผู้หญิงไปแล้วกว่า 30 คน เรื่องดังกล่าวตนอยากจะบอกว่าน่าจะไม่สามารถใช้คำว่าเจ้าชู้ได้ เนื่องจาก ตอนนั้นนั้นก็มองว่าเป็นการใช้ชีวิตของลูกผู้ชายคนหนึ่ง ที่ในชีวิตนี้ก็มีประสบการณ์ผ่านผู้หญิงมาหลายคนแล้ว
ส่วนเรื่องของการมีคนออกมาแฉว่าตนนั้นมีสัมพันธ์กับเขาแล้วเขาเกิดท้องขึ้นมา ก็ยอมรับว่าจริงแต่เป็นคนล่าสุดเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ตนทำเขาท้องซึ่งคนอื่นนั้นยืนยันว่าไม่เคยทำเขาท้องมาก่อนเลยแม้แต่คนเดียว อีกทั้งเรื่องที่ มีการออกมาแฉว่าตัวนั้นเป็นโรคHPV (โรคติดเชื้อไวรัสทางอวัยวะเพศ) ตนเองก็ขอยืนยันอีกว่าได้ทำการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ขอยืนยันอีกว่าตนเองไม่เคยมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เลย ดังนั้นการที่ผู้หญิงหลายๆคน ที่เคยมีสัมพันธ์กับตนก็ต้องลองมองย้อนตัวเองว่าไปติดโรคมาจากคนอื่นหรือไม่
สุดท้ายกับเรื่องอื่นๆนั้นทั้งเรื่องของอายุหรือเรื่องของโปรไฟล์หรูของตนที่ได้ไปเรียนที่สถาบันดังต่างๆ ตนไม่อยากขอชี้แจงตรงนี้และขอชี้แจงผ่านสื่อโซเชียลส่วนตัวของตนเองในเร็ววันนี้ต่อไป