สืบภาค 2 สนธิกำลัง สภ.หนองขาม บุกจับมือตัดคลิปชวนเล่นพนันออนไลน์ ยึดทรัพย์กว่า 7 แสน

ด้วยสืบภาค 2 ได้รับนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของกวดขันปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลยูโร 2024 ภายในพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมา ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 1 และ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ของสืบภาค 2 ได้สืบทราบว่ามีผู้โฆษณาเว็บพนันออนไลน์ เพื่อหาลูกค้าในโซเชียล อยู่ในพื้นที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายค้นจากศาลแขวงชลบุรี

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบภาค 2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม ได้ร่วมสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายตามหมายศาล ผลการตรวจค้นพบ นายปรเมทฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี และ น.ส.สุวรรณาฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง ซึ่งมีพยานหลักฐานเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ "G2G1688G" และ “DG1688G” ทั้งหน้าแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียต่างๆ ของเว็บพนันออนไลน์ , รูปภาพ , คลิปวิดีโอ และข้อความ โฆษณาการพนันออนไลน์

ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ทำหน้าที่ตัดต่อภาพและคลิปวิดีโอการพนันออนไลน์ และโพสต์โฆษณาชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าเล่นการพนันออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน FACEBOOK , INSTAGRAM และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ อีกทั้งได้ทำโฆษณาทางข้อความ (SMS) เข้าโทรศัพท์มือถือของบุคคลอื่น เพื่อหาลูกค้าเข้าเล่นการพนันออนไลน์ และได้รับค่าตอบแทนจากผู้ว่าจ้าง เดือนละ 30,000 บาท ทำงานดังกล่าวมาแล้วประมาณ 1 ปี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจยึดทรัพย์สิน เป็นเงินสด , กระเป๋าแบรนด์เนม และเครื่องประดับแบรนด์เนม รวมมูลค่า ประมาณ 700,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำดังกล่าว และจากการตรวจค้นยังพบยาเสพติด (คีตามีน) อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของความผิดที่ผู้ต้องหาทั้งสอง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการชักชวน , ช่วยประกาศ หรือโฆษณา ให้ผู้อื่นเข้ามาเล่นการพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอล เป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท