"บิ๊กโจ๊ก" ฟ้อง "เศรษฐา" ใช้อำนาจมิชอบรับรองมติ ก.ตร. เดินหน้ายื่นขอความเป็นธรรมจาก ก.พ.ค.ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติ 12 ต่อ 0 เสียง เห็นชอบคำสั่งของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ให้ตนออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดความคาดหมาย เพราะเป็นตำรวจจึงรู้วิธีการทำงานของตำรวจดี ยืนยันว่า ก.ตร. ไม่มีอำนาจพิจารณา

ดังนั้นจึงเตรียมการยื่นฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. และคณะกรรมการ ก.ตร. รวม 12 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมประชุมและรับรองวาระการประชุมเกี่ยวกับคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งที่คณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นว่าคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่นายกฯยังไปรับรองอีก ดังนั้นจึงเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ได้ใช้ดุลพินิจด้วยความเป็นธรรม ยืนยันตนทำสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ได้ท้ารบกับนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อย่างไรก็ตาม ที่ต้องมายื่นเรื่องให้ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งเทียบเท่ากับศาลปกครองชั้นต้น เป็นการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมจากการถูกรังแก ยอมรับว่าเวลานี้ ความหวังที่จะได้รับความเป็นธรรมอยู่ที่ ก.พ.ค.ตร. ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน หรืออาจถึง 180 วัน ตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย

"ผมถูกรังแกมาทั้งชีวิต เพราะยังเหลืออายุรับราชการอีกหลายปี และเป็นอาวุโสอันดับ 1 (นั่งตำแหน่งผบ.ตร.) มีเรื่องเดียว ถ้าเหลือ 1-2 ปี ไม่มีใครมายุ่งกับผมหรอก ทุกวันนี้ต่อสู้เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อท้าตีท้าต่อยกับใคร" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว