จากกรณีช่วงสายของวันที่ 26 มิ.ย. 2567 มีหญิงรายหนึ่ง ทราบชื่อคือ นางสาวอมรสุข อายุ 48 ปี (ผู้ป่วยจิตเวช) ได้ไปก่อเหตุวางเพลิงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่ง ใน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จนสร้างความแตกตื่นตกใจหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ นั้น

ล่าสุดเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 มิ.ย. 2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่บ้านของนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ตามหมายจับ ข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ที่เป็นโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบว่า ผู้ก่อเหตุได้ขังตัวอยู่แต่ในบ้านพร้อมกับปิดประตู ปิดหน้าต่างไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปด้านใน ตำรวจใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผล จึงให้นางอาลัย อายุ 81 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ มาช่วยเจรจา จนนางสาวอมรสุข ยอมใจอ่อน แต่ก็ไม่มีท่าทีที่จะออกมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงทำการพังหน้าต่างเข้าไป

จากนั้นก็พบว่าผู้ก่อเหตุได้ขังตัวอยู่ในห้องนอนอีกที เจ้าหน้าที่จึงปีนไปดูลาดเลาก็เห็นผู้ก่อเหตุยืนแน่นิ่ง ถือมีดในมือด้านซ้าย 1 เล่ม และเหน็บมีดที่เอวอีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเห็นท่าไม่ดีและได้ลงมาจากผนังห้องนอนของผู้ก่อเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีดันประตูห้องนอนของผู้ก่อเหตุเข้าไป กระทั่งสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ในที่สุด โดยใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมและควบคุมตัวจนเสร็จสิ้นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

โดยเมื่อทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับพาตัวผู้ก่อเหตุขึ้นบนรถกระบะ ผู้สื่อข่าวพยายามยื่นใหม่สอบถาม นางสาวอมรสุข ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ว่ามีเรื่องไม่พอใจอะไรกับธนาคารดะงกล่าวหรือไม่ ซึ่งทางด้านนางสาวอมรสุข ที่นั่งอยู่ในรถกระบะ ก็เอาแต่นั่งตัวแข็ง ตาแข็ง สีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาตัวนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ไปสอบปากคำต่อที่ สภ.ฉวาง ต่อไป

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดชุดที่ 1 มี 2 คลิป เวลา 08.56 - 07.58 ของเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 2567) ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ จับภาพนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเพื่อไปก่อเหตุวางที่ธนาคาร และกล้องวงจรปิดชุดที่ 2 เวลา 11.26 น. จับภาพนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับจากก่อเหตุ

จากนั้นกล้องวงจรปิดชุดที่ 3 มี 3 คลิป เวลา 14.08 - 14.10 น. จับภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ฉวาง เข้ามาเจรจาขอความร่วมมือกับนางสาวอมรสุขเพื่อให้มอบตัว หลังจากที่เจ้าตัวไปก่อเหตุของธนาคาร ซึ่งในคลิปจะได้ยินเสียงตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุด้วยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การใช้วิธีเป็นพ่อค้าลอตเตอรี่ และเสนอขายลอตเตอรี่ให้กับผู้ก่อเหตุ แต่ทางด้านผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟังตำรวจแล้วจะได้ยินเสียงนางสาวอมรสุข โวยวายเสียงดังมาจากด้านในบ้าน และไม่ยอมเปิดบ้านให้กับตำรวจ จนตำรวจต้องกลับไป

ต่อมาทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด ชุดที่ 1 เวลา 10.45 น. วันนี้ 27 มิถุนายน 2567 ภาพเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉวาง ขับรถมาจอดหน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนที่จะเห็นชุดสืบสวนลงไปพยายามเจรจากับผู้ก่อเหตุ และวงจรปิดตัวที่ 2 เวลา 10.51 น. จับภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานางอาลัยแม่ของผู้ก่อเหตุ เข้าไปเจรจากับลูกสาวในบ้าน และวงจรปิดชุดที่ 3 เวลา 10.59 - 11.01 น. จับภาพตอนตำรวจคุมตัวนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ออกมาจากภายในบ้าน

ขณะที่บรรยากาศ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจถ้ามีการนำตัวนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเบื้องต้นที่ห้องสืบสวนชั้นสอง แต่พบว่า นางสาวอมรสุขไม่ให้ความร่วมมือในการสอบปากคำกับตำรวจ ไม่ยอมเอ่ยปากพูดกับตำรวจแม้แต่คำเดียว ซึ่งตำรวจก็ได้ให้แม่ของผู้ก่อเหตุมาช่วยพูดคุย แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้การสอบปากคำครั้งนี้ตำรวจยังไม่ได้ข้อมูลกับผู้ก่อเหตุแม้แต่นิดเดียว

กระทั่งเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจจะทำการส่งตัวผู้ก่อเหตุไปให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำต่อ และมีการเชิญให้ผู้ก่อเหตุลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่อเดินไปห้องสอบสวนชั้น 1 แต่ทางนางสาวอมรสุข ผู้ก่อเหตุ ได้นั่งตัวแข็งติดกับเก้าอี้ ไม่ยอมลุกออกจากเก้าอี้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนาย มาดึงตัวอมรสุขออกจากเก้าอี้ และพาเจ้าตัวเดินลงบันไดไปยังห้องสอบสวนชั้นหนึ่ง ซึ่งจังหวะที่ตำรวจหญิง มีการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุออกมานั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่ทางด้านนางสาวอมรสุขก็ปิดปากเงียบ ทำตัวแข็งเหมือนเดิม และไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวแม้แต่คำถามเดียว

ด้านนางมาลี ลูกพี่ลุกน้องของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า สำหรับนางสาวอมรสุขนั้น เขาป่วยจิตเวชมาตั้งแต่เป็นสาวแล้ว ซึ่งเวลาอยู่ที่บ้านเขาก็จะมีอาการโวยวาย จนจนแม่เขาต้องย้ายไปอยู่กับลูกอีกคนที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนตัวเอง เพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ตัวเองไม่ค่อยได้เข้าไปสุงสิงกับผู้ก่อเหตุ เพราะว่าเขาขู่จะยิงบ้าง ขู่จะเอามีดมาฟันตัวเองบ้างเป็นประจำ แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายตัวเอง

กระทั่งล่าสุดตัวเองมาทราบข่าวว่าเขาไปเผาธนาคาร ตัวเองรู้สึกตกใจมาก ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าก่อเหตุมาจากเรื่องอะไร แต่ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเค้าจะต้องไปเอาเงินเดือนคนพิการกับ ธ.ก.ส. ทุกเดือน เดือนละ 800 บาท ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าเป็นปมในการไปก่อเหตุหรือไม่ โดยเมื่อ 10-11 โมงวันนี้ ตำรวจได้มาเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้มอบตัว พร้อมกับให้แม่ของผู้ก่อเหตุช่วยเกลี้ยกล่อมอีกด้วย กระทั่งตำรวจได้ควบคุมตัวนางสาวอมรสุขจนสำเร็จ แล้วก็นำตัวไปดำเนินคดีแล้ว