จากกรณี “นางเปรมมณี” หญิงวัย 61 ที่อ้างว่าตัวเองได้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชุดใหญ่มูลค่า 90 ล้าน (งวดวันที่ 30 ธันวาคม 2565) แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรหลังจากที่ชาวบ้านนั้นออกมาบอกว่าไม่เชื่อ รวมไปถึงสภาพบ้านและการเป็นอยู่ที่ไม่เหมาะสมกับคนถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทีมข่าวก็ย้อนกลับไปที่บ้านของนางเปรมมณีอีกครั้ง พบว่าได้มีรถกระบะนำน้ำถังขนาด 18.9 ลิตร มาส่งให้กับบ้านของนางเปรมมณี โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 15 ถัง ซึ่งการส่งน้ำครั้งนี้ต้องอาศัยให้พนักงานปีนข้ามกำแพงข้างบ้านและขนน้ำทีละถังไปวางไว้ที่หน้าบ้าน โดยที่ไม่มีใครออกมารับน้ำหรือจ่ายเงินให้กับพนักงานส่งน้ำ
นายกิตติศักดิ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพนักงานส่งน้ำก็ได้เปิดเผยว่า ตนนั้นนำน้ำมาส่งให้กับบ้านของนางเปรมมณีมานานถึง 3-4 ปีแล้ว โดยอาทิตย์นึงจะมาส่งให้ 2 ครั้ง ครั้งละ 15 ถัง ซึ่งน้ำเหล่านี้ก็จะถูกใช้ในการดื่มและอาบ แต่ปกติตนจะเข้าไปส่งน้ำผ่านทางประตูหน้าบ้าน แต่ในครั้งนี้ทางด้านของคนรับใช้นางเปรมมณีได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าไม่สะดวกที่จะออกมาเปิดประตูให้ พร้อมกับบอกให้นำน้ำส่งข้ามผ่านกำแพงข้างบ้านแทน ตนก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันแต่ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากตนก็พอที่จะติดตามข่าวอยู่บ้าง โดยนายกิตติศักดิ์ยังบอกอีกว่าตนนั้นมีตารางเวลาที่จะส่งน้ำให้กับแต่ละบ้านอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าว่าจะเข้าไปส่งวันไหน ส่วนนางเปรมมณีก็จะทำการโอนเงินค่าน้ำให้ตนเป็นประจำอยู่แล้ว ถังหนึ่งก็ราคา 13 บาท
ทีมข่าวช่องแปดก็ได้เดินสำรวจบริเวณรอบบ้านของนางเปรมมณี และพบว่าหน้าบ้านของนางเปรมมณีนั้นมีร่องรอยของการถูกรื้อถอนมิเตอร์น้ำ ลักษณะของท่อนั้นถูกตัดหักออกเป็นสองท่อน ส่วนตัวมิเตอร์นั้นได้ถูกยกออกไปแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกรื้อถอนไปนานพอสมควร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีหญ้าขึ้นรกรุงรังแล้ว
จนกระทั่งช่วงเย็น ปรากฏว่านายอาทิตย์ (ลูกชายของเปรมมณี) ก็ได้เดินออกมาจากบ้านพัก ซึ่งนายอาทิตย์มีการกระโดดข้ามประตูรั้วหน้าบ้านออกมา ก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของนายหนึ่งที่มาถึงหน้าบ้านพอดี นักข่าวช่องแปดจึงได้เดินเข้าไปถามหานางเปรมมณี นายอาทิตย์ก็บอกว่า “แม่ไปกรุงเทพครับ“ นักข่าวก็ถามว่าไปกรุงเทพทำไม นายอาทิตย์ก็บอกว่า “ไม่รู้ครับ ไม่รู้” นักข่าวก็ยังถามต่ออีกว่าแม่ถูกลอตเตอรี่จริงหรือเปล่า นายอาทิตย์เข้าไปเจอลอตเตอรี่ได้ยังไง นายอาทิตย์ก็ตอบว่า “รอดูในข่าวนะครับ ขออนุญาตนะครับ” จากนั้นนายอาทิตย์ก็ตบไหล่ให้นายหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์ออกไป นักข่าวก็วิ่งตามแล้วถามว่าเครียดไหม อาทิตย์ก็บอกว่า ”ไม่เครียดครับ ปกติครับ“ จากนั้นนักข่าวก็ถามว่ากำลังจะไปไหน นายอาทิตย์ก็บอกว่า “ผมจะไปตกปลาครับ” แล้วนายอาทิตย์ก็ได้ตะโกนสั่งเพื่อนว่า “ขับไปดิ เบิ้ลไปสิไอ้...“ แล้วก็หัวเราะคิกคักออกมา
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนางน้ำบุญ อายุ 75 ปี (พี่สาวของเปรมมณี) เกี่ยวกับประเด็นเรื่องร่างทรง โดยนางน้ำบุญได้เปิดเผยว่า นางเปรมมณีนั้นได้เป็นร่างทรงตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเทพเจ้าแต่ยืนยันว่าไม่รู้ว่าเป็นเทพเจ้าอะไร ลักษณะการเข้าทรงก็เหมือนกับที่เคยเห็นทั่วไป เมื่อมีการประทับทรงนางเปรมมณีก็จะนั่งขัดสมาธิและตัวสั่นเล็กน้อย น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็จะเป็นเสียงผู้ชาย ซึ่งตนคิดว่าน้องสาวนั้นเป็นร่างทรงฝ่ายดี เนื่องจากทุกครั้งที่ประทับทรงก็จะมีการสอนธรรมะ สอนให้ปฏิบัติดี อีกทั้งยังมีการเปิดรักษาผู้ป่วยหรือคนโดนคุณไสย ซึ่งวิธีการรักษาก็คือการเป่ากระหม่อม และมีการคิดค่าครูเพียงครั้งละ 12 บาทเท่านั้น แต่มาพักหลัง ๆ ผู้คนเริ่มไม่ค่อยเชื่อถือศรัทธา เทพเจ้าจึงออกจากร่างไปและไม่ได้กลับมาประทับทรงอีกเลยในตอนที่นางเปรมมณีอายุได้ 30 ปี
ส่วนเรื่องนิสัยใจคอของนางเปรมมณี ตนในฐานะพี่สาวก็มองว่าน้องสาวเป็นคนตลกเฮฮา มักจะชอบพูดไปเรื่อย บางครั้งก็พูดจริงบางครั้งก็พูดเล่น ตนจึงไม่ค่อยเชื่อคำพูดของนางเปรมมณีสักเท่าไหร่เพราะมองว่าเป็นคำพูดคำจาที่ไม่มีน้ำหนัก ส่วนประเด็นเรื่องการถูกลอตเตอรี่ ตนก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้ หลังเกิดเรื่องเป็นข่าวนางเปรมมณีก็ไม่ได้ติดต่อหรือปรึกษาอะไร ตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าน้องสาวอยู่ที่ไหนเนื่องจากว่าไม่ได้มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน จึงไม่มีโอกาสได้ถามไถ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเลย
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเที่ยง อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับบ้านของนางเปรมมณี โดยนางเที่ยงเล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. หลังจากที่ทีมข่าวช่องแปดเดินทางกลับออกไป ทางด้านของนายอาทิตย์ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านก็ได้ตะโกนเอะอะโวยวายเสียงดัง ไม่แน่ใจว่าเป็นการพูดคนเดียวหรือกำลังคุยกับใคร แต่เท่าที่จับใจความได้นั้น นายอาทิตย์มีการพูดบ่นทำนองว่า “ไม่รู้จะมายุ่งกับผมทำไม ผมไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย ใครก่อเรื่องก็ให้คนนั้นรับผิดชอบเอาเอง“ แล้วก็มีการโวยวายอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะเงียบไป
โดยนางเที่ยงยังบอกอีกว่า ตนไม่ค่อยเห็นนางเปรมมณีออกมาจากบ้านเลย หรือหากออกมาทีนึงก็จะมีการแต่งกายที่ดูแปลกตา นุ่งขาวห่มขาวใช้ผ้าคลุมปิดบังศีรษะจนมองไม่เห็นหน้า ซึ่งแว่ว ๆ มาว่านางเปรมมณีนั้นเป็นร่างทรง แต่ตนก็ไม่รู็ว่าเป็นร่างทรงของอะไรเพราะไม่เคยเข้าไปสุงสิงกับบ้านเขา ส่วนเรื่องที่นางเปรมมณีถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท ตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ยืนยันได้ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ตนไม่เคยเห็นนางเปรมมณีจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านและไม่เคยเหมาอาหารหรือขนมมาให้กับคนในชุมชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“บ่าวเบียร์ ธาตุพนม“ หรือ นายสุริยัน อายุ 33 ปี (คนถ่ายคลิปเปรมมณี) ก็ได้บอกว่า ตอนนี้ตนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากว่าจะมีความผิดที่ได้นำคลิปการถูกลอตเตอรี่ของนางเปรมมณีมาเผยแพร่ทางโซเชียล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงใคร ตนก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าลอตเตอรี่ใบนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม เพราะตนก็ไม่ได้แกะลอตเตอรี่ออกมาดูเนื่องจากนางเปรมมณีก็ไม่ได้อยากให้ใครไปจับลอตเตอรี่ของเขา ในตอนแรกตนคิดเพียงแค่ว่าต้องการจะไปแสดงความยินดีที่มีคนในพื้นที่เดียวกันถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท แต่ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายเรื่องราวจะออกมาบานปลายในลักษณะนี้ อีกทั้งในตอนนี้ตนก็ไม่สามารถติดต่อนางเปรมมณีได้ เพราะตนนั้นไม่ได้รู้จักกับครอบครัวนี้เป็นการส่วนตัวและยืนยันว่าเพิ่งจะมารู้จักกันในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 (วันที่ถ่ายคลิป)
นายสุริยันยังบอกอีกว่า ตนเองก็เคยไปถ่ายทำคลิปคดีน้องชมพู่ที่บ้านกกกอกเพราะตนนั้นมีอาชีพเป็นยูทูบเบอร์ ตรงไหนที่มีกระแส ตนก็ต้องเข้าไปถ่ายเข้าไปทำ เพื่อที่จะได้เป็นยอดวิวเป็นกระแสให้กับช่องของตัวเองเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ซึ่งก็คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นกระแสในด้านบวก ไม่นึกว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ ในตอนนี้ตนก็อยากให้นางเปรมมณีออกมาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น อยากให้นำลอตเตอรี่ออกมาพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม เพราะตอนนี้เหตุการณ์เริ่มวุ่นวายและส่งผลกระทบกับคนรอบข้าง ตนถูกมองเป็นคนไม่ดีคนหลอกลวง จึงอยากใช้โอกาสนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงใครเลย
นอกจากนี้ “บ่าวเบียร์ ธาตุพนม“ หรือ นายสุริยัน อายุ 33 ปี (คนถ่ายคลิปเปรมมณี) ก็ได้อธิบายถึงลักษณะการจับลอตเตอรี่ของนางเปรมมณี บอกว่า ในวันนั้นนางเปรมมณีก็ได้หยิบลอตเตอรี่ออกมาจากกระเป๋า โดยที่ลอตเตอรี่ก็ได้ถูกห่อใส่ซองพลาสติกและมัดยางเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ขณะที่นางเปรมมณีนำลอตเตอรี่ออกมาโชว์ ตนก็ได้ขอจับขอสัมผัสลอตเตอรี่สักครั้งหนึ่ง ตอนแรกนางเปรมมณีก็ทำท่าเหมือนไม่อยากให้จับ ตนจึงอ้อนขอว่า “ผมเกิดมายังไม่เคยถูกรางวัลเลย ขอจับรางวัลที่หนึ่งสักครั้งเถอะ” นางเปรมมณีจึงยอมให้ตนจับลอตเตอรี่ โดยที่ไม่ได้ปล่อยให้ตนจับลอตเตอรี่ตามอัธยาศัย แต่เป็นการถือลอตเตอรี่ร่วมกัน ซึ่งตนก็ได้จับแค่ปลาย ๆ เท่านั้น ซึ่งเวลาทั้งหมดที่นางเปรมมณีนำลอตเตอรี่ออกมาโชว์ก็ประมาณ 10 นาที จากนั้นก็ได้เก็บกลับใส่กระเป๋าไว้อย่างเดิม โดยตนก็เพิ่งมาสังเกตเห็นว่านางเปรมมณีมักจะใช้นิ้วมือในการปิดบังบาร์โค้ดทุกภาพ ไม่ว่าจะถ่ายรูปกับใครนางเปรมมณีก็จะใช้นิ้วชี้ปิดบาร์โค้ดหมด อีกทั้งในวันนั้นก็ไม่มีการสแกนบาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบผลรางวัล แต่เป็นการกรอกตัวเลขทั้ง 6 หลัก โดยคนที่กดตรวจสอบผลรางวัลในวันนั้นก็คือนายอาทิตย์ (ลูกของเปรมมณี) ทำให้ตนย้อนกลับมาคิดในวันนี้ว่านางเปรมมณีตั้งใจที่จะหลอกตนตั้งแต่แรกหรือเปล่า ช่องแปดก็ได้สังเกตเห็นว่าเลข 7 ที่อยู่ในลำดับที่ 3 บนสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นดูเหมือนจะผิดปกติ โดยที่ส่วนหัวของเลข 7 นั้นมีลักษณะเหมือนการกระโดดสูงขึ้นมาจากตัวเลขอื่น ๆ จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับนี้จะถูกปลอมแปลงขึ้นมา โดยนายสุริยันก็ได้บอกว่า ตนเองไม่เคยสังเกตเห็นความผิดปกติในส่วนนี้ เพราะตั้งแต่แรกตนก็ไม่ได้คิดสงสัยเอะใจอะไรอยู่แล้ว เพิ่งจะมาเริ่มสังเกตและสงสัยหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกมาให้เห็น
ต่อมาทีมข่าวช่องแปดพร้อมกับ 3 ยูทูบเบอร์ (นายสุริยัน-นายหนึ่ง-นายทรงวุฒิ) ได้เดินทางไปที่ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยที่ทั้งสามคนได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะเผยแพร่หรือนำสู่ข้อมูลอันเป็นเท็จให้แก่ประชาชน
หลังจากที่ลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานแล้ว ทั้งสามคนก็ได้เดินออกมาจาก สภ.ธาตุพนม โดยที่ นายทรงวุฒิ อายุ 37 ปี (หนึ่งในคนที่ถ่ายคลิป) ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกกับช่องแปด บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนนั้นรู้สึกเครียดและกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกคนรอบข้างมองว่าเป็นคนหลอกลวงและร่วมสร้างคอนเทนต์กับนางเปรมมณี แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย ตนเพียงแค่อยากเข้าไปแสดงความยินดีกับผู้ที่ถูกรางวัลใหญ่ ไม่นึกว่าเรื่องจะกลับกลายเป็นกระแสด้านลบ 2-3 วันมานี้ตนนั้นกินข้าวได้น้อยจนซูบผอมลงไปเยอะ กลางค่ำกลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ เมื่อคืนก็นอนหลับไปตี 3 แล้ว แต่มาในวันนี้ที่ได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ตนก็รู้สึกสบายใจและโล่งใจขึ้นเพราะได้มายืนยันและแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นเบื้องต้นแล้ว