เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และทีมกู้ชีพจากโรงพยาบาลบางใหญ่ เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมี ผู้หมดสติในห้องน้ำ โดยมีเลือดออกจากปากจำนวนมาก เหตุเกิดภายในห้องน้ำของศูนย์อาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองถนน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จึงเร่งเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบ ชายไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้น นอนหมดสติไม่มีชีพจร อยู่ภายในห้องน้ำชาย โดยทราบชื่อภายหลังคือ นายณธายุ อายุ 19 ปี ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมกู้ชีพนำตัวออกมาปั๊มหัวใจ บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ นานกว่า 30 นาทีไม่เป็นผล นายณธายุ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันมีพลเมืองดีได้ บันทึกคลิปวิดีโอเอาไว้ในขณะที่เข้าไปพบตัวนายณธายุ ที่นอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ สภาพหายใจรวยรินก่อนที่กู้ภัยจะมาถึง

ล่าสุด (27 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นห้องน้ำที่แยกออกมาจากตัวอาคาร พร้อมกับมีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว พร้อมได้พูดคุยกับ นายเบนซ์ อายุ 31 ปี พี่ชายต่างแม่ที่เลี้ยงดูผู้ตายมาตั้งแต่เด็ก เผยว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นน้อง ตนทราบข่าวตอน 6 โมง มีคนมาตามให้ไปดูร่างน้องก็ค่อนข้างตกใจจากคำบอกเล่าของพ่อบอกน้องออกไปตั้งแต่ตี 3 ครึ่ง

ซึ่งเป็นปกติที่น้องจะออกไปหาเพื่อน ตนเคยถามเหมือนกันว่าไปไหนแต่น้องก็ไม่เคยบอก หรือบางทีหายไปนาน ๆ ตนก็ถามก็ไม่บอก เพิ่งมามีอาการโรคส่วนตัวสูงมาประมาณช่วงช่วง 18-19 ปี ซึ่งปกติเมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนเขามีอะไรจะเล่าให้ฟังตลอด ตนรักน้องมาก ไม่เคยทราบว่าเขาไปอยู่ที่ตลาด ตอนนี้ตนทำใจไม่ได้ไม่กล้าไปที่ห้องน้องเลย เพราะกลัวร้องไห้จนเสียใจ

ด้านสุขภาพหลัง ๆ มาน้องมีอาการไอแต่พอถามน้องก็จะไม่ตอบอะไร หรือบางทีจะพาไปหาหมอน้องก็จะไม่ไป และก็จะเงียบใส่ตนไม่เคยรู้ว่าน้องมีโรคประจำตัวเพราะไม่เคยไปตรวจ ส่วนเรื่องยาเสพติดกับสูบบุหรี่ ตนไม่แน่ใจในเรื่องของยาเสพติดแต่ถ้าสูบบุหรี่ตนเคยเห็น แต่ก็อาจจะมีบ้างตามเพื่อนฝูง น้องตนอยู่ ๆ ก็ไม่เรียน ให้เรียนก็ไม่เรียนเคยถามเหมือนกันว่าทำไมไม่เรียนแต่เขาก็ไม่ตอบอะไร เขาไม่ได้เป็นเด็กหัวรั้น แต่เป็นคนนิ่งเงียบ สำหรับในกรณีที่เผาเลยนั้นการตัดสินใจของทางผู้ใหญ่ เพราะไม่มีใครติดใจอะไรกัน แต่ไม่ได้ผ่านชันสูตร ซึ่งเดี๋ยวช่วงเย็น ๆ จะมีการเข้าไปเก็บกระดูกของน้อง สุดท้ายที่ตนอยากบอกน้องตนรักน้องมาก

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปยังวัดไผ่เหลือง เพื่อพูดคุยกับนายณรงค์ศักดิ์ อาย 48 ปี พ่อของผู้ตาย เผยว่า ตนทราบตอน 3 ทุ่ม มาที่เกิดเหตุ ไม่คิดว่าเป็นลูกชาย เพราะตอน 06.30 น. ยังมีทักขอเงินเติมโทรศัพท์กับตนอยู่เลย เขาเป็นคนเฉย ๆ นาน ๆ ทีจะเจอกันไม่ได้พูดคุยกันบ่อย แต่ไม่ติดใจอะไร แต่ตนไม่เคยทราบสุขภาพลูกเลย เพราะไม่ได้เป็นคนเลี้ยงมา เขาไม่เคยเล่าเลย ส่วนการตัดสินใจเผาศพลูกชายเลยนั้น ด้านพ่อเลี้ยงเขาจัดการ ช่วงเช้าตนไปเอาเอกสารและก็เอามาที่วัดและเผาเลย แต่ยังไงต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจ ก็เลยเผาเลย ตอนนี้ก็คิดถึงลูก รักลูกมาก