จากกรณีครอบครัวของผู้สูญหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลำพูน หลังนายฤชากร ใจสันติ หรือ “รองแบงค์” อายุ 43 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสันป่างยางหน่อม อ.เมือง หายตัวอย่างเป็นปริศนา เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567 โดยก่อนหายตัวนายฤชากร ขับรถเก๋ง สีบรอนซ์ ออกจากบ้านพัก ม.3 หมู่บ้านผาสุก ต.สันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เวลาที่ออกจากบ้านพักคือ 07.00 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน 2567 แต่งกายสวมกางเกง สแลคสีดำ สวมเสื้อสีชมพูหรือแดง เพื่อจะไปทำงานที่โรงเรียนสันป้ายางหน่อม อ.เมือง จ.ลำพูน แต่ไม่มีผู้ใดพบเห็นว่าได้มาที่โรงเรียนแต่อย่างใด






จนถึงขณะนี้เมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปไม่สามารถติดต่อได้ ทางครอบครัวจึงเดินทางมาแจ้งความพร้อมกับร้องสื่อให้ช่วยตามหา โดย “รองแบงค์” มีความเครียดในใจ หลังถูกครูอัตราจ้างเชิดเงินไปกว่า 1 แสนบาท ซึ่งต่อมาทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.สกลนคร ว่าไทม์ไลน์กรณี “รองแบงค์” หายตัวที่ จ.ลำพูน ใกล้เคียงกับกรณีพบศพชายปริศนาถูกฆ่าเผานั่งยางที่ จ.สกลนคร โดยศพที่สกลนครถูกเผาคืนวันที่ 20 มิ.ย. คนร้ายมาดูลาดเลาวันที่ 19 มิ.ย. ในขณะที่ รอง ผอ. แบงค์ หาย 16 มิ.ย. นอกจากนี้ยังพบว่า “หัวเข็มขัด” ที่พบในจุดพบศพเคสเผานั่งยาง มีลักษณะคล้ายกับเข็มขัดที่ “รองแบงค์” เคยใส่อีกด้วย นั้น




ล่าสุดวันนี้ 27 มิ.ย. 2567 ทางทีมสืบสวน สภ.ศรีวิชัย ได้ประชุมคืบหน้าคดีโดยออกประกาศบุคคลสูญหาย คือ ศพนินรนาม ที่ถูกเผานั่งยางดังกล่าว พร้อมกับภาพวัตถุสิ่งของต่าง ๆ ที่ตกอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ โดยวัตถุหลักฐานดังกล่าวอาจเป็นสิ่งของบ่งชี้ได้ว่าผู้เสียชีวิตคือใคร รายะละเอียดดังนี้


1. หัวเข็มขัดโลหะรูปทรงสี่เหลี่ยม
2. ตะกรุดแผ่นทองแดงปิดหัวท้าย ด้วยปลอกกระสุนปืน .357 จำนวน 2 ปลอก
3. พระยอดขุนพล หน้าเหมือนกันทั้ง 2 ด้าน ยาวประมาณ 5.5 ซม.
4. เหรียญครุฑ 5 บาท (ครุฑเฉียง) ปี 2522
5. เหรียญครุฑ 5 บาท (ครุฑเก้าเหลี่ยม) ปี 2515
6. กระดุมยีนส์
7. เหรียญระฆังเล็ก หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ครบรอบวันเกิด 2558 ยาวประมาณ 2 ซม.
8. กระดุมตาไก่
9. ห่วงทองเหลือง 2 ห่วงติดกัน




วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้แกะรอยภาพวงจรปิดเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ที่ทางทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดพิกัดสุดท้าย ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพ “รองแบงค์” ขับรถผ่านสี่แยกไฟแดงหนองเหียง มุมหน้าไป สภ.เหมืองจี้ โดยทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดเพิ่มช่วงเวลา 12.51 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน รถเก๋งของ “รองแบงค์” ขับผ่านหน้าเทศบาลเหมืองจี้ โดยมุ่งหน้าขับตรงไปเรื่อย ๆ เพื่อไปยังสี่แยกป่าห้า




และไม่กี่วินาทีต่อมา รถเก๋งของ “รองแบงค์” ถึงสี่แยกป่าห้า และเจ้าตัวตัดสินใจกลับรถเก๋งเพื่อมุ่งหน้าไปยังเส้นทางเดิมที่เพิ่งขับผ่านมาคือมุ่งไปเทศบาลเหมืองจี้ โดยบริเวณจุดนี้ไม่อนุญาตให้ยูเทิร์นแต่ “รองแบงค์” ยูเทิร์นในจุดที่ห้ามกลับรถ แต่ปรากฏว่าช่วง 13.03 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน รถเก๋ง “รองแบงค์” เลี้ยวซ้ายเข้านิคมอุตสาหกรรมในเครือสหพัฒน์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567




วันนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่บ้านพักของพ่อแม่ “รองแบงค์” ใน ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางอนงค์ แม่ของรองแบงค์ บอกว่า ตอนนี้จิตใจตอนดีขึ้นเนื่องจากตนพึ่งทุกทางไม่ว่าจะเป็นทั้งตำรวจ ช่อง 8 รวมถึงด้านไสยศาสตร์ โดยตนและสามีไปหาหมอดูเพื่อหวังมีกำลังใจซึ่งหมอดูประมาณ 4-5 เจ้า บอกตรงกันว่า “ลูกของตนยังมีชีวิตเพราะดวงแข็ง” แต่พอถามว่าลูกของตนอยู่ที่ไหนกลับเงียบไม่ตอบ


ตอนนี้ตนยังเชื่อว่าลูกตนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตนขอบคุณทั้งตำรวจและขอบคุณทางช่อง 8 ที่แกะรอยรถของลูกชาย โดยค้นหาตามกล้องวงจรปิดที่มีในมุมต่าง ๆ ใน จ.ลำพูน ซึ่งดีใจมากหลังจากช่อง 8 บอกว่าตอนนี้เจอรถเก๋งของลูกชายเลี้ยวไปในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายช่วยกันตามหายังไงก็ต้องเจอ “รองแบงค์” ในที่สุด




และขอยืนยันว่าในส่วนหลักฐานต่าง ๆ ที่พบในจุดเผานั่งยางศพที่ จ.สกลนคร ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่องหรือหัวเข็มขัดไม่ใช่ของ “รองแบงค์” ลูกชายตน เนื่องจากลูกชายตนไม่เคยใส่เครื่องประดับหรือมีการห้อยพระติดตัว เพราะลูกชายไม่ชอบ ชอบสวมเพียงเสื้อผ้าและไม่มีเครื่องประดับตกแต่ง แล้วในส่วนหัวเข็มขัดก็ไม่ใช่ทรงและลักษณะที่ลูกชายตนเคยใช้ เนื่องจากหัวเข็มขัดลูกสะใภ้เป็นคนซื้อให้ลูกชายตน แล้วลูกชายก็จะใส่อยู่เป็นประจำทั้งตนเองและลูกสะใภ้จึงยืนยันได้ว่าหลักฐานทั้งหมดที่พบในจุดเผานั่งยางจังหวัดสกลนคร ไม่ใช่ของลูกชาย


จิตใจคนเป็นแม่และคนที่เป็นเมียของลูกชายก็ค่อนข้างสภาพย่ำแย่ ในส่วนของเมียลูกชายตอนนี้ถือเป็นแม่ลูกอ่อนเพราะคลอดลูกชายอายุเพียง 4 เดือนเท่านั้น ตนเองก็เป็นห่วงว่าอารมณ์ของลูกสะใภ้กลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเป็นห่วงสามี และในส่วนตนที่เป็นแม่อยากบอกเพียงว่า หากลูกชายฟังเสียงตนอยู่อยากให้รีบมาแสดงตัว และอยากให้รีบมาหาพ่อแม่ เพราะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เลี้ยงลูกชายมาตั้งแต่เด็ก ที่เจ้าตัวปิดเครื่องโทรศัพท์และไม่ติดต่อพ่อแม่มาเลย อยากให้กลับมาหาและอยากให้รู้ว่าทุกคนเป็นห่วง ส่วนประเด็นขัดแย้งอื่น ๆ ยืนยันว่าลูกชายไม่มีความขัดแย้งเพราะไม่เล่นการพนัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่เจ้าชู้ ไม่มีปมขัดแย้งอะไรเลยที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับต้องอุ้มไปก่อเหตุ

 

11 วัน ไร้ร่องรอย "รองแบงค์" ครอบครัวชี้ศพเผานั่งยางใช่รอง ผอ. หรือไม่?