จากกรณี นายประสิทธิโชค อายุ 49 ปี สามีโหดได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางกิตตินันท์ หรือ ขวัญ อายุ 54 ปี ผู้เป็นภรรยา ด้วยวิธีใช้สายเตารีดมัดมือทั้ง 2 ข้าง จากนั้นใช้เตารีดและขวดเหล้าทุบตีที่ใบหน้านางกิตตินันท์จนเสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในบ้านพัก ซอยเจ๊แดงบางควาย ถ.คลองเทียน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อ 23.30 น. คืนที่ผ่านมา (26 มิ.ย.)


ล่าสุดวันนี้ (27 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้คลิปนาทีเจ้าของบ้านและตำรวจได้เดินทางมาเรียกผู้ตายที่หน้าบ้าน แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมา ต่อมาคลิป 2 จะเห็นว่า หลังจากเรียกคนในบ้านอยู่นานแต่ไม่มีใครตอบกลับ เจ้าของบ้านจึงตัดสินใจให้ช่วยกันเอาขวานและชะแลงงัดกุญแจที่ล็อกหน้าบ้าน เข้าไปตรวจสอบด้านใน




จากนั้นคลิป 3 หลังจากงัดกุญแจเข้าไปด้านในได้แล้ว จะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนบ้านได้เข้าไปตรวจสอบในบ้านพัก และพบว่า นางกิตตินันท์ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องครัว จากนั้นชาวบ้านได้ตะโกนบอกคนที่อยู่หน้าบ้านว่า “ตายแล้ว ๆ ขวัญมันตายแล้ว ถูกทุบหัวเละเลย ถึงว่าเรียกไม่มีใครตอบเลย” ตอนนั้นทุกคนต่างตกใจทำอะไรไม่ถูก และสุดท้ายจะเห็นว่า นายประสิทธิโชค ได้นั่งแก้ผ้าอยู่ในบ้าน โดยมีเสียงสาปแช่งของชาวบ้านด่าเข้าไปด้านในเป็นระยะ ๆ




ทั้งนี้ หลังจากนายประสิทธิ์โชคผู้ก่อเหตุ ถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชะอำ จับกุมตัวได้ที่บ้านพักเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้นำตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก โดยระหว่างคุมตัวมาสอบปากคำ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ได้ซักถามสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุ เจ้าตัวได้รับสารภาพว่า ได้ลงมือทุบทำร้ายเมียจนตายจริง และยอมรับว่า ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ




ขณะเดียวกับผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า สาเหตุที่ฆ่าเมียตัวเองเพราะอะไร เจ้าตัวอ้างว่า ผู้ตายพยายามจะมีชายคนอื่น และได้ไล่ตนเองออกจากบ้าน เพราะจะเอาผู้ชายคนใหม่เข้ามาแทน ด้วยความเมาประกอบกับอารมณ์หึงหวง จึงได้ใช้ขวดเบียร์ที่อยู่ในบ้าน ฟาดไปที่ใบหน้าจนขวดเบียร์แตกละเอียดจำนวน 4 ขวด หลังจากนั้นเมื่อเห็นว่าเมียยังไม่ตาย จึงได้ใช้เตารีดทุ่มใส่ใบหน้าผู้ตายอีก 1-2 ครั้ง ก่อนจะใช้สายไฟของเตารีดมัดมือทั้งสองข้างผู้ตายไว้ ไม่ให้หนีไปไหน อยากขอโทษผู้ตายด้วย




นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ บ่าย 2 โมงก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายขณะที่นางกิตตินันท์ แวะมาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน และมาช่วยเปิดร้าน ซึ่งจะเห็นว่าเจ้าตัวยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม และพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานอย่างสนุกสนาน ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสามีฆ่าเสียชีวิต




ล่าสุดทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางสงวน เจ้าของบ้านเช่า บอกกับทีมข่าวว่า นางกิตตินันท์ผู้ตายนั้นได้มาขอเช่าบ้านพักอยู่อาศัยกับตนเองเมื่อ 6 เดือนก่อน ช่วงแรกที่มาขอเช่าอยู่ นางกิตตินันท์ได้บอกว่าจะขอพักอยู่คนเดียวโดยพาลูกแมวจำนวน 4-5 ตัวมาอยู่ด้วย ตนเองเห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวและดูสู้ชีวิต จึงได้ให้เช่าอยู่ คิดค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมานางกิตตินันท์เป็นผู้เช่าที่ดีอยู่อย่างสงบเงียบ ไม่เคยมีปัญหา


กระทั่ง 1 เดือนที่แล้ว มีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกตนเองว่า นางกิตตินันท์ได้พาสามีซึ่งเพิ่งพ้นคุกมาได้ 2 เดือน เข้ามาอยู่ในบ้าน และตั้งแต่เข้ามาอยู่ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยมาก และสามีของนางกิตตินันท์มักจะเมาเหล้าและเดินแก้พามานอนบริเวณถนนหน้าบ้านจนชาวบ้านเอือมระอา




ตนเองทราบเรื่องจึงรีบไปคุยกับนางกิตตินันท์เพื่อตักเตือนว่า หากจะพาสามีมาอยู่ด้วยอย่ากินเหล้าแล้วทะเลาะกันเสียงดังโวยวาย เพราะจะรบกวนเพื่อนบ้าน นางกิตตินันท์ได้รับปากว่าจะปรับปรุง แต่จนสุดท้ายเมื่อคืนนี้ เพื่อนร่วมงานนางกิตตินันท์โทรศัพท์มาหาตนเองให้มาที่บ้านเช่าหน่อย เพราะติดต่อนางกิตตินันท์ไม่ได้ และเมื่อตนเองมาเรียกไม่มีเสียงตอบรับจากนางกิตตินันท์ พบเพียงนายประสิทธิโชคเมาเดินมาด่าตนเองให้กลับไปไม่ต้องมายุ่ง ตนเองจึงสั่งให้ตำรวจพังเข้าไปในบ้านจนไปพบว่า ผู้ตายกลายเป็นศพ


ตอนนี้ตนเองรู้สงสารผู้ตายมาก และรู้สึกเสียใจที่มีการมาฆ่ากันตายในบ้านเช่าของตนเอง ต่อไปนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะกล้ามาเช่าพัก รวมถึงตอนนี้แมวที่ผู้ตายเลี้ยงไว้จำนวน 5 ตัว ไม่มีบ้านอยู่แล้ว เพราะผู้ตายไม่อยู่แล้ว ตนเองจึงอยากประกาศตามหาบ้านให้แมวทั้ง 5 ตัว หากใครต้องการนำพวกมันไปเลี้ยงก็ติดต่อตนเองได้ ตนเองพร้อมยกให้ฟรี ๆ เพราะตนเองก็เลี้ยงไม่ไหวเหมือนกัน




ส่วนบรรยากาศที่วัดสิงห์ (วัดแกลบ) ครอบครัวได้นำศพผู้เสียชีวิตมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวศิรินยา อายุ 37 ปี ลูกสาวคนเล็ก ของผู้ตายเล่าให้ฟังว่า แม่และนายโชคผู้ก่อเหตุได้คบหากันมาเกือบ 5-6 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่คบกัน ตนเองไม่เคยเห็นด้วยกับแม่ที่เอาผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิต เพราะวัน ๆ นายโชคจะกินแต่เหล้าเมา และทำร้ายทุบตีแม่จนหน้าบวด ตาปูด ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่แม่ก็ยังรักและอดทนกับนายโชคมาตลอด


จนพักหลัง ตนเองบอกให้แม่เลิกยุ่งกับนายโชคเด็ดขาด หากไม่เลิกจะไม่ติดต่อมาหาแม่อีก แต่แม่ก็ไม่ยอมเลิกทำให้ช่วง 1-2 ปีนี้ ตนเองแทบไม่ได้มาหาแม่เลย กระทั่งนายโชคเมาแล้วขับทำให้ถูกจับเข้าคุกและเพิ่งพ้นคุกออกมาได้ 2 เดือน ก่อนจะมาขอแม่พักอาศัยอยู่บ้านเช่า แม่ก็ใจอ่อนอีก จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีคนโทรศัพท์มาบอกว่า แม่ถูกนายโชคตีจนตายแล้วตนเองจึงรีบมาดู ซึ่งตนเองคิดไว้อยู่แล้วว่าสักวันมันต้องทำกับแม่แบบนี้ อยากให้ตำรวจลงโทษนายโชคให้ถึงที่สุด

 

ผัวเดนคุก เตารีด-ขวดฟาดหัวเมีย มัดศพหมกห้องนอน