วันนี้ (28 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงติดตามเรื่องราวสุดอลเวงของ “ป้าเปรมมณี” ชาวตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่มียูทูบเบอร์ออกมาโพสต์ภาพและคลิปลงโลกโซเซียล อ้างว่า ป้าเปรมมณีถูกหวยรางวัลใหญ่ รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2565 จำนวน 15 ใบ 90 ล้านบาท แต่ยังขึ้นเงินรางวัลไม่ครบ กระทั่งมีการตรวจสอบพบภายหลัง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์พบข้อพิรุธไม่มีการขึ้นรางวัล อีกทั้งมีชาวบ้านออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นการสร้างกระแสไม่ได้ถูกจริง ถ้าถูกจริงทำไมไม่เอาเงินไปไถ่ถอนจำนองบ้านคืน แถมยังปล่อยให้บ้านทรุดโทรม และยังมีหมายจับคดีฟ้องขับไล่และละเมิดศาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น




ล่าสุด (28 มิ.ย. 2567) ป้าเปรมมณี พร้อม “บ่าวเบียร์ ธาตุพนม” หนึ่งในยูทูบเบอร์ที่ไปถ่ายคลิปทำคอนเทนต์หวยป้าเปรมมณี ได้ทางไปออกรายการโหนกระแส ที่ กทม. โดยในช่วงท้ายของรายการโหนกระแส หนุ่ม กรรชัย พิธีกร ได้ซักถามนางเปรมมณี ปรากฏว่านางเปรมมณี สารภาพอ้างว่าได้ซื้อลอตเตอรี่ชุด 5 ใบ จากคนต่างด้าวไม่มีบัตรประชาชนในราคา 50,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวรู้อยู่แล้วว่าเป็นลอตเตอรี่ปลอมไม่ถูกรางวัลแต่อย่างใด โดยลูกชายคนที่ 2 ชักชวนเพื่อนยูทูบเบอร์มาถ่ายทำคอนเทนต์ ตนเองก็เลยปล่อยเลยตามเลยไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลายเช่นนี้


ด้านบ่าวเบียร์ ยืนยันว่า ตัวเองไม่รู้มาก่อนว่า หวย 90 ล้าน เป็นหวยปลอม เรื่องนี้เกิดจากลูกชายป้าโพสต์ลงเฟสบุ๊ก ตัวเองโดนชวนให้ไปถ่ายคลิป ไปถึงบ้านก็ถ่ายเลย ไม่ได้ถามถึงที่มาที่ไป ตอนแรกก็เชื่อสนิทใจ เพราะเมื่อกดตรวจดูปรากฏว่าเลขตรงกับรางวัลที่ 1 จริง ถ้ารู้ว่าเป็นของปลอมจะไม่ถ่าย จะกลับบ้าน เรื่องราวที่เลยเถิดมาจนถึงตอนนี้ ยอมรับว่า รู้สึกไม่ดีเท่าไร เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิด อยากจะขอโทษสังคมที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อน




ขณะที่ นางน้ำบุญ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนางเปรมมณี บอกกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตนนั้นเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของนางเปรมมณี โดยที่มีพ่อมีแม่เป็นคนเดียวกัน แต่ที่นางเปรมมณีไปออกรายการโหนกระแสแล้วพูดเหมือนกับว่าตนไม่ใช่พี่สาว นางน้ำบุญก็บอกว่า “ช่างเขาเถอะ” พร้อมกับบอกว่าตนไม่ได้เสียใจกับคำพูดดังกล่าว ส่วนหลักฐานที่จะบอกได้ว่าตนกับนางเปรมมณีเป็นพี่น้องกันนั้น ตนก็ไม่มีหลักฐานอะไรเนื่องจากตนย้ายออกมาจากบ้านพ่อแม่ และย้ายออกมาอยู่กับสามีตั้งแต่อายุได้ 20 ปี ตนจึงไม่ได้นำเอกสารอะไรติดตัวมาด้วย แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตนก็ยังมองว่านางเปรมมณีเป็นน้องสาวเหมือนเดิม ส่วนน้องสาวจะโกรธตนหรือไม่นั้นก็ “ช่างเขาเถอะ”




ด้าน นายธนาวุฒิ อายุ 58 ปี เปิดเผยว่า ตนนั้นเป็นน้องชายของนางเปรมมณี ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ พ่อแม่เดียวกัน โดยนายธนาวุฒิยืนยันว่าตนเองไม่ทราบว่า บ้านของนางเปรมมณีและบ้านดั้งเดิมของพ่อแม่ (อยู่ในที่ดินผืนเดียวกัน) จะถูกจำนองอะไรอย่างไร เนื่องจากตนก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในตำบลน้ำก่ำนานแล้ว หลังจากที่ไปได้ภรรยาอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่ตนก็จะคอยแวะเวียนกลับมาที่บ้านดั้งเดิมของพ่อแม่อยู่บ้างบางคราว ในตอนที่ต้องออกหาปลา


นายธนาวุฒิ บอกว่า เท่าที่ตนเคยรู้จักพี่สาวของตัวเอง ตนก็มองว่าพี่สาวก็เป็นคนดีคนหนึ่ง แต่หลังจากที่พี่สาวออกไปมีครอบครัวใหม่ ตนก็ไม่เคยรู้เลยว่าพี่สาวนิสัยใจคอเป็นอย่างไรและใช้ชีวิตอยู่ในแต่ละวันเป็นยังไงบ้าง ส่วนเรื่องที่นางเปรมมณีมีสามีร่ำรวยมีธุรกิจพันล้าน ตนก็ขอยืนยันว่าไม่เคยทราบและไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลำพังเอาชีวิตตัวเองให้รอดในแต่ละวันก็ยากแล้ว จึงไม่อยากจะนำเรื่องของคนอื่นมาใส่ใจมากนัก แต่ในส่วนที่นางเปรมมณีเคยเป็นร่างทรง นายธนาวุฒิก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เพราะนางเปรมมณีก็เป็นคนบอกเองว่าตนนั้นเป็นร่างทรงของเทพซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเทพอะไร ลักษณะก็มีการสั่น ๆ แล้วก็พูดจาเป็นเสียงคนอื่น


ส่วนประเด็นเรื่องลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท ตนก็ขอยืนยันเหมือนเดิมว่าตนไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน และเพิ่งจะเคยได้ยินจากข่าวว่าพี่สาวถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านบาท ในตอนแรกตนก็รู้สึกยินดีไปกับพี่สาว แต่มาตอนนี้ก็รู้สึกเห็นใจเพราะมีทั้งกระแสในด้านบวกและด้านลบโจมตีเข้าหานางเปรมมณี




ล่าสุดในเวลา 20.15 น. ที่ผ่านมา ทางด้านของ 3 ยูทูบเบอร์ ได้แก่ นายสุริยัน, นายหนึ่ง, นายทรงวุฒิ ก็ได้ออกมาขอโทษสังคมพร้อมกัน โดยมีการลุกขึ้นกล่าวขอโทษสังคมที่ได้นำคลิปลงไปเผยแพร่โดยที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบคอบ จนบานปลายการเป็นเรื่องใหญ่โต พวกตนก็อยากขอโทษสังคมไว้ ณ ที่นี้


ต่อมา “บ่าวเบียร์ ธาตุพนม” หรือ นายสุริยัน ก็ได้เป็นตัวแทนในการชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด โดยพวกตนนั้นขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างคอนเทนต์ เพียงแค่ต้องการจะเข้าไปแสดงความยินดีกับแม่ของเพื่อนก็เท่านั้น ตนเพียงแค่อยากไปสัมผัสและอยากไปเห็นกับตาว่าลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 นั้นเป็นอย่างไร ในวันที่ได้ถ่ายคลิปตนขอยืนยันว่านางเปรมมณีไม่ได้เอ่ยปากห้าม เพราะถ้าหากนางเปรมมณีห้ามตนก็คงไม่ทำ และถ้ารู้ว่าเป็นลอตเตอรี่ปลอมตนก็คงจะไม่นำไปลงโซเชียลแน่นอน


เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ หลังจากนี้หากตนจะเผยแพร่คลิปหรือนำข้อมูลลงโซเชียล ตนก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง แต่ยืนยันว่าตอนนี้มีการเคลียร์ใจกับนางเปรมมณีแล้ว ทุกอย่างไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ตนดีใจด้วยซ้ำที่นางเปรมมณียอมออกมาชี้แจงและพูดความจริงกับสังคม สุดท้ายนี้ก็อยากเตือนคนที่ใช้โซเชียลว่าให้ควรระมัดระวังและมีสติก่อนที่จะโพสต์หรือลงอะไรไปในโซเชียล




ขณะที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เผยถึงเรื่องนี้ว่า วันนี้จะมาวิเคราะห์กรณีที่มีผู้หญิงคนนึงอ้างว่าตัวเอง ถูกหวย 90 ล้าน และยังขึ้นเงินไม่หมด ซึ่งเรื่องนี้แพร่ไปก็มีคนหลงเชื่อมียูทูบเบอร์มีอะไรต่าง ๆ มาทำคอนเทนต์จนมีคนเข้าไปดูจำนวนมาก ซึ่งมีประชาชนทั่วไปมาถามว่าการกระทำแบบนี้ถือว่ามีความผิดไหม


ทนายเดชา บอกว่า จากการที่ดูแล้วการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถือว่ามีความผิด แต่ต้องเป็นลักษณะทุจริตหรือความหลอกลวงและมีคนเสียหายหรือไม่ แต่เรื่องนี้ต้องมาดูว่ามีใครได้รับเสียหายจากเรื่องนี้บ้างไหม สมมติว่ามีชาวบ้านคนไหนเสียเงินไปกับเรื่องนี้ ก็สามารถที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีได้ แต่ถ้าไม่มีใครเสียหาย เรื่องนี้ก็เป็นเพียงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้กระทำเท่านั้น เป็นการหลอกลวงประชาชนเพิ่มยอดวิวยอดไลก์ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแค่ผิดศีลธรรมอันดีเท่านั้น


เพราะตามกฎหมายคอมพิวเตอร์มาตรา 20 เป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สามารถไปยื่นคำ ต่อศาลได้ให้ทำการปิดช่อง YouTube หรือ Facebook ได้ซึ่งก็เป็นขั้นเป็นตอนตามกฏหมาย เพราะฉะนั้นอะไรก็แล้วแต่ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงอย่ามาโกหกหรือแหกตาประชาชนดีไม่ดีเดี๋ยวจะติดคุกด้วยเตือนด้วยความหวังดีจะหายเดชา




ด้าน พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก. สภ.ธาตุพนม เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวมีบุคคลอ้างว่า ถูกหวยรางวัลใหญ่ รวม 90 ล้านบาท แต่สุดท้ายออกมายืนยันว่าไม่จริง ถือว่า เข้าข่ายความผิด การนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมถึงยูทูบเบอร์ที่มีการนำข้อมูลมาเสนอตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เบื้องต้น ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิด จึงยังไม่สามารถดำเนินคดีได้


รวมถึงการสำเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จ มาเผยแพร่จะต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ นอกจากนี้ในส่วนคดีค้างเก่า เป็นสาเหตุมาจากคดีแพ่ง ถูกธนาคารยึดบ้านที่นำไปจำนอง และมีการฟ้องร้องขับไล่ที่แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง ละไม่ยอมไปตามคำนัดของศาล จึงมีการออกหมายจับนำส่งศาล โดยจะได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน ติดตามนำตัวส่งศาล จ.นครพนม ตามคำสั่งดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป หากมีใครที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ สามารถมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย




นอกจากนี้ทีมข่าวได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ในช่องยูทูบหนึ่ง ซึ่งเป็นช่องของป้าเปรมมณี พบว่ามีหมอปลาโผล่ไปที่พิพิธภัณฑ์ของป้าเปรมมณี นอกจากนี้ยังพบว่าป้าเปรมมณีมีการพูดถึงการเลือกซื้อลอตเตอรี่อีกด้วย ในคลิปจะเห็นว่า มีหมอปลา และน้ำฟ้า ภรรยา รวมถึง แพรรี่ ไพรวัลย์ (ขณะนั้นยังเป็นพระอยู่) มาเยี่ยมชนพิพิธภัณฑ์ของป้าเปรมมณี วันที่ 26 มีนาคม 2564 โดยป้าเปรมณให้การต้อนรับ และอธิบายว่าตนเคยถวายสมเด็จ องค์ 10 ล้าน มา 5 องค์แล้ว เพื่อไปสร้างวัด นอกจากนี้ยังช่วยเหลือคนจนด้วยการนำของไปบริจาค พร้อมข้อความระบุว่า หมอปลามาเยี่ยมชมบ้านพี่เปรม


ล่าสุด หมอปลา เปิดเผยว่า จากที่ตนเคยสัมผัสกับพี่เปรมมณี ตนเองมองว่าเป็นคนดี ไม่มีพิษภัยกับใคร ก่อนหน้านี้เคยทำพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับพระเครื่องพระสมเด็จ หรือพระเหรียญต่าง ๆ จุดเริ่มต้นที่เป็นข่าวตนก็ถามเปรมมณีว่า ไปรู้จักยูทูบเบอร์คนนี้ได้ยังไง เปรมมณีก็บอกว่า ลูกชายเป็นคนพามา รู้จักได้ 1 วัน คือลูกชายมีปัญหากับครอบครัวได้ 20 วัน แล้วมาอยู่กับคณเปรมมณี ถามว่าสนิทกับลูกชายมั้ย ต้องฟังจากปากแกเอง




ส่วนหวย 90 ล้าน ถูกจริงไหมก็ต้องฟังจากปากแกเอง หมอปลายังถามอีกว่า ยูทูบเบอร์คนนี้เคยตามติดชีวิตคนดังคนหนึ่งที่เคยเป็นข่าวโด่งดัง ก่อนหน้านี้คุณเปรมมณีก็บอกว่าจำไม่ได้ ตนเองเลยบอกไปว่าจะพูดอะไรก็ต้องพูดความจริง พรุ่งนี้จะมาพูดความจริงทั้งหมดในรายการโหนกระแส และที่บางสำนักข่าวลงว่า เจอที่ไหนจับที่นั่น แกไม่ได้มีหมายจับ และพี่เปรมมณีจะปรึกษาทนายไพศาล ว่าจะเอายังไง เพราะเป็นการนำเสนอข่าวที่ไม่ใช่เรื่องจริงต้องให้เกียรติแกด้วย พรุ่งนี้จะเปิดใจทั้งหมด




ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ป้าเปรมมณี เคยมาเปิดสำนักงานกฎหมาย และตำหนักร่างทรง อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ จนกระทั่งไปพบตึกอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ด้านหน้าตึกมีป้ายไวนิล เขียนคำว่าสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง โดยสภาพตึกอาคารพาณิชย์ถูกปล่อยร้าง น้ำไฟถูกตัด แต่พบว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณด้านหน้าตึก ซึ่งชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ยืนยันว่ามีคนพักอาศัยอาศัยอยู่ ผู้สื่อข่าวพยายามสำรวจรอบ ๆ บริเวณ ก็ไม่พบว่ามีใครเดินออกมาจากตึก




นางนิ (นามสมมติ) อายุ 64 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พอจะทราบข่าว เรื่องหวย 90 ล้าน เมื่อเห็นผู้หญิงที่ปรากฏในคนข่าว ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน คือ ป้าเปรมมณี โดยเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ป้าเปรมมณี พร้อมกับลูกชาย ได้มาเปิดสำนักงานกฎหมาย แต่ผ่านไปประมาณ 2-3 ปี ปรากฏว่า ป้าเปรมมณีได้หายตัวไป จากนั้นก็มีผู้คนจากหลากหลายสถานที่ คาดว่าจะเป็นลูกศิษย์ลูกหาของป้าเปรมมณี ทั้งในจังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง มารวมตัวกันหลาย 10 คน มาดักรอที่หน้าตึกเพื่อมาทวงหนี้ แต่ป้าเปรมมณีได้หายตัวไปแล้ว จนกระทั่งมาพบว่าปรากฏถูกหวย 90 ล้าน


ระหว่างที่ ป้าเปรมมณี มาอาศัยอยู่ เคยได้พูดคุยกันไม่กี่ครั้ง โดยเจ้าตัวจะมาซื้อข้าวกินประจำ ทุกครั้งที่มาชอบพูดจาโอ้อวด ว่าเป็นคนมีเงินมีทอง เคยมีแฟนทำธุรกิจเกี่ยวกับบ่อน้ำมัน แต่ตนเองก็ไม่สนใจอะไร ส่วนเรื่องที่มีการเปิดตำหนักร่างทรง ก็เพิ่งจะมาทราบภายหลัง ว่าบริเวณชั้น 2 มีการเปิดเป็นตำหนักร่างทรง และรับดูดวง ไม่แน่ใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวง หรือต้มตุ๋นหรือไม่ แต่รู้เพียงว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก มาเฝ้ารอดักทวงหนี้ แม้กระทั่งแม่ค้าขายยาคู ก็ถูกหลอกไปเช่นกัน ส่วนในเรื่องที่เป็นข่าวว่าถูกหวย 90 ล้าน ในความคิดเห็นตัว เชื่อว่าไม่เป็นความจริง หากถูกหวยจริงก็ต้องรีบไปขึ้นเงิน คงไม่ปล่อยผ่านมานานถึง 2 ปี




นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายเนิน (นามสมมติ) อายุ 69 ปี ซึ่งเคยถูกป้าเปรมมณี ยืมเงินไปจำนวน 10,000 บาท และไม่ได้คืน เมื่อหลาย 10 ปีก่อน โดยเล่าให้ฟังว่า รู้จักกับป้าเปรมมณี ฐานะเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง และมาเปิดสำนักงานกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่กล้าให้ยืมเงินไป เพราะป้าเปรมมณี ชอบเล่าให้ฟังว่าสนิทสนมกับภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง และนักการเมืองดัง ๆ หลายคน ด้วยความเชื่อใจจึงให้ยืมเงินไป ก่อนที่ป้าเปรมมณีจะหายตัวไปพร้อมกับลูกชาย พร้อมทั้งฝากบอกว่า หากถูกหวย 90 ล้านจริง ก็ขอให้นำเงินมาคืน

 

"เปรมมณี" ลวงโลก! หวย 90 ล้านไม่มีจริง