จากกรณีที่เด็กหญิง อลิส วัย 3 ขวบ หายไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนพบจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำกลางทุ่งนา ระยะห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปประมาณ 800 เมตร เมื่อเวลา 12.40 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 67 ซึ่งพ่อแม่ยัน ไม่ปักใจเชื่อลูกตนเองเดินไปยังจุดเกิดเหตุ


ล่าสุดวันนี้ (28 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ในพื้นที่ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ โดยวันนี้ทีมข่าวได้หลักฐานใหม่เป็นภาพวงจรปิดจากบ้านของผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ซึ่งห่างจากศูนย์ 100 เมตร และห่างจากจุดพบศพน้องอลิส 500 เมตร พร้อมไทม์ไลน์เวลาในวันที่ 14 มิ.ย. 2567 ตั้งแต่ก่อนเด็กหายจนกระทั่งหายตัวไป เกิดอะไรขึ้นบ้าง




เริ่มจาก ก่อนน้องอลิสหายไป 1. (10.53 น.) คนเลี้ยงวัวเดินผ่านมาจากศูนย์ 2. (11.08 น.) มีผู้หญิงขี่รถเวฟน้ำเงินไปทางศูนย์ 3. (11.14 น.) มีคนใส่หมวกเดินเลาะริมกล้องมาบ้านผู้ใหญ่บ้าน 4. (11.15 น.) รถกระบะมีคอก เลี้ยวไปทางศูนย์
5. (11.30 น.) รถกระบะคอกย้อนกลับมา มีของเติมท้ายรถ 6. (11.32 น.) ผู้หญิงขี่รถเวฟน้ำเงินไปทางศูนย์ 7. (11.40 น.) ผู้ชายขี่รถพ่วงข้างออกมาจากทางศูนย์ 8. (11.40 น.) ผู้หญิง 2 คนใส่เสื้อสีแดงกับสีม่วง ขี่รถพ่วงข้างออกมาจากทางศูนย์


กระทั่งเฟรมที่ 9. (11.54 น.) ได้ยินเสียงเด็กดังมาจากศูนย์ ได้ยินเสียงเด็กเรียกคล้ายชื่อ "อลิส" แต่ได้ยินไม่ชัดเท่าไร ตามด้วยเสียงชาวบ้านคุยกัน 10. (12.01 น.) ผู้หญิงเสื้อชมพู ลงจากรถผู้ใหญ่บ้าน เดินมาหน้าบ้านและเดินไปทางศูนย์ 11. (19.31) มีผู้ชายเสื้อฟ้า ขี่เวฟสีแดง เหมือนไปพ่นยาที่ทุ่งนา ขี่ผ่านไปทางศูนย์ หลังจากนั้นเฟรมที่ 17 (12.17 น.) ชายเสื้อน้ำเงินขี่เวฟแดง ไปทางศูนย์ และเฟรมที่ 20. (12.21 น.) ผู้หญิงเสื้อเหลือง ขี่รถย้อนกลับมามีคนแก่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย




กระทั่งเฟรมที่ 23. (12.25 น.) ผู้ใหญ่บ้านพูดถึงเรื่องอะไรสักอย่าง และมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “ไม่ใช่ครูเอาไปเหรอ” และหลังพูดจบ ผู้ใหญ่บ้านเดินไปทางศูนย์ 24. (12.27 น.) เสียงคุยกันจับใจความไม่ชัด มีบางคำคล้ายหลุดชื่อครูขึ้นมา 26. (12.28 น.) คนในบ้านผู้ใหญ่พูดอะไรกันไม่รู้ จับใจความคล้ายหลุดพูดชื่อครูออกมาอีกครั้ง




ต่อมาเป็นช่วงหลังน้องอลิสหายตัวไป เริ่มจากเฟรมที่ 30. (12.45 น.) ป้านิ่ม แม่ครัวของศูนย์เด็ก ขี่รถมาบอกผู้ใหญ่บ้าน ป้านิ่ม ตะโกนย้ำ ครูพาไปเล่นใกล้คลองแต่ไม่เห็น ผู้ใหญ่บ้านพูดว่าครูพาไปเล่นใกล้คลองทำไมไม่เห็น และมีชาวบ้านพูดว่าเด็กมันออกมาทำไมครูถึงไม่รู้ ตอนเอาเข้าไปนอน เด็กมันเข้าไปนอนไม่หมด 31. (12.46 น.) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เดินออกมาส่องดูมองดูไปตรงต้นตาล แสดงว่าต้องเด็กพวกครูเดินเข้าไปตรงนั้น ผู้หญิงที่ยืนอยู่กับผู้ช่วย ชี้ไปตรงต้นตาล บอกว่าไม่ใช่มันเดินไปตรงนั้นเหรอ จากนั้นทุกคนที่ออกมาตรงถนน มองไปทางต้นตาลทุกคน ผู้หญิงกับผู้ช่วยเดินลงไปตรงทุ่งนา โดยพูดว่าจมน้ำแน่ ๆ



ต่อมา ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางยุพิน ถึงประเด็นเอ่ยในคลิปวงจรปิด “คุณครูพามาเล่นใต้คลอง” เปิดเผยว่า ตนคุยกันกับกลุ่มชาวบ้านภายในกลุ่ม ว่าน่าจะเป็นลักษณะ ครูพาไปเดินเล่นใกล้คลอง แล้วนำเด็กนักเรียนขึ้นไปไม่หมดหรือเด็กน้อยเดินไป หลังจากนั้นแม่ครัวก็ไปตามหาที่นา ซึ่งขณะนั้นตนพอทราบแล้ว เพราะเห็นยายแหลมไปตามหาที่นา หลังจากนั้นพอดีย่าของน้องอลิสขับรถมอเตอร์ไซต์มา ถามว่าเห็นรึยัง ตนจึงบอกไปว่าน่าจะเห็นแล้ว เห็นคนยืนอยู่สระน้ำเยอะ ๆ




จากนั้นทีมข่าวจึงถามย้ำว่าแล้วก่อนหน้านี้ก่อนที่ย่าจะมา แม่ยุพินทราบได้อย่างไร เผยว่า แม่ใหญ่ที่อยู่แถวนั้นเค้าพูดกันว่า ครูพาเด็กไปเล่นใต้น้ำหรอ โดยตนก็เพิ่งมาจากล่ามวัว ตนกำลังจะทานข้าว ซึ่งก่อนที่ตนจะกล่าวนั้นเห็นชาวบ้านวิ่งลงไปที่สระน้ำแล้ว โดยตนไม่ได้มีเจตนาเจาะจงแค่สงสัยว่าครูพามาเล่นน้ำแถวนี้ แล้วน่าจะพลัดหลงเลยตกน้ำ


ด้านนายสัตติญา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 เผยว่า ประมาณเวลา 12.44 น. ป้านิ่ม ได้มาแจ้งตนมีเด็กหาย จากนั้นตนจึงได้สอบถามว่าเป็นลูกหลานของใคร ป้านิ่มเลยแจ้งว่าเป็นหลานของผู้ช่วยทิพย์ ตนจึงกล่าวว่าทำไมถึงไม่แจ้งผู้ปกครองของน้อง ซึ่งป้านิ่มยืนยันว่าไม่มีเบอร์ติดต่อ ตนจึงได้ประสานโทรแจ้งไปยังผู้ปกครอง ช่วงเวลา 12.47 น. จากนั้นตนจึงแจ้งกับผู้ช่วยทิพย์ว่า “หลานได้กลับบ้านหรือไม่ ตอนนี้ไม่เห็นหลาน” ย่าทิพย์จึงตอบกลับมาว่าไม่เห็น ตนจึงรีบกล่าวว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่เห็นหลานจึงอยากให้มาช่วยกันออกตามหา ขณะเดียวกันที่บ้านของตนกำลังมีชาวบ้านกำลังลงทะเบียนเกษตร ซึ่งตอนนั้นก็จำไม่ค่อยได้ อยู่ประมาณ 5-6 คน และมีท่าทีแตกตื่น มีนายประมวล นางอภิฤดี โดยชาวบ้านก็ตกใจเนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้


อีกทั้งในวัน เกิดเหตุขณะที่ป้านิ่มมาบอกตนยังไม่ทราบว่าน้องอลิซตกน้ำ และชาวบ้านก็ยังไม่ทราบ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าในคลิปของผู้ใหญ่บ้าน จับวินาทีขณะที่โทรคุยกับย่าทองทิพย์ ได้มีเสียงชาวบ้านดังขึ้นมาว่า “ครูพาเด็กไปเล่นใกล้น้ำ” คือใคร รู้ได้อย่างไรนั้น ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเผยว่า น้ำคือของที่คู่กับเด็ก โดยขณะนั้นฝนเพิ่งตก ตนจึงนึกถึงแต่บริเวณรอบ ๆ ที่มีน้ำในสระ และจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูด โดยทีมข่าวก็พยายามเปิดคลิปเสียงให้ผู้ใหญ่บ้านฟังว่าเป็นเสียงใคร ต่อมาผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า คาดว่าทุกคนคงตกใจ และทุกคนคงคิดเช่นเดียวกันเด็กต้องคู่กับน้ำ จึงอุทานออกไป ไม่มีใครเห็นว่าเด็กไปเล่นน้ำที่ไหน


ขณะเดียวกันตนทราบว่าน้องอลิสตกน้ำ ขณะที่วิ่งไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ กำลังจะออกตามหาด้านทิศตะวันตกของสระ คิดว่าน่าจะไปบริเวณสระน้ำหน้าวัด แต่เห็นครูปูเป้วิ่งขึ้นมาบอกว่าเจอน้องแล้ว จึงวิ่งลงไปดูในนา ซึ่งตนได้มองไปทางสระน้ำกลางนา แต่ก็ไม่เห็นใคร เห็นเพียงแค่ครูปูเป้ตะโกนมา


จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามจำได้หรือไม่ครูปูเป้ใส่ชุดสีอะไร ผู้ใหญ่บ้านเผยจำไม่ได้ และส่วนตัวมองว่า ในวันเกิดเหตุ ก่อนที่จะรู้ว่าน้องตกน้ำกลางนา ต้นคิดว่าอาจจะไปเล่นบริเวณสระน้ำหน้าวัด เพราะออกไปง่ายกว่า แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเด็กไปเล่นตรงสระน้ำบริเวณหน้าวัด อาจจะมีเด็กบางคนเคยเดินออกไปบ้าง โดยความคิดเห็นส่วนตนคิดว่า เด็กที่ใกล้ชิดครูอาจจะดูแลง่าย ส่วนเด็กที่เป็นเด็กใหม่ อาจจะควบคุมได้ยาก และขอยืนยันว่าไม่มีใครเห็นว่าเด็กไปเล่นน้ำตรงไหน เป็นเพียงการสันนิษฐานของชาวบ้าน




ส่วนผู้ชายเสื้อสีฟ้าขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง ที่ขี่ผ่านไปทางศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตามภาพในวงจรปิด ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวไปเจอชายเสื้อฟ้าคนดังกล่าว ก็คือนายสุนทร อายุ 60 ปี เปิดเผยว่า วันเวลาดังกล่าวตนเองขี่รถนำถังพ่นยาไปไว้ที่สวน ซึ่งสวนของตนเองอยู่ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หลายกิโลเมตร และเส้นทางเข้าสวนต้องขี่รถผ่านด้านหลังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก แต่ยืนยันทั้งขาไปขากลับ ไม่เห็นครูหรือเด็กอยู่ตรงถนนในช่วงที่ขี่รถผ่าน และก่อนหน้านี้ที่ขี่รถผ่านก็ไม่เคยเห็นครูหรือเด็กออกมาเดินบนถนนด้านหลังศูนย์พัฒนา


ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องที่ช่อง 8 ได้เบาะแสใหม่มาว่า น้องแก้ม (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ 7 เดือน เด็กรุ่นเดียวกับน้องอลิส มีการไปทำท่าทางให้ย่าดูว่า วันเกิดเหตุเห็นน้องลอิส หัวจุ่มน้ำและมีการเดินไปรับที่นอน กระทั่งเห็นอลิส นอนสำลักอยู่บนที่นอน ทีมข่าวจึงสอบถามแม่ของน้องแก้ม ซึ่งบอกว่า ที่ไม่ออกมาบอกเรื่องนี้เพราะไม่กล้า แต่วันนี้จำเป็นต้องพูดออกมาเพื่อให้คดีมันกระจ่าง


ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 มีการไปจำลองเหตุการณ์ตามเบาะแสของน้องแก้ม โดยมีการใช้กะละมังแทนอ่างน้ำ ซึ่งนักข่าวได้ก้มหัวไปจุ่มในกะละมัง สายหัว สายหัว ตามท่าทางที่น้องแก้ม ทำให้ย่าดู จากนั้นเมื่อจุ่มหัวลงไปแล้ว นักข่าวก็จะเดินไปรับที่นอนจากครูตามที่น้องแก้ม เล่าให้ย่าฟัง ซึ่งเมื่อรับที่นอนมาปูนอนแล้ว ก็ได้มีการนอนสำลักอยู่บนที่นอนตามที่น้องแก้มเล่าให้ย่าฟัง




ซึ่งการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าว ในขณะที่นักข่าวเอาหัวจุ่มลงไปในกะละมัง คำตอบคือ ตอนที่เอาหัวขึ้นมาจากกะละมัง มีการเดินเซเพราะเกิดจากการสำลักน้ำจริงๆตอนที่จำลองเหตุการณ์ แต่ยังตั้งหลังเดินจำลองเหตุการณ์ตอนที่ไปรับที่นอนมาปูนอน และก็มีการทำท่าทางให้ดูอีกว่า การนอนสำลังน้ำบนที่นอนเป็นยังไง


จากนั้นทีมข่าวได้คลิปเป็นช่วงที่ถามเด็กในศูนย์ โดยถามไปว่า ครูคนไหนพาเข้าห้องน้ำ ครูคนไหนใจดีหรือไม่ใจดี ซึ่งเด็กตอบมาว่า "ครูหนุ่ยกับครูเป้" ส่วนครูน้อย ครูเป้ ใจดี จากนั้นทีมข่าวถามว่าครูไหนชอบตี ซึ่งเด็กตอบว่า "ไม่ตอบด้วย"


ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ในพื้นที่ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ โดยเช้าวันนี้ ทางครูหนุ่ย ครูน้อย ได้มีการให้ทีมข่าวช่อง 8 ไปติดตามภารกิจของครูซึ่งมีการไปแจกนม ให้กับเด็กนักเรียนทั่วหมู่บ้านทั้งหมด 35 ครอบครัว โดยนม 1 ถุงที่เด็กแต่ละคนจะได้รับจากคุณครู มีทั้งหมด 15 กล่อง และทุก ๆ 15 วัน ครูก็จะนำนมไปแจกให้กับเด็กจนกว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะกลับมามีการเรียนการสอนตามปกติ




ขณะเดียวกันบรรยากาศที่ทีมข่าวติดตามครูหนุ่ยและครูน้อย ไปแจกนมให้เด็กตามบ้าน วันนี้ครูหนุ่ยและครูน้อย มีสีหน้ายิ้มแย้ม พูดคุยทักทายกับผู้ปกครองทุกบ้าน นอกจากนี้ในขณะที่ไปแจกนมให้เด็กๆ ครูหนุ่ย และครูน้อย ยังชวนให้ทีมข่าวช่อง8 ถ่ายภาพเพื่อเป็นพยานว่าครูไปแจกนมจริง ๆ ซึ่งวันนี้ครูหนุ่ย ครูน้อย ยิ้มหัวเราะ และคุยกับนักข่าวตลอดเวลา ส่วนบรรยากาศตอนที่ครูได้พบกับผู้ปกครองของเด็ก ทีมข่าวสังเกตเห็นผู้ปกครองบางคนมีการใช้มือลูบหัวให้กำลังใจครูน้อยด้วยความเอ็นดู


ส่วนบรรยากาศช่วงที่ครูหนุ่ยและครูน้อย ได้ไปเจอกับเด็ก ๆ ทีมข่าวสังเกตเห็นว่า ทางครูหนุ่ยพยายามจะสื่อสารให้ทีมข่าวเห็นว่า ครูรักเด็ก ซึ่งระหว่างที่ครูไปแจกนมให้กับน้องบู ตัวครูหนุ่ยมีการไปเล่นกับน้องบู ให้ทีมข่าวเห็นประมาณว่า อยู่ที่ศูนย์พัฒนาเล่นกับเด็กยังไง และมีความผูกพันกับเด็กมากขนาดไหน ซึ่งหลังจากครูหนุ่ยเล่นกับน้องบู ครูหนุ่ยยังมีการขอกอดหอมน้องบู โดยพูดว่าครูไปแล้วนะเดี๋ยวเราก็ได้เจอกันตอนเปิดเรียนนะ ทุก 15 วันครูหนุ่ยจะเอานมมาให้


ขณะเดียวกันในส่วนของครูน้อย ในระหว่างที่เข้าไปหาเด็ก เด็กน้อยบางคนอย่างเช่น น้องเอวา เมื่อได้เห็นหน้าครูน้อย น้องเอวา มีการเดินเข้าหาทันที ซึ่งสีหน้าของน้องเอวา มีความดีใจที่ได้เจอครูน้อย และขากลับก็ยังเดินตามครูน้อยกับครูหนุ่ยไปด้วย แต่ก็มีเด็กบางคนที่มีท่าทางไม่ยินดีที่ครูมาหาที่บ้าน




โดยวันนี้ ครูหนุ่ยและครูน้อย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ประเด็นเสียงตามกล้องวงจรปิด ที่ได้ยินป้านิ่ม หรือใครบางคนพูดเรื่องที่ครูพาเด็กไปเล่นน้ำใกล้คลอง ยืนยันว่าวันเกิดเหตุ ครูไม่ได้พาเด็กออกไปเล่นน้ำที่ไหนเลย ซึ่งเสียงที่ได้ยิน ป้านิ่ม อาจจะสื่อความหมายว่า ครูไปตามหาเด็กที่คลองแล้วแต่ไม่เจอ


ยอมรับปีที่แล้วเคยพาเด็กไปเดินเล่นจริง เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงเกี่ยวข้าว ก็เลยพาเด็กเดินไปดูชาวบ้านไถนา และวันนั้นเท่าที่จำได้ก็ไม่ได้พาเด็กเดินไปตรงบันได ส่วนประเด็นเรื่องผู้หญิงเสื้อชมพูที่ยืนหันหลัง ยืนยันว่าภาพนั้นคือภาพครูหนุ่ยเอง ที่ยืนดูอยู่ตรงต้นตาล และตอนที่ไปดูเป็นช่วงเวลาที่ครูส่งเด็กทุกคนให้ผู้ปกครองหมดแล้ว




นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินสำรวจบ่อน้ำ บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ โดยพบว่า บริเวณหน้าศูนย์ ห่างออกไป ประมาณ 150 เมตร อยู่ฝั่งถนน ตรงข้ามวัด พบบ่อน้ำ จำนวน 1 บ่อ ขนาด กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร ลึก 2-3 เมตร โดยจะมีผักตบฉวาอยู่้เต็มบ่อ จากนั้น ฝั่งทางด้านทิศตะวันตก หรือ ด้านขวามือของศูนย์ฯ มีจำนวน 3 บ่อ มีระยะห่างออกไป 200 เมตร โดยบ่อแรก มีความกว้าง ประมาณ 10 เมตร, บ่อที่ 2 ประมาณ 5 เมตร , และบ่อที่ 3 ประมาณ 5 เมตร และด้านหลังของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จะพบว่า ระยะห่างออกไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ ประมาณ 540 เมตร พบบ่อน้ำ ประมาณ 5 จุดอยู่บริเวณใกล้กับบ่อจุดเกิดเหตุ

 

วงจรปิดจับพิรุธนาที "อลิส" หาย เด็กในศูนย์เฉลยปริศนามีคนหัวทิ่มน้ำจริง