จากกรณี "ป้าเปรมมณี" ซึ่งออกมาอ้างว่าตนเองถูกหวย 90 ล้านบาท และต่อมาออกมายอมรับว่าไม่ได้ถูกแต่เป็นการทำคอนเทนต์ของเพื่อนลูกชายและไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โต ซึ่ง "ป้าเปรมมณี" ยังมีการพูดถึงฐานะตนเองว่าเป็นคนมีฐานะ และในบ้านยังมีห้องใต้ดินที่มีทรัพย์สมบัติมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ต้องนำผ้าสแลนสีเขียวมาปิดบังหน้าบ้านไว้เพื่อไม่ให้มีคนเห็นว่าภายในทำอะไรและเพื่อความปลอดภัย


ล่าสุดเช้าวันนี้ (29 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่บ้านป้าเปรมมณีอีกครั้ง พบว่า ป้าเปรมมณียังไม่กลับเข้าบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาที่จังหวัดนครพนมแล้ว แต่ไม่รู้ไปอยู่จุดไหนเมื่อมาถึงที่บ้านของป้าเปรมมณี ก็พบเพียงสุนัขหนึ่งตัว นอนอยู่สนามหญ้าหน้าบ้าน จากนั้นไม่นานก็พบว่ามีรถน้ำแข็งขับเข้ามาที่บ้านป้าเปรมมณี โดยพบว่ามีการนำกระสอบลงจากรถสองกระสอบ จากการสอบถามคนขับรถ ส่งน้ำบอกว่านำน้ำแข็งมาส่งให้ที่บ้านป้าเปรมมณีจำนวนสองกระสอบ โดยแม่บ้านบอกว่า น้ำแข็งนี้เอาไว้กิน เมื่อถามว่าเตรียมไว้ให้ป้าเปรมมณีหรือไม่ คนขับรถน้ำแข็งปฏิเสธไม่ทราบ




ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พบกับแม่บ้านของบ้านป้าเปรมมณี เมื่อถามว่าป้าเปรมมณีกลับมาบ้านหรือยัง และไปอยู่ที่ไหน เธอตอบแต่เพียงว่าไม่รู้และยังไม่ได้กลับมาบ้าน ส่วนกรณีเรื่องการโกหก หวย 90 ล้านนั้น ตนเองไม่ขอยุ่งเกี่ยวและไม่ออกความเห็นเพราะเป็นแค่แม่บ้านส่วนน้ำแข็งนั้น สั่งมาเพื่อรอรับป้าเปรมมณีหรือไม่ แม่บ้านไม่ได้ให้คำตอบแล้วเดิน กลับเข้าบ้าน


ส่วนที่กล่องจดหมายหน้าบ้านทีมข่าวได้ตรวจสอบ พบว่า มีจดหมายหนึ่งฉบับระบุชื่อ "ป้าเปรมมณี" โดยจดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายจากบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ซึ่งหากมีการนำรถไปเข้าไฟแนนซ์ ก็จะได้รับเอกสารเรื่องค่างวดรถทุกเดือน โดย ซองเอกสารยังอยู่ในสภาพใหม่ คาดว่าน่าจะนำมาส่งไม่เกินสามวันที่ผ่านมา




ด้าน นายประจิตร ศรีราศักดิ์ ผญบ.หมู่ 3 บ้านน้ำกล่ำใต้ ต.น้ำกล่ำใต้ อ. ธาตุพนม เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 8 เกี่ยวกับกรณีของ "ป้าเปรมมณี" ที่หลอกชาวบ้านว่าถูกหวย 90 ล้านบาท แต่ที่จริงไม่ใช่เป็นการทำคอนเทนต์ ว่าเรื่องนี้ชาวบ้านทุกคนไม่โกรธเกลียด "ป้าเปรมมณี" และให้อภัยเพราะรู้คำตอบตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าหวย 90 ล้านไม่มีอยู่จริง เพราะถ้าหากคนถูกหวยมากขนาดนี้ จะอยู่สภาพแบบนี้หรือไม่ก็แล้วแต่คนจะคิด ส่วนกรณีที่ "ป้าเปรมมณี" ระบุว่าที่บ้านมีห้องใต้ดินมีทรัพย์สมบัติเป็นพันล้าน เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่ "ป้าเปรมมณี" ก็พูดออกมาแล้วซึ่งจะซ้ำรอยกับกรณีหวย 90 ล้าน หรือไม่ที่พูดออกมาแล้วก็ไม่เป็นความจริง ส่วนมรดกที่อยู่ห้องใต้ดินในบ้านก็ไม่มีใครรู้ว่ามีจริงหรือไม่เพราะไม่ เคยมีใครเข้าไปในบ้าน


โดย "ป้าเปรมมณี" จะเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่สุงสิงกับใคร แต่เวลาคุยโทรศัพท์มักจะคุยเสียงดังหากอยู่ใกล้เพื่อนบ้านจะคุยเรื่องเงินหลักล้าน คนมายืมหรือคนเป็นหนี้ป้าเปรมมณี ประเด็นเรื่องทรัพย์สมบัติที่ "ป้าเปรมมณี" พูดนี้ก็อยากเตือนว่าถ้าไม่เป็นความจริงอย่าพูดเพราะมันจะซ้ำรอยกับเรื่องหวย 90 ล้านบาท และจะดูว่า "ป้าเปรมมณี" เป็นคนลวงโลก ส่วนกรณีการนี้หมายจับของศาลนั้นทางตำรวจ สภ.ธาตุพนม ก็ได้ประสานมาที่ตนให้คอยสอดส่องดูแลว่าหากพบตัว "ป้าเปรมมณี" ให้แจ้งตำรวจทันที เพราะจะต้องควบคุมตัวสงศาล ตามหมายจับคดีแพ่ง


สำหรับวีรกรรมของป้าเปรมมณี ซึ่งไม่เพียงหลอกว่าถูกหวย 90 ล้านบาท และอ้างว่าเป็นการทำคอนเทนต์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ล่าสุดทีมข่าวพบว่าในพื้นที่บ้านน้ำก่ำ ป้าเปรมมณีเคยชวนเจ้าอาวาสไปทัศนศึกษาธรรมที่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้ไป ต้องไปไปนอนอยู่โรงแรม ที่สนามบินถึงสามวัน และอ้างว่าตั๋วเครื่องบินไม่มี




ทีมข่าวสอบถามเรื่องนี้กับพระอาจารย์แซม เจ้าอาวาสวัดโสภณธาราม บ้านน้ำกำหมู่ 18 เปิดเผยว่า โยมเปรมมณีเคยพาไปทัศนะศึกษาธรรมที่ต่างประเทศ เมื่อช่วงปี 2559 ตอนกลับโยมเปรมมณีและสามีชาวต่างชาติตอนนั้นไป 5 วันก็ไม่มีปัญหาอะไรโยมเปรมมณีเป็นคนออกค่าใช้จ่ายและดูแลทั้งหมด


ต่อมาปี 2560 โยมเปรมมณีชวนไปประเทศดูไบ โดยบอกว่าสามีที่เป็นชาวต่างชาติรออยู่ที่ประเทศดูไบแล้ว จากนั้นก็เดินทางจากจังหวัดนครพนมไปที่โรงแรมของสนามบิน โดยโยมเปรมมณีบอกว่าให้รอเรื่องตั๋วก่อนถึงจะขึ้นเครื่องบินได้
ผ่านไปหนึ่งวันก็บอกว่าตั๋วมีปัญหา ต่อมาวันที่สองก็บอกว่ารอเรื่องเงินที่จะโอนมาจากสามีที่ประเทศดูไบ แต่ก็ไม่ได้เงินตามที่กล่าวไว้ผ่านไปวันที่สาม ก็บอกว่าเครื่องบินมีปัญหายังบินไม่ได้ และให้พระอาจารย์กับลูกศิษย์กลับวัดไปก่อน


“ซึ่งเรื่องนี้ไม่รู้ว่าเป็นการหลอกพระหรือโกหกพระหรือไม่ เพราะรู้ถึงเจตนาและพฤติกรรมที่ทำจะทำไปเพื่ออะไร แต่โดยส่วนตัวก็ไม่ได้โกรธเคืองโยมเปรมมณี สุดท้ายแล้วการเดินทางไปดูไบก็ล่มก็เดินทางกลับจังหวัดนครพนม” เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ โยมเปรมมณีออกสื่อทั้งเรื่องหวย 90 ล้าน และสมบัติในบ้านที่มีกว่า 1 พันล้าน ก็อยากบอกโยมเปรมมณีว่าจะพูดอะไรให้พูดแต่ความจริงเพราะไม่งั้นจะเกิดปัญหา




นอกจากนี้ ทางทีมข่าวช่อง 8 ได้สอบถามไปยังอาจารย์รักษ์ ศรีเกตุ เซียนพระชื่อดัง และแชมป์แฟนพันธุ์แท้พระพุทธรูปปี 2006 ถึงประเด็นที่ "ป้าเปรมมณี" กล่าวอ้าง ว่ามีองค์พระเครื่องแท้จำนวนมาก ทั้งพระสมเด็จวัดดัง รุ่นเก่าแก่ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่าร้อยล้าน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตามคำกล่าวอ้างของ "ป้าเปรมมณี" ว่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ลวงโลกหรือไม่




ทางทีมข่าวช่อง 8 จึงเดินทางไปพบกับอาจารย์รักษ์ศรีเกตุ โดยทางทีมข่าวได้นำคลิปวิดีโอพระเครื่องของ "ป้าเปรมมณี"รวมทั้งภาพถ่าย พระเครื่ององค์ต่าง ๆ ให้อาจารย์รักษ์ พิจารณา หลังจากพิจารณาองค์พระแต่ละองค์แล้ว อาจารย์รักษ์ ศรีเกตุ เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่อง 8 ดูจากพิมพ์และเนื้อขององค์พระ องค์แรก คือ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ แค่เห็นด้วยตาเปล่าก็ตอบได้เลย ว่าเป็นพระเก๊ จากเนื้อสีและพิมพ์ ไม่มีส่วนไหนใกล้เคียงกับพระแท้เลยแม้แต่เล็กน้อย ซึ่งคุณภาพพระองค์ดังกล่าวของ "ป้าเปรมมณี" นั้น เป็นพระก๊อปตามท้องตลาดทั่วไป ไม่ใช่ก๊อปเกรด A เลยด้วยซ้ำ ซึ่งจากพระสมเด็จที่ "ป้าเปรมมณี" นำมาถ่ายโชว์นั้น ถ้าเป็นของแท้จริงมูลค่าจะอยู่ที่หลักร้อยล้านอย่างแน่นอน มีคนพร้อมจ่ายทันที หรือจะมาขายให้กับตนเองก็ได้


ซึ่งพระสมเด็จนั้นไม่สามารถตอบได้ว่า ของแท้มีอยู่ทั้งหมดกี่องค์เพราะผ่านมาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว แต่จากบันทึกหลักฐานน่าจะราว ๆ 10,000 องค์ แต่ด้วยระยะเวลาผ่านมา ทั้งแตกสลาย ไฟไหม้ จมน้ำ ก็อาจจะเหลือของแท้อยู่ประมาณ 5000 องค์ เป็นไปไม่ได้ที่ฐานะทางบ้านไม่ดีมาก แล้วไม่ยอมขาย ยังคงเก็บไว้กับตัวเอง อาจเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดว่าเป็นของแท้แค่นั้น




อย่างพระกรุนาดูน และพระปรกกรุเมืองไพร จากภาพของ "ป้าเปรมมณี" นั้น ก็เป็นของเก๊เช่นกัน ทั้งเนื้อและพิมพ์สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ของแท้อย่างแน่นอน ของแท้ราคาปัจจุบันองค์ล่ะเป็นล้าน ซึ่งจากที่ตนดูทั้งเนื้อและพิมพ์ก็ไม่ใช่ของแท้แล้ว ดูพระสามารถดูได้ง่าย ๆ คือดูพิมพ์และเนื้อเป็นหลัก ตามมาตรฐานสากลของการดูพระ ส่วนพระสังคจาย และหลวงพ่อแก้ว ก็ไม่แท้เช่นกัน ถ้าเป็นองค์แท้นั้นราคาปัจจุบันก็ราคาหลักล้าน ปัจจุบันเหลือจำนวนน้อยมาก จะเหลือสวยสมบูรณ์สวยงามอย่างภาพถ่ายของ "ป้าเปรมมณี" นั้นเป็นไปไม่ได้


ส่วนเหรียญกษาปณ์นั้นเป็นเหรียญแท้ แต่ไม่มีราคา เซียนพระไม่ได้เล่นกัน มันไม่ได้รับความนิยม เป็นเพียงเหรียญแจกตามวัดต่าง ๆ งานกฐิน ผ้าป่า มีแจกทั่วไป ไม่ได้อยู่ในมาตรฐานสากลนิยม มีเพียงคุณค่าทางจิตใจ แต่ไม่ได้มีคุณค่าทางพาณิชย์




ล่าสุดวันนี้ทางทีมข่าวจึงเดินทางไปยังจังหวัดเพชรบุรี พบหมอปลา มือปราบสัมภเวสี เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่อง 8 ว่า ในส่วนของพระเครื่องที่ตนเองได้เห็นนั้น จะจริงหรือปลอมนั้นคงตอบไม่ได้ เพราะตนก็ไม่ใช่เซียนพระ ไม่มีความรู้ด้านนี้ และส่วนตัวก็ไม่ได้มีความสนใจเรื่องของพระเครื่องอยู่แล้ว แต่พระบางองค์ก็มีทั้งใบเซอร์และใบการันตี ในทุก ๆ วันก่อนที่จะเป็นข่าว "ป้าเปรมมณี" ก็ส่งรูปพระเครื่องมาให้ตนดูเป็นประจำ อีกทั้งยังจะมอบให้แก่ตนเองอีกด้วย แต่ด้วยตนเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้จึงไม่ค่อยได้ตอบและไม่ได้รับไว้ อีกทั้ง "ป้าเปรมมณี" ยังมีจิตใจเอื้อเฟื้อถึงขั้นจะให้พระเครื่องกับตนเพื่อให้ตนนำไปปล่อยเช่าและนำเงินไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ


ตนเองมีโอกาสได้เข้าไปห้องเก็บพระเครื่องของ "ป้าเปรมมณี" ยอมรับว่ามีพระเครื่องจำนวนมาก แค่เหรียญกษาปณ์ก็มีเป็น 10 กระสอบแล้ว แม้แต่เหรียญกษาปณ์ที่หายากของแต่ละประเทศที่ตามหากัน "ป้าเปรมมณี" ก็มีทั้งนั้น เมื่อเป็นข่าวออกมาจะบอกว่า "ป้าเปรมมณี" มา หลอกลวงประชาชนนั้น ตนคิดว่าไม่น่าใช่ "ป้าเปรมมณี" เพียงพลาดหรือกระทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร ตนคิดว่าถ้า "ป้าเปรมมณี" หลอกลวงคนอื่นจริง ก็ต้องหลอกลวงตนเองด้วยเช่นกัน แต่ที่ผ่านมา "ป้าเปรมมณี" กลับเป็นฝ่ายให้ตนมาฝ่ายเดียว ทั้งทั้งที่ตนยืนยันมาตลอดว่าจะไม่รับพระเครื่องไว้เลยด้วยซ้ำ อย่างเมื่อวานตนทำงานเลิกดึก "ป้าเปรมมณี" ก็ยังคงติดต่อมาเพื่อที่จะนำพระเครื่องมาให้ ซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีมูลค่าสูง อีกทั้งยังมีพระสมเด็จดังหลายองค์ "ป้าเปรมมณี" นำไปถวายให้พระดัง ๆ เพื่อสร้างวัด


เมื่อก่อน "ป้าเปรมมณี" เปิดพิพิธภัณฑ์พระเครื่อง จึงทำให้มีพระเครื่องสะสมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งอดีตสามีของ"ป้าเปรมมณี" นั้นเป็นคนค่อนข้างมีฐานะ ช่วงที่ "ป้าเปรมมณี" มีเงินก็ซื้อสะสมไว้เรื่อย ๆ จนมาขยายผลเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในห้องพระเครื่องนั้น "ป้าเปรมมณี" จะให้เข้าไปดูเฉพาะคนที่ไว้ใจ เหตุผลที่ให้ตนเข้าไปดู คงคิดว่าตนไม่ได้อยากได้ และเชื่อใจได้ ตั้งแต่มีข่าวออกไป "ป้าเปรมมณี" พูดกับตนตลอดว่า ถ้ามีเบอร์โทร. แปลก ๆ โทร. มาก็จะไม่รับสายใครเลย และ "ป้าเปรมมณี" ก็ไม่ต้องการให้สัมภาษณ์ เพราะกลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปแล้ว นักข่าวจะนำไปขยายความต่อ




ส่วนประเด็นเรื่องป้าเปรมมณีอ้างว่าถูกลอตเตอรี่ 90 ล้านนั้น ตนเป็นคนชี้แจงกับ "ป้าเปรมมณี" เองว่าให้ออกมาพูดความจริงกับสังคม ให้ออกมาพูดในรายการ มีความจริงด้านไหนก็ให้พูดให้หมด ตอนแรก "ป้าเปรมมณี" ไม่ยอมออกมาพูด แต่ตนพยายามบอกว่าออกมาพูดความจริงเพื่อคลายข้อสงสัย สังคมจะได้ไม่เคลือบแคลง โดย "ป้าเปรมมณี" ยอมรับกับตนว่าลอตเตอรี่นั้นไม่ใช่ของจริง "ป้าเปรมมณี" เองก็โดนต่างด้าวหลอกมาว่า เป็นลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง หลอกขายจำนวนเงิน 50,000 บาท อ้างว่าไม่มีบัตรประชาชนนำไปขึ้นเงินรางวัลไม่ได้ ด้วยความสงสาร "ป้าเปรมมณี" จึงซื้อเก็บไว้ แต่สุดท้ายเมื่อนำมาตรวจดูก็พบว่าเป็นลอตเตอรี่ปลอม จากนั้น "ป้าเปรมมณี" จึงเก็บไว้ กับตัวเองมาโดยตลอด เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนใจว่าอย่าหลงเชื่อใครง่าย ๆ อีก แต่ลอตเตอร์รี่ที่เป็นข่าวออกไปนั้น มีแค่ 1 ใบ ไม่ใช่ 15 ใบตามข่าว


ส่วนประเด็นที่ตนกล้าออกมาพูดว่า "ป้าเปรมมณี" นั้นไม่มีพิษมีภัยต่อใคร เพราะเมื่อตนได้เข้าไปรู้จักกับนางปเปรมมณีจากเนื้อแท้จริง ๆ "ป้าเปรมมณี" นั้นไม่เคยหาผลประโยชน์อะไรจากตนเลย มีแต่เป็นผู้ให้มาโดยตลอด ไม่มีคำพูดชั้นเชิง มีแต่ความซื่อ ๆ ไม่เคยชวนทำบุญหรือขอเงิน ชีวิต "ป้าเปรมมณี" เคยมีเงินเยอะ แค่เหรียญกษาปณ์ก็เยอะมากแล้ว ไม่รู้จะหลอกไปทำไม คิดแค่ว่าประเด็นที่เกิดขึ้น "ป้าเปรมมณี" เพียงรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น

 

พิสูจน์กรุพระพันล้านป้าเปรมมณี  แท้-ปลอม? ช็อก! ถูกหวย 90 ล้าน แต่โดนทวงค่ารถ