นายก อบต.คอนกาม สั่งปิดศูนย์เด็กฯ ต่อ เพื่อซ่อมแซม สร้างรั้ว ติดกล้องวงจรปิด ให้ผู้ปกครองพอใจก่อน
วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดค้อทอง อบต.คอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ทีมงานช่างจาก อบต.คอนกาม ที่เป็นจิตอาสาเข้ามาทำงาน ตัดเหล็ก ลวดตาข่าย ติดตั้งรั้วรอบขอบชิดทุกทิศทาง เพราะเดิมศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์แห่งนี้มีรั้วไม่ครบทุกด้าน ทำให้เด็กเดินออกไปเล่นได้ทุกทิศทาง กระทั่งเป็นเหตุสลดที่ไปพบน้องอลิส วัย 3 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตที่ทุ่งนา ห่างไกลออกจากศูนย์ไปกว่า 600 เมตร และผู้ปกครองทุกคนพุ่งเป้าไปที่คณะครูศูนย์เด็กทั้ง 3 คน กับแม่ครัว 1 คน รวม 4 คน ว่าตอนที่เด็กหายไป ครูทำอะไรกันอยู่ สุดท้ายตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำการอันประมาท จนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต” แต่พ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กไม่เชื่อแค่นั้น แต่เชื่อว่า ครูนำเด็กไปจมน้ำทิ้งปกปิดอะไรบางอย่าง อบต.จึงได้มีคำสั่งปิดศูนย์ต่ออีกอย่างน้อย 7 – 15 วัน
นายมุนินทร์ แก้วคำ นายก อบต.คอนกาม เปิดเผยว่า จากเดิมที่เกิดเหตุสลด เด็ก 3 ขวบ จากศูนย์พบจมน้ำเสียชีวิต เมื่อเที่ยงวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ทาง อบต.คอนกาม ได้มีการสั่งปิดศูนย์ 15 วัน ก็จะครบในวันนี้ 30 มิถุนายน วันนี้กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมศูนย์ ก็จะมีการสั่งปิดศูนย์ต่อไป อีกสักระยะหนึ่ง เริ่มจากวันที่ 1 กรกฎาคม โดยจะได้ประสานงานกับทาง ผอ.กองการศึกษาของ อบต.โดยคำสั่งปิดเพิ่มอีก 7 วัน แต่หากยังไม่เรียบร้อยในการซ่อมแซมก็จะมีคำสั่งปิดต่ออีก 7 วัน รวม ปิดต่ออีกสัก 15 วัน เพราะยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมศูนย์ให้เรียบร้อย มั่นคงแน่นหนา มีประตูทางเข้าออกเพียงฝั่งเดียว พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด
และที่สำคัญก่อนเปิดก็จะมีการเชิญผู้ปกครองมาร่วมทำบุญที่ศูนย์ พร้อมมีการประชุมผู้ปกครอง คณะกรรมการการศึกษา โดยสิ่งสำคัญคือ ทุกคนโดยเฉพาะผู้ปกครองจะต้องมาดูศูนย์ว่าหลังจากซ่อมแซมและติดกล้องว่ามีความปลอดภัยแล้วหรือยัง ถ้าผู้ปกครองเห็นว่ายังไม่ปลอดภัยตรงไหนอย่างไร ทาง อบต.จะแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและเด็กทุกคน
ส่วนเรื่องคุณครูนั้นก็ต้องถามทางผู้ปกครองด้วยว่า คุณครูชุดเก่าทั้ง 3 คน พอที่จะให้โอกาสครูได้มาดูแลศูนย์ต่อไปหรือไม่ อย่างไร ซึ่งตอนนี้ครูทั้ง 3 คน ก็มีข้อกล่าวหา คือ ประมาททำให้ผู้อื่นได้เสียชีวิต ก็เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา แต่ยังไม่ใช่จำเลยทางคดี ซึ่งก็ต้องรอผลการสอบวินัยของส่วนงานท้องถิ่น และปกครองอำเภอยางชุมน้อยด้วย
ขณะที่ นายปฏิวัติ จันส่องคำ ผอ.โรงเรียนบ้านค้อเมืองแสน ตำบลคอนกาม เป็น ผอ.โรงเรียนเด็กโต ที่จะได้รับช่วงรับเด็กต่อจากศูนย์เด็ก กล่าวว่า ที่โรงเรียนประถมขยายโอกาสของผมมีกล้องวงจรปิด โดยติดตั้งดูเฉพาะความเคลื่อนไหวเด็กนักเรียน คณะครูภายในโรงเรียน คือ จากศูนย์ไปหาโรงเรียนประถมนี่ก็ไกลประมาณ 500 เมตรแล้ว ก็มีต้นไม้ปิดบังเป็นส่วนใหญ่ กล้องทุกตัวที่ติดก็มีไว้ดูเหตุเฉพาะภายในโรงเรียน ไม่ได้ส่องมาที่ศูนย์หรือออกไปตรงถนน หลังจากที่เกิดเหตุตรงนี้ ตนได้วิ่งมาดูเหมือนกันว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งห่างไกลออกไปก็เป็นไปได้ยากเหมือนกันที่เด็กตัวเล็กๆ จะเดินออกไปไกลขนาดนั้น แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด เพราะว่าตนไม่ได้รู้เรื่องการดูแลตั้งแต่แรก แต่นักเรียนทุกคนที่อยู่ศูนย์นี้ ส่วนใหญ่ 90 ถึง 100% ก็จะไปเข้าประถมปีที่ 1 กับที่โรงเรียนตน ก็เหมือนส่งต่อกันจากศูนย์ไปสู่โรงเรียน แต่ก็เสียใจกับน้องที่เสียชีวิต และพอเกิดเหตุทางโรงเรียนประถม ก็ได้เข้าสู่แผนการซักซ้อมความปลอดภัยภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกได้เข้าไปก่อความวุ่นวายหรือทำร้ายเด็ก ทำร้ายคนในโรงเรียน รวมทั้งการดูแลเด็กที่ต้องมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวว่าใช้การได้เป็นปกติหรือไม่ ถ้าเสียก็จะต้องจัดซ่อม แต่ก็เป็นแผนปกติ เป๋นแผนเดิมในการครบรอบการดำเนินการเรื่องความปลอดภัยภายในโรงเรียนอยู่แล้ว
ในส่วนของตำรวจ เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบก็ลงพื้นที่สืบหาความจริง โดยยังไม่มีการสอบพยานเพิ่มแต่อย่างใด และที่บ้านของน้องอลิส พ่อแม่ ย่า ญาติๆ ของน้องอลิส ก็ได้นำอาหารไปทำบุญที่วัด นำอาหารไปให้น้องอลิส เช่นทุกเช้าตั้งแต่ 07.00 น. และยังรอความหวังทางคดีจากตำรวจ