เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบ หาสาเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าใต้แอร์พอร์ตเรลลิงก์ "สถานีรามคำแหง" ด้านผู้ค้าเผยได้รับผลกระทบหลักแสน

วันที่ 1 ก.ค. 67 ความคืบหน้ากรณี เกิดเหตุไหม้ร้านค้าใต้แอร์พอร์ตเรลลิงก์ "สถานีรามคำแหง" นายบัญชา สืบกระพัน ผู้อำนวยการเขตสวนหลวง เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บริเวณร้านขายของใต้แอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบเพลิงไหม้บริเวณร้านค้าที่ชั้น 1-2 ซึ่งเป็นโซนร้านขายของ รวมจำนวนประมาณ 30 ร้านค้า ส่วนสภาพอาคารขณะนี้พบว่าโครงสร้างยังแข็งแรง แต่อาจจะมีพื้นที่บางส่วนได้รับผลกระทบ เช่น บันไดเลื่อน ลิฟต์ และ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับจุดเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนี้พังเสียหายไม่สามารถใช้การได้ ส่งผลให้ผู้ที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าที่บริเวณสถานีแอร์พอร์ตลิงก์รามคำแหงต้องใช้การเดินขึ้นลงบันไดแทนชั่วคราว ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบ ขณะที่สำนักงานเขตสวนหลวงกำลังเร่ง แจ้งประสานเจ้าของอาคาร เบื้องต้นทราบว่าเป็นของบริษัทแอร์พอร์ตลิงก์จำกัด มาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคาร

สำหรับการตรวจสอบที่สถานีแอร์พอร์ตเรลลิงก์ "สถานีรามคำแหง" ขณะนี้ทราบว่าไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงบันไดเลื่อนที่อาจจะได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกความร้อน จึงทำให้สามารถเปิดให้บริการรถไฟฟ้าได้ตามปกติ เนื่องจากช่วงเช้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนซึ่งมี ประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันทางเขตได้มีการตรวจสอบ รับลงทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อเจ้าของร้านค้าสำหรับหาแนวทางในการเยียวยาผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ต่อไป

ด้านกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ เปิดเผยว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าประมาณหลักแสน เนื่องจากมีการนำของมาเก็บสต๊อกไว้ เป็นจำนวนมากเฉลี่ย ร้านค้าละ 100,000 - 1,000,000 บาท ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงสิ้นเดือน ทำให้มีการสั่งของมาเก็บในร้านไว้ เพราะเป็นช่วงที่จะมีลูกค้ามาซื้อหรือใช้บริการเป็นจำนวนมาก ส่วนการเยียวยานั้นได้รับประสานจากทางเขตเบื้องต้นว่าจะได้รับการเยียวยาประมาณร้านละ 10,000 บาท ซึ่งส่วนนี้ต้องติดตามการช่วยเหลือเยียวยากับทางเจ้าของอาคารต่อไปว่ามีการทำประกันภัยไว้หรือไม่ ขณะที่ในเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะมีการลงพื้นที่มาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้อีกครั้ง