"ทนายพัช" คุยข่ม คดีแอมไซยาไนด์ อาจยกฟ้อง ด้าน "รพี" โต้กลับ ฝั่งตนพยานหลักฐานแน่น พร้อมเต็มร้อย ขึ้นศาล 4-5 ก.ค. นี้

หลังจากนางสาวธัญณิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือทนายพัช ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีของเจ๊มด เมียเสี่ยต้นเสร็จ ก็ได้เปิดเผย ในเรื่องของคดีแอม ไซยาไนด์ ที่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม 

 

ทนายพัช บอกว่า ตอนนี้ตนพร้อมกับทีมทนายทนายใจดี เตรียมขึ้นศาลเพื่อไต่สวนในคดีแอมไซยาไนด์ ในวันที่ 4-5 ก.ค. นี้ ที่ศาลอาญา พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตนไม่รู้สึกกังวล เพราะเชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี ว่าเพียงพอในการเอาผิดฝ่ายตรงข้าม อาทิ กรมตำรวจชุดจับกุม หรือผู้ช่วยประสานงานในคดีแอมไซยาไนด์ อย่างนายรพี ชำนาญเรือ

สุดท้ายทนายพัช พร้อมทีมทนายใจดียังมีการเปิดเผยผ่านสื่อ บอกว่า พวกตนจะได้เจอทนายรุ่นพี่ ในฐานะทนายโจทก์ร่วมอย่าง ทนายเดชา และฝากถึงอีกฝ่ายว่า” พูดอะไรไว้แล้ว ก็อย่าลืมว่าพูดอะไรไว้ เบิกความให้อยู่กับร่องกับรอย พูดให้เหมือนเดิมที่เคยออกในรายการ จะได้ยกฟ้องได้ง่าย”

 

 

 

"รพี" โต้กลับ "ทนายพัช" ยันฝั่งตนพยานหลักฐานแน่น พร้อมเต็มร้อย ขึ้นศาล 4-5 ก.ค. นี้

 

หลังทนายธัญย์ณิชา หรือ "ทนายพัช" ได้แถลงกับสื่อมวลชน เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวคดีแอมไซยาไนด์ พร้อมทั้งพูดถึงฝ่ายโจทก์ อย่างนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานคดีแอมไซยาไนด์

ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ได้ติดต่อ นายรพี เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว นายรพีบอกว่า ส่วนตัวมั่นใจในการทำงานของตำรวจ และอัยการ เพราะการรวบรวมพยานหลักฐาน ในคดีกินเวลามากว่า 14 เดือน ซึ่งก็มีทั้งพยานบุคคล และพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ โดยเฉพาะที่มาของสารไซยาไนด์ ที่พบทั้งในร่างกายของผู้เสียชีวิต และในรถของแอม ทั้งหมดนี้ทำให้ตนมั่นใจว่าจะทำให้คดีนี้เดินหน้าต่อได้

พร้อมทั้งยังฝากถึงทนายของอีกฝ่าย (ทนายพัช) ที่ออกมาชี้นำ ในคดีของก้อย ว่าแพ้คดี เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ ตนจึงอยากถามกลับไปว่า ในฐานะที่เป็นทนายความ และเป็นจำเลยในคดีนี้ สมควรแล้วหรือไม่ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วนด้านนางสาวแอม จะผิดหรือถูก ก็ต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิพากษา

ในส่วนเรื่องคดีทั้งหมดตนก็ได้ปรึกษากับทางทนายเดชา มาโดยตลอด ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปในคดีนางสาวก้อย ที่ถูกแอมวางยาจนเสียชีวิต

ซึ่งนายรพีบอกว่า ตนและครอบครัวของผู้เสียชีวิต มั่นใจเต็มร้อย ในการขึ้นศาล 4-5 ก.ค. นี้ ในเรื่องของพยานหลักฐานที่ตำรวจได้รวบรวมทั้งของทนายเดชาและหลักฐานจากทางอัยการ