มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรับแจ้งเหตุพบศพชายในป่ากฐินภายในซอยรังสิตนครนายก 49 พื้นที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายชาลี อายุ 62 ปี โดยสภาพศพเบื้องต้น พบรอยแผลเหวอะ และฉีกขาดบริเวณปากและจมูก เปลือยท่อนล่าง แต่บริเวณร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างอื่น อีกทั้งไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งบริเวณจุดพบศพนั้น คือบริเวณด้านหลังเพิงพัก ของนายชาลี ผู้เสียชีวิต ห่างออกมา ประมาณ 5 เมตร 

 

ทราบข้อมูลเบื้องต้นของนายชาลี ผู้เสียชีวิตนั้น พบว่าเป็นชายเร่ร่อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดต่อทางญาติได้ มีอาชีพเก็บของเก่าขาย และพักอาศัยอยู่ในเพิงพัก ห่างจากจุดพบศพ เพียง 5 เมตร กลางซอยรังสิตนครนายก 49 มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว อีกทั้งนายชาลีผู้เสียชีวิตนั้นมีอาการติดสุราอย่างหนัก ดื่มสุราเกือบตลอดเวลา

 

ทั้งนี้ทั้งทีมข่าวช่องแปดพบภาพวงจรปิด ก่อนที่นายชาลีจะเสียชีวิต วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ก่อนที่นายชาลีจะเสียชีวิต 1 วัน ภาพวงจปิด พบนายชาลีเดินออกมาจากเพิงพัก ผ่านหน้าปากซอยรังสิตนครนายก 49 และเลี้ยวซ้าย จากการสอบถามชาวบ้านเบื้องต้น พบว่านายชาลีเดินเร่ร่อนแถวนี้เป็นประจำ แต่ปกติแล้วจะปั่นรถสามล้อไปด้วย แต่ก่อนจะเสียชีวิตนั้นในชาลีนำรถสามล้อไปจอดลืมไว้ที่บริเวณร้านรับซื้อของเก่า

 

07.10 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2567 พบนายชาลีเดินออกมาจากเพิงพัก ผ่านหน้าปากซอยรังสิตนครนายก 49 สภาพโซซัดโซเซ 

 

17.00 น. วันที่ 26 มิถุนายน 2567 พบนายชาลีไปร้านรับซื้อของเก่า ก่อนช่วยเจ้าของร้านยกถังน้ำมัน เพื่อทำงานแลกเงินไปดื่มเหล้า 

 

ด้านนายทักษิณ อายุ 60 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่องแปดว่า ตนรู้จักกับนายชาลีผู้เสียชีวิตมานานแล้ว เมื่อก่อนเคยอาศัยอยู่กับตนที่ซอยรังสิตนครนายก 45 ไปขายขนมด้วยกันตลอด แต่ช่วงหลังมานายชาลีมีพฤติกรรมชอบดื่มสุราอย่างหนัก พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ตนจึงไม่ให้นายชาลีอาศัยอยู่ที่บ้านกับตนแล้ว จากนั้นนายชาลีจึงย้ายที่อยู่มาอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ซอยรังสิตนครนายก 49 โดยอาศัยพื้นที่ว่างกลางซอย ทำเป็นเพิงพักอาศัย และตนขายรถสามล้อให้นายชาลี ในราคา 1000 บาท จากนั้นนายชาลีก็ใช้รถสามล้อในการทำมาหากิน เก็บของเก่าขายมาโดยตลอด 

 

ตั้งแต่ที่นายชาลีย้ายมาอยู่ที่ซอยรังสิตนครนายก 49 ก็แทบ ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย มีแค่นายชาลีที่จะกลับไปหาตน พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันบ้าง แต่ก็แทบไม่ค่อยได้คลุกคลีกัน 

 

ตนพอจะทราบว่าที่ผ่านมานายชาลีหาเงินมาได้เท่าไหร่ก็นำไปดื่มสุราจนหมด บ่อยครั้งที่จะมีเพื่อนดื่มสุราด้วยกัน มีทั้งพรรคพวกที่เก็บของเก่าขายด้วยกัน รวมทั้งแรงงานพม่า ต่างด้าวที่มาทำงานอยู่บริเวณซอย ข้างเคียง ก็จะมาร่วมดื่มสุรากับนายชาลีอยู่บ่อยครั้ง

 

อีกทั้งนายทักษิณให้เป็นข้อมูลกับทางทีมข่าวว่า เมื่อก่อนที่นายชาลีพักอาศัยอาศัยอยู่กับตน เวลาดื่มสุรา แล้วเมาก็จะชอบถอดกางเกง หรือถอดเสื้อผ้านอน เป็นประจำอยู่แล้ว 

 

เบื้องต้นจากสภาพศพเห็น ตนก็ยังไม่สามารถระบุได้ ถึงสาเหตุการเสียชีวิต มีความเป็นไปได้หมด ทั้งเสียชีวิตเอง และโดนทำร้าย แต่นายชาลีนั้นเป็นคนสนุกสนาน นิสัยดี น่าจะไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร บาดแผลที่ใบหน้า อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะโดนสัตว์กัดแทะ บริเวณนี้มีตัวเงินตัวทองเยอะ

 

ด้านนางอำนวย อายุ 57 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่องแปดว่า ปกติแล้วนายชาลีจะนำของเก่ามาขายที่ร้านเป็นประจำ เดินทางมาบ่อยเกือบทุกวัน ขับสามล้อมาเป็นประจำ โดยนายชาลีนั้นรักรถมาก ไปไหนก็จะขับรถไปด้วยทุกที่ 

 

แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตนเห็นรถสามล้อ ของนายชาลีมาจอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่พบนายชาลี ตนก็ยังแปลกใจว่ารถมาจอดอยู่บริเวณนี้ได้อย่างไร คาดว่านายชาลีคงเมา จนกระทั่งลื มนำรถมาจอดทิ้งไว้ที่นี่ แต่รถจอดอยู่ทั้งวันนายชาลีก็ยังไม่มาเอารถ ผ่านไปจนกระทั่งวันอาทิตย์ ก็ยังไม่เห็นวี่แวว ตนจึงเอะใจ เพราะปกตินายชาลีไม่เคยห่างรถเลย แม้แต่เมื่อก่อน นายชาลีเคยขโมยของในร้าน ตนจึงดัดนิสัย โดยล่ามโซ่รถเอาไว้ นายชาลีก็ยังคงนอนเฝ้ารถ ไม่หายไปไหน

 

เวลาที่นายชาลีมาขายของได้เงินมาเท่าไหร่ก็นำไปซื้อเหล้าจนหมด โดยนายชาลีนั้นสนิทกับลูกชายของตนเองเป็นอย่างมาก จะชอบเดินทางมาที่ร้าน เพื่อมาพบปะพูดคุยกับลูกชายอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนายชาลีไม่มาเอารถถึงสองวันแล้ว ลูกชายจึงเดินทางไปดูที่เพิงพัก เมื่อไปถึงก็ไปยืนตะโกนเรียกเรียกชื่ออยู่บริเวณหน้าเพิงพัก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินทางกลับ มาทราบอีกทีคือนายชาลีกลายเป็นศพไปแล้ว 

 

ปกตินายชาลีนั้นจะมีเพื่อนที่ปั่นจักรยานหาของเก่าด้วยกัน เคยแวะเวียนมานั่งกินเหล้าด้วยกันบ่อยครั้ง แต่ช่วงหลังมานี้ก็ไม่เคยเจออีกเลย ตนก็ไม่ทราบว่ามีเหตุทะเลาะกันหรือไม่

 

ด้านนายสราวุธ อายุ 38 ปี ลูกชายเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เปิดเผยกับทางทีมข่าวช่องแปดว่า ตนสนิทกับนายชาลีเป็นอย่างมาก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายชาลีบ่นกับตนว่า แน่นหน้าอกมาก ตนจึงถามว่าเป็นอะไรถึงเจ็บหน้าอก นายชาลีก็ตอบว่า อาจเป็นเพราะมาช่วยตนยกน้ำมันเมื่อวันพุธ กลับไปจึงแน่นหน้าอก โดยปกติแล้วสุขภาพร่างกายของนายชาลีไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว 

 

เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ตนเห็นรถสามล้อของนายชาลีมาจอดอยู่หน้าบ้าน คาดว่านายชาลีคงเมาและนำมาจอดลืมไว้ที่นี่ ปกติแล้วนายชาลีชอบดื่มสุราอย่างมาก ตื่นมาดื่มตั้งแต่เช้า ทำงานได้เงินเท่าไหร่ก็นำไปซื้อสุราจนหมด ชอบมาขอเงินตัวเองครั้งละ 20 -30 บาท เพื่อนำไปซื้อสุรา ตนก็ให้ตลอด เพราะสงสาร 

 

ตนเจอนายชาลีล่าสุดเมื่อวันศุกร์ หลังจากนั้นก็ไม่เจออีกเลย ถัดมาวันเสาร์ เห็นรถสามล้อของนายชาลีมาจอดอยู่หน้าบ้าน แล้ววันอาทิตย์นายชาลีก็ยังไม่มาเอารถ จึงเอะใจ เดินทางไปที่เพิงพักของนายชาลี ไปยืนเรียกอยู่นาน ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด จึงเดินทางกลับ มาทราบอีกที จากชาวบ้าน พบนายชาลีกลายเป็นศพแล้ว

หนุ่มตายเปลือยปริศนา หน้ามีแผลถูกกัด