"เลขากฤษฎีกา" ยืนยัน "ชาญ พวงเพ็ชร์" ว่าที่นายกฯอบจ.ปทุมธานี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที่ หลังพบมีคดีค้างเก่าติดตัว
นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งชนะการเลือกตั้ง แต่มีคดีค้างเก่าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยมีการประทับรับฟ้องไว้ จะทำให้นายชาญ จำเป็นต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า เมื่อไหร่ที่เข้ารับหน้าที่ก็ต้องหยุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเข้ารับตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ใช่ เพราะวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ให้เหตุผลทุกกรณีไว้ว่าหากถูกสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่โดยป.ป.ช.ชี้มูล และมีคำถามว่าระหว่างนั้นเขาพ้นตำแหน่งแล้วกลับเข้ามาทำหน้าที่ใหม่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งโดยตรรกะต้องหยุด เพราะไม่ต้องการให้ยุ่งเหยิงกับคดีที่ผ่านมา และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นหลักกฏหมายปกติ
เมื่อถามว่า นายชาญมีสิทธิ์ไม่เชื่อความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า หากนายชาญไม่เชื่อ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จะเป็นคนชี้ เพราะมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลเรื่องของการ เข้าสู่ตำแหน่ง การดำรงตำแหน่งและการปฎิบัติหน้าที่ ดังนั้น สถ. จึงเป็นผู้มีคำสั่งดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนผู้ที่จะทำหน้าที่แทนนายชาญ ไปก่อนคงเป็นปลัดอบจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า กรณีนายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จะไม่ส่งผลกระทบ เพราะตอนที่ ป.ป.ช.ร้องนายชาญ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนความเห็นกฤษฎีกา ที่บอกว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ เป็นความคิดเห็นทางกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัตินายชาญ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องให้ศาลเป็นคนสั่ง ไม่ใช่เป็นไปตามอัตโนมัติ ตามที่กังวลใจกันอยู่ เพราะตอนนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ นายชาญยังมีสิทธิ์ เนื่องจากตอนมาสมัครก็ไม่ได้ขาดคุณสมบัติอะไร ดังนั้น เรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย และปัจจุบันก็ไม่มีข้อบังคับใดมาห้าม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยทราบเรื่องนี้ก่อนที่จะส่งนายชาญ ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฝ่ายที่คัดเลือกน่าจะพิจารณาไตร่ตรองดีแล้ว แต่ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในพรรคมากนัก
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ที่หลังเลือกตั้งแล้วจะมีการวิจารณ์ ไม่ต้องไปโทษใคร หรือคิดว่าใครมากลั่นแกล้ง เพราะถ้าเรายึดกฎหมายยึดกระบวนการยุติธรรม ก็ไม่สามารถทำอะไรได้