หวิดวางมวย! พ่อเชื่อมจิต ปรี่เข้าหา "ทนายตุ๋ย" ทนายความของ "หนุ่ม กรรชัย" กลางห้องพิจารณา
หวิดวางมวยกลางห้องพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ครอบครัวเชื่อมจิตฟ้องพี่หนุ่มกรรชัยและรายการโหนกระแส โดยพ่อของเด็กเชื่อมจิตไม่พอใจที่ทนายความของพี่หนุ่มกรรชัย ยกมือคัดค้านการอ่านคำให้การของพยาน โชคดีตำรวจศาลเข้าห้ามทัน
จากกรณีเพจ facebook ดาว 8 แฉก โพสต์ข้อความระบุว่า หวิดวางมวยในห้องพิจารณาคดีระหว่างทนายตุ๋ยและพ่อน้องเชื่อม ตำรวจศาลห้ามปรามกันอุตลุด @สุราษฎร์ธานี ทำให้กลายเป็นประเด็นที่สังคมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะตลอดการพิจารณาคดีเมื่อวานนี้ทั้งวันก็ไม่มีเหตุการณ์บานปลายหรือรุนแรง
ต่อมาวันที่ 2 ก.ค. นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์” หรือ “ทนายตุ๋ย” ทนายความของหนุ่ม กรรชัย ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยทนายตุ๋ย บอกว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการพิจารณาคดี เวลาประมาณ 20:00 น.
หลังการไต่สวนเบิกพยานปากแรกของฝ่ายโจทก์เสร็จเรียบร้อยแล้วผู้พิพากษาท่านลงจากบัลลังก์แล้ว ในห้องพิจารณาเหลือเพียงตนเองและทนายฝ่ายจำเลย ส่วนฝั่งครอบครัวเชื่อมจิตอยู่กันครบพ่อแม่ลูกรวมถึงทนายธรรมราช ทนายฝ่ายโจทก์
นอกจากนี้ในห้องพิจารณายังมีเสมียนและเจ้าหน้าที่ศาลอยู่ในห้องด้วย จังหวะนั้นทนายธรรมราชนำคำให้การของหมอคนสนิทน้องเชื่อมจิต ซึ่งเบิกความในฐานะพยานมาอ่านให้พ่อกับแม่น้องเชื่อมจิตฟัง ทนายตุ๋ยจึงยกมือคัดค้านเพราะตามหลักการแล้วไม่สมควรทำ
แต่พอพ่อของน้องเชื่อมจิตเห็นว่าตนเองยกมือคัดค้านจึงลุกจากเก้าอี้และมองหน้าต้นด้วยสายตาอาฆาตพร้อมกับเดินปรี่เข้ามาเหมือนจะหาเรื่องและต่อว่าตนด้วยความไม่พอใจว่า ยกมือคัดค้านทำไม โชคดีที่ยังมีตำรวจศาลอยู่ในห้องพิจารณาจึงเข้ามาห้ามพ่อน้องเชื่อมจิตได้ทัน
ซึ่งตนเองรู้สึกตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นและเกิดขึ้นในห้องพิจารณาคดีด้วย ตนจึงเตรียมที่จะไปยื่นหนังสือถึง ผอ.ศาล ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอยากให้ช่วยเข้ามาจัดการและดูแลว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
นอกจากเหตุการณ์นี้แล้วก็ยังมีเหตุการณ์ที่เด็ก 8 ขวบมองหน้าคุณต้นอ้อ และ มองหน้าตนเองอย่างไม่ละสายตา ซึ่งตนเห็นแล้วต้องยอมรับว่ารู้สึกสงสารและเป็นห่วงเด็กที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้รวมถึงมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมในห้องพิจารณาคดี
สำหรับการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกสืบพยานฝ่ายโจทก์ได้เพียงปากเดียว คือ หมอคนสนิทน้องเชื่อมจิต ซึ่งมีการเบิกความในลักษณะว่าน้องสามารถเชื่อมจิตคุยกับองค์เทพและเบื้องบนได้ ซึ่งตนในฐานะพยานจำเลยก็มีการซักค้านในหลายประเด็น รวมถึงพยานหลักฐานทางฝั่งของตนเองเตรียมมาค่อนข้างพร้อมและนัดต่อไป30 กันยายนนี้ ภาพรวมค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล