สืบนครบาล-สืบประเวศ รวบเจ้าของเต็นท์รถย่านประเวศ นำรถมือสองติดไฟแนนซ์มาขาย ความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

จากกรณี มีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 40 ราย ถูกเต็นท์รถมือสองย่านประเวศนำรถหนีไฟแนนซ์มาขาย แต่โอนไม่ได้เพราะเล่มทะเบียนอยู่กับไฟแนนซ์ โดยติดต่อกับผู้ขายได้อย่างยากลำบากและได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เข้าแจ้งความกับ สน.ประเวศ และต่อมาได้เข้าขอความช่วยเหลือกับทนายเดชา   และ น.1 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้รับทราบเรื่องความเสียหายของประชาชนจำนวนมากจึงได้สั่งการ ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้เร่งจับกุม โดยได้สั่งการ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ระดมกำลังทีมจับกุมให้ได้โดยเร็ว เพื่อตัดตอนไม่ให้ไปก่อเหตุอีก เพราะถือว่าเป็นภัยสังคมเป็นการซ้ำเติมประชาชนผู้สุจริต

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้สั่งการให้ ...ราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สว.ฯ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ วค/1 พร้อมกำลัง ..วิศาล สุขสงบ ,...สัมฤทธิ์ แก้วสุริยา ,...หญิงชินานันท์ เทพสถิตย์ ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช..

 

 

นายสิริชัย อายุ 32 ปี ภูมิลำเนา ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการผู้ต้องตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ. 374/2567  ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ" สถานที่จับกุม หน้าร้านอาหาร ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ก่อเหตุจะโพสต์ขายรถผ่านทาง มาเก็ตเพลส ขายรถมือสองราคาถูกกว่ารถมือสองที่เต็นท์อื่นประมาณ 2-4 หมื่นบาท  โดยจะทำสัญญาซื้อขายกันที่ ศูนย์จำหน่ายรถมือสอง แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ซึ่งเจ้าของเต็นท์ อ้างว่าเป็นรถที่ได้ประมูลมาจากไฟแนนซ์ มีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาส่งมอบเล่มทะเบียนในภายหลังประมาณ 15-30 วัน เนื่องจากต้องรอเล่มทะเบียน ถ้าเกินกำหนด 30 วัน จะได้ค่าเสียเวลา 10,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายติดต่อกับผู้ขายได้อย่างยากลำบากและได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา  เมื่อถึงกำหนดขอรับเล่มทะเบียน แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา และไม่ได้รับส่งมอบเล่มแต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยมีผู้เสียหายประมาณ 40 กว่าราย เข้าร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ  มูลค่าความเสียหาย 15-20 ล้านบาท ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ไม่ขอให้การใดๆ จากนั้นได้ตัวผู้ต้องหาส่ง สน.ประเวศ ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนได้รับเสียหายเป็นจำนวนมาก ซื้อรถแต่ไม่มีเล่มทะเบียนให้ เหมือนได้รถเถื่อนมาขับ สร้างความทุกข์ใจให้ผู้เสียหาย บางคนต้องทำงานเก็บเงินเพื่อมาซื้อรถ หวังจะได้รถไปใช้งาน และก็ขอฝากเตือนผู้ที่จะซื้อรถมือสอง ขอให้ซื้อกับผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เช็คประวัติผู้ขาย ขอดูเล่มหลักฐานต่างๆก่อนซื้อ เช็กให้แน่ใจทุกครั้ง สอบถามจากคนในวงการขายรถ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อต่อไป