กรณีเมื่อวันที่ 1 ก.ค.67เวลา 19.05 น. น.ส.ณัชชา อายุ 25 ปี ได้เดินทางมายัง สภ.ป่าตอง เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ต.ฐปพน แพงพิมพ์โล้ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ว่าเมื่อวันนี้ (1 ก.ค.67) เวลาประมาณ 02.01 น.น.ส.ณัชชาได้เรียกรถยนต์แท็กซี่ในแอป จากพูนผลไนท์พลาซ่า ในเมืองภูเก็ต ให้มาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยมีชายไทยอายุประมาณ 30 ปี เศษ เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งต่อมาเมื่อถึงห้องพัก ผู้แจ้งได้ลงจากรถและเดินเข้าห้องพักและเข้านอนและได้เผลอหลับไป มารู้สึกตัวประมาณ 03.00 น.น.ส.ณัชชา พบว่ามีชายนอนกับน.ส.ณัชชาอยู่บนที่นอน ด้วยความตกใจจึงได้เปิดไฟ จาก โทรศัพท์ พบว่า มีชายนอนอยู่ข้างกับน.ส.ณัชชา ด้วยความตกใจ จึงได้วิ่งเข้าห้องน้ำ และโทรศัพท์หาเพื่อนผู้แจ้ง และเปิดประตูห้องน้ำออกมาดู พบว่าชายดังกล่าวเป็นชายคนเดียวกับผู้ขับขี่รถยนต์แท็กซี่ ซึ่งต่อมาชายคนดังกล่าวเปิดประตูและขับขี่รถออกไป ผู้แจ้งจึงมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปนั้น

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพูดคุยกับนางสาวณัชชา ผู้เสียหาย เธอเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเองกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต หลังจากเที่ยวสถานบันเทิงเสร็จ ตัวเองได้มีการเรียกใช้บริการแอปเรียกรถ กระทั่งนายสมชาย คนขับ ได้ขับรถมารับตัวเอง จากนั้นตัวเองได้ให้นายสมชาย พาขับออกนอกเส้นทางไปเอาของกับเพื่อน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะให้เขามาส่งตัวเองที่หอพักจุดเกิดเหตุ 

 

ซึ่งตอนที่หอพักจุดเกิดเหตุตัวเองก็ยอมรับว่าตัวเองได้มีอาการเมาและได้เผลอหลับไป จนนายสมชายได้ปลุกตัวเอง จากนั้นตัวเองก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็ลงจากรถ ก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปยังห้องพักที่ชั้นหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็เปิดประตูห้องเข้าไปตามปกติ และไม่เห็นว่ามีใครเดินตามหลังมา ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปเข้าห้องน้ำทำธุระอยู่สักพัก จากนั้นตัวเองก็เดินกลับมายังที่นอน แล้วมานอนลงบนที่นอน (ไฟในห้องนอนปิดอยู่) ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็รู้สึกตกใจ เมื่อไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนขับรถมานอนข้างๆตัวเอง บนที่นอน ตอนนั้นตัวเองทำตัวไม่ถูกและได้ตั้งสติเดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่ตัวเองจะวิดีโอคอลไปหาเพื่อนชาย แล้วเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้เพื่อนฟัง พร้อมกับวิดีโอคอลให้เพื่อนดูผู้ชายคนนั้นนอนบนเตียงนอนของตัวเอง แล้วชายคนดังกล่าวก็ได้ไปนั่งเล่นกับแมวตัวเองที่ปลายเตียง ตัวเองจึงถ่ายรูปภาพนิ่งเอาไว้ 

 

กระทั่งเวลาประมาณตีสามกว่าเพื่อนของตัวเองมาถึงที่ห้อง ตัวเองก็พบว่าผู้ชายคนดังกล่าวได้ออกจากห้องตัวเองแล้วก็ขับรถออกไปแล้ว 

 

โดยตัวเองรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตัวเองก็ยืนยันกับ ทีมข่าวช่องแปดว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตัวเองยังไม่ถูกชายคนนั้นจะทำอนาจารบนร่างกายตัวเองแต่อย่างใด แล้วตัวเองก็ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเรียกให้ชายคนดังกล่าวเข้ามาในห้องแต่อย่างใด 

 

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตอนเช้าตัวเองก็ได้มาดูกล้องวงจรปิดและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. ป่าตองเอาไว้ และหลังจากที่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่องแปดตัวเองก็จะไปเจอกับชายคนดังกล่าวที่โรงพัก

 

จากนั้นทีมข่าวช่องแปดได้พูดคุยกับนายสมชาย ผู้ที่ถูกกล่าวหา เจ้าตัวเปิดใจว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเองก็ขับรถ ไปรับลูกค้าปกติซึ่งเขาขอให้ไปเอาของที่บ้านพักของเพื่อนเขาก่อน จากนั้นตัวเองก็ได้ไปส่งนางสาวณัชชา ที่หอพัก 

 

เมื่อไปถึงหอพักตัวเองพบว่านางสาวณัชชาได้มีอาการเมาเหล้าจนนอนหลับไป ตัวเองปลุก หญิงคนดังกล่าวทั้งใช้ไฟฉาย ทั้งใช้เสียงตัวเองเรียก แต่เขาก็ไม่ยอมตื่น จากนั้นตัวเองจึงมีการจอดรถอยู่ที่หน้าหอพักด้วยกันหลายนาที เนื่องจากปลุกฝ่ายหญิงไม่ตื่น

 

พอเริ่มรู้สึกตัว ตนเองก็ได้ขับรถไปจอดที่บริเวณใกล้กับหน้าห้องของเขา ซึ่งก่อนจะลงรถผู้หญิงคนดังกล่าวยังได้บอกกับตัวเองอีกว่า “พี่ว่างไหม ไปส่งหนูในห้องหน่อย” จากนั้นผู้หญิงคนนั้นดังกล่าวก็เดินเข้าไปในห้อง แล้วตัวเองก็เดินเข้าไปตามหลัง แต่ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 1 นาทีกว่า 

 

นายสมชายบอก 3 เหตุผล ที่ต้องเข้าไปในห้องของฝ่ายหญิง ให้กับทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า สาเหตุแรกมาจาก ฝ่ายหญิงได้ชวนตัวเองว่า “ พี่ว่างไหม ไปส่งหนูในห้องหน่อย” สาเหตุที่ 2 เนื่องจากฝ่ายหญิงเขาลืมเป็นกระเป๋าไว้ในเบาะด้านหลังรถของตัวเองจึงตั้งใจจะเอากระเป๋าไปคืน , และสาเหตุที่สามเนื่องจากฝ่ายหญิงได้ใช้บริการรถของตัวเองออกนอกเส้นทางมีส่วนต่างประมาณสองถึง 300 บาท ซึ่งตัวเองต้องไปเก็บส่วนต่างจำนวนนี้กับฝ่ายหญิงจึงตามไปที่ห้อง ซึ่งสาเหตุสำคัญก็เป็นสาเหตุที่ฝ่ายหญิงชวนตัวเองเข้าไป

 

พอตัวเองเข้าไปในห้องดังกล่าวฝ่ายหญิงก็ได้นอนบนที่นอน และตัวเองก็นอนข้างๆ ก่อนที่ตัวเองจะเห็นว่าฝ่ายหญิง มีอาการซึมคล้ายจะร้องไห้ตัวเองจึงเอามือไปที่ฝ่ายหญิงประมาณหนึ่งถึงสองครั้ง จากนั้นตัวเองก็ได้นอนเล่นกับแมวของฝ่ายหญิง และยังถามฝ่ายหญิงอยู่เลยว่าแมวชื่ออะไรน่ารักจัง ฝ่ายหญิงก็ตอบตัวเองว่า “แมวชื่อว่าอีพลอย” ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอตัวเข้าห้องน้ำไปอาเจียน ตอนนั้นตัวเองก็ตั้งใจว่าจะกลับออกมาจากห้องของฝ่ายหญิงแล้ว แต่คิดว่าถ้าออกจากห้องไปตอนนั้นหากทรัพย์สินของฝ่ายหญิงภายในห้องเค้าสูญหายตัวเองจะซวยไปด้วย จึงรอให้ฝ่ายหญิงออกมาเพื่อจะบอกเขาว่าตัวเองจะออกไปตัวเปล่านะ ซึ่งพอฝ่ายหญิงออกมา เขาก็ได้พูดกับตัวเองว่า “ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ พี่กลับบ้านได้เลยค่ะ” ตัวเองจึงลุกจากที่นอนแล้วเดินออกมาจากห้อง ก่อนที่จะขับรถออกมาจากหอพักดังกล่าว

 

ซึ่งตัวเองยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะไปลวนลามฝ่ายหญิงแต่อย่างใด และตัวเองก็ยังไม่ได้ก่อเหตุหรือทำอนาจารกับฝ่ายหญิงอีกด้วย ตัวเองเข้าไปในห้องเขาเพราะคิดว่าเ-าชวนเข้าไปเท่านั้น

 

วันนี้ตัวเองก็อยากเจอหน้าฝ่ายหญิงและอยากจะขอโทษเขากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 



หลังให้สัมภาษณ์พบว่านางสาวณัชชาได้เดินทางมาที่สภ. ป่าตอง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาไปพูดคุยเจรจากันอยู่ในห้องโดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านใน 

 

หลังใช้เวลาเจรจากันประมาณ 1 ชม.เสร็จ (เจรจา 15.30-16.30 น.) เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้นางสาวณัชชาผู้เสียหาย มาชี้รถเก๋งคันเกิดเหตุเพื่อยืนยันและใช้ประกอบสำนวน รวมถึงชี้ตัวของนายสมชายเจ้าของรถคันแดงดังกล่าวดังกล่าวอีกด้วย

 

จากนั้นทีมข่าวช่องแปดได้สอบถามนางสาวณัชชาผู้เสียหายอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่าตอนที่มีการเจรจากับนายสมชายอยู่ในห้องนั้น ส่วนใหญ่นายสมชายก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับตัวเองมากจะมีแต่ขอโทษตัวเอง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งตัวเองก็ยืนยันคำเดิมว่าตัวเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด 

 

ทีมข่าวสอบถามนางสาวณัชชาว่าได้เป็นฝ่าย พูดเชิญชวนพาฝ่ายชายเข้าห้องหรือไม่ ซึ่งนางสาวณัชชาก็ได้บอกทีมข่าวว่า ถึงคืนเกิดเหตุตัวเองจะรู้สึกเมาจากการไปเที่ยวสถานบันเทิงมาบ้าง แต่ตัวเองก็จะมีการทุกอย่างได้ดี และตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนที่เชิญชวนฝ่ายชายเข้าห้องแม้แต่คำเดียว เพราะตอนที่ตัวเองเดินเข้าห้องก็ไม่ได้เห็นว่าฝ่ายชายเดินตามหลังมา ตัวเองมารู้ตัวอีกทีตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วมาเจอว่าฝ่ายชายนอนอยู่บนที่นอนแล้ว และตัวเองก็รู้สึกตกใจมาก 

 

ส่วนที่ตัวเองไม่ตะโกนขอความช่วยเหลือ เพราะตัวเองต้องการที่จะโทรหาเพื่อนชายให้ช่วยตัวเองมากกว่า

สาวเมาช็อก! เรียนรถผ่านแอปฯ เจอชายแปลกหน้านั่งเล่นแมวข้างเตียง