จากกรณีเมื่อวานนี้หลังจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกรางวัลงวดวันที่ 1 ก.ค. 2567 โดยรางวัลที่ 1 ออกหมายเลข 434503 ภายหลังจากออกรางวัลในส่วนของผู้ถูกรางวัลกับ ลอตเตอรี่พลัส ของ นอท พันธ์ธวัช โดยงวดนี้มีผู้ถูกรางวัลใหญ่กลายเป็นเศรษฐีใหม่อีกแล้ว ซึ่งผู้โชคดีถูกรางวัลที่ 1 ถึง 8 ใบ เป็นเงิน 48 ล้านบาท แยกเป็นนายโยเซฟ จากจ.แม่ฮ่องสอน ถูก 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้าน ชาวสุราษฎร์ธานี ถูก 1 ใบ เป็นเงิน 6 ล้าน ชาวฉะเชิงเทรา ถูก 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้าน
ซึ่งย้อนกลับไปงวดวันที่ 1 มี.ค. 2567 นายโยเซฟ ซื้อเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ถูกรางวัลที่ 1 ถึง 14 ใบ เป็นเงิน 84 ล้านบาท โดยมีคลิปปรากฏในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเจ้าของร้านอาหาร ยังได้โพสต์คลิปวันที่ 9 มีนาคม ขณะที่ นอท กองสลากพลัส พร้อมกับทีมงานเดินทางมาพบกับนายโยเซฟ ที่ร้านอาหารตัวเองใน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งขณะนั้นนอท กองสลากพลัส บอกกับนายโยเซฟว่า ภายหลังที่ทราบว่านายโยเซฟอยากเจอกับนอท ตัวของนอทก็รีบมาหานาโยเซฟเพื่อมาแสดงความยินดีทันที ที่เจ้าตัวถูกรางวัลที่ 1 ถึง 14 ใบ เป็นเงิน 84 ล้านบาท ซึ่งนายโยเซฟก็แนะนำตัวว่าเป็นชาวอินโดนีเซีย แต่มาทำงานที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำงานที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับการช่วยเหลือชาวพม่าที่หนีจากสงคราม ซึ่งก็ดีใจมากที่ถูกรางวัลดังกล่าว
วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมาที่องค์กรช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสถานที่ทำงานของนายโยเซฟ ซึ่งเป็นอาสาสมัครขององค์กรดังกล่าว ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามเพื่อนร่วมงาน แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่ไม่ให้ข้อมูลกับทีมข่าว ระบุเพียงนายโยเซฟยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใด ๆ กับทีมข่าว เนื่องจากทางนายโยเซฟขอความเป็นส่วนตัว
ต่อมาทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางสาวเจน (นามสมมติ) อายุ 38 ปี เป็นชาวบ้านที่อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอยู่ใกล้เคียงในชุมชนเดียวกันกับสถานที่ทำงานของนายโยเซฟ ผู้ดวงดีถูกรางวัลที่ 1 ลอตเตอรี่พลัส งวดวันที่ 1 มีนาคม 2567 จำนวน 14 ใบ มูลค่า 84 ล้านบาท และ งวด 1 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 ใบ 30 ล้านบาท ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 สองงวดในรอบครึ่งปี 2567
นางสาวเจน บอกว่า ปกติแล้วนาโยเซฟทำงานที่องค์กรดังกล่าวมาประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป คือช่วงเที่ยงก็ออกไปกินข้าวที่ร้านค้าของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับที่ทำงาน ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมากับเพื่อนร่วมงานปกติและเป็นคนอัธยาศัยดีจิตใจดีชอบพูดคุยกับชาวบ้าน ที่ผ่านมาก็ทราบว่านายโยเซฟเป็นคนที่ชอบเสี่ยงดวงโดยการซื้อลอตเตอรี่จำนวนมาก แต่ตนไม่ทราบว่าซื้อในราคาหลักใดในแต่ละงวดก็ซื้อมาแบบนี้หลายปีแล้ว
แต่ที่ตกใจสุดคืองวดที่ 1 มีนาคม 2567 ทุกสื่อประโคมข่าวว่ามีชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนถูกลอตเตอรี่พลัสจำนวน 14 ใบ มูลค่า 84 ล้านบาท และขอสืบทราบก็พบว่าเป็นลูกค้าที่เคยมากินข้าวร้านของตน ซึ่งตอนนั้นตนก็ดีใจที่ลูกค้าที่เคยมากินข้าวดวงเฮงถูกรางวัลเยอะขนาดนี้ แต่ปรากฏว่าหลังนายโยเซฟได้รับเงินรางวัลก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปคือเก็บตัวเงียบ ตอนนั้นก็เข้าใจว่าไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของชาวบ้านอีกครั้ง คงกลัวเรื่องความปลอดภัยเพราะเจ้าตัวก็เป็นคนต่างชาติคือเป็นชาวอินโดนีเซีย
แล้วก็ทราบจากเพื่อนร่วมงานที่ทำงานที่เดียวกัน ว่านายโยเซฟลาออกจากองค์กรดังกล่าวแล้วไปอยู่บ้านพักของพ่อแม่บุญธรรมที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งพ่อแม่บุญธรรมของเจ้าตัว พ่อเป็นชาวต่างชาติ ส่วนแม่เป็นคนไทยมีฐานะร่ำรวยและมีมรดกแต่ไม่มีลูกแล้วรับนายโยเซฟเป็นลูกบุญธรรม ก็เลยคิดว่านาโยเซฟน่าจะอยู่ที่เชียงใหม่ไม่น่าจะอยู่ที่แม่ฮ่องสอนเพราะไม่เจอเจ้าตัวเลย
แต่พองวดล่าสุดวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ทุกสื่อประโคมข่าวอีกครั้งว่า นายโยเซฟถูกลอตเตอรี่พลัสรางวัลที่ 1 อีกแล้ว จำนวน 5 ใบ 30 ล้านบาท ตนก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจทันทีว่า ทำไมถึงดวงเฮงขนาดนี้หรือเป็นคอนเทนต์เพราะน้อยมากที่จะมีคนโชคดีในลักษณะดังกล่าว แต่หากเป็นความโชคดีจริงก็น่ายินดี แต่คนเราไม่น่าจะถูกรางวัลที่ 1 ติดกันสองงวดภายในครึ่งปี ซึ่งมองว่าผิดปกติ
ต่อมาทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนายเจมส์ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของนายโยเซฟ บอกว่า ตนเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของนายโยเซฟ ทำงานด้วยกันถึง 8-9 ปี ซึ่งหลังจากที่ตนลาออกจากองค์กรดังกล่าวก็ยังคงโทรศัพท์พูดคุยกับนายโยเซฟอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งตอนที่เจ้าตัวถูกรางวัลที่ 1 ในงวดวันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นจำนวน 84 ล้านบาท ตนยังโทร. ไปแสดงความยินดีกับเพื่อนที่ถูกรางวัลและได้เงินจำนวนมาก แต่พอเมื่อวานนี้ก็ทราบมาอีกว่าเพื่อนของตนถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงินรางวัลอีก 30 ล้านบาท ก็ดีใจกับเพื่อนที่ถูกรางวัลอีกครั้งแต่ยังไม่ได้โทร. ไปแสดงความยินดี โดยนายโยเซฟเก็บตัวเงียบและไม่ได้พูดคุยกับใครตั้งแต่ถูกรางวัลเมื่อวานนี้
ในส่วนที่หลายคนสงสัยว่านายโยเซฟซื้อลอตเตอรี่ในจำนวนแต่ละงวดเยอะหรือไม่ ตนเองยืนยันว่าเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบเสี่ยงดวง เสี่ยงโชค ก็จะซื้อเยอะในแต่ละงวดอยู่แล้ว ในส่วนจำนวนไม่ทราบว่าซื้อในหลักใด โดยซื้อทั้งลอตเตอรี่ไทยลอตเตอรี่พลัสและรวมถึงใต้ดิน ซึ่งนายโยเซฟเป็นคนโสดยังไม่มีภาระเกี่ยวกับเรื่องลูกและเมีย จึงไม่ได้ต้องกังวลมากนักในเรื่องของการใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือน ชีวิตประจำวันของเจ้าตัวในแต่ละวันก็จะทำงานทั้งวันทั้งคืน และซื้อลอตเตอรี่เก็บไว้เพื่อเสี่ยงดวงเป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล
ซึ่งเงินในแต่ละเดือนเป็นคนที่บริหารเงินจัดการเงินได้เก่งมาก แม้จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวบางส่วน แต่นายโยเซฟก็สามารถที่จะจัดสรรได้อย่างลงตัวรวมถึงแบ่งเงินซื้อลอตเตอรี่ในแต่ละเดือนด้วย มีมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นคือนอกจากเจ้าตัวจะชอบซื้อลอตเตอรี่ไว้เสี่ยงดวง ก็ยังซื้อลอตเตอรี่เอามาแบ่งปันให้กับลูกน้องที่อยู่ในองค์กรเดียวกัน โดยตอนที่ตนเองทำงานกับนายโยเซฟก็ยังเคยได้ลอตเตอรี่จากนายโยเซฟ เพราะเจ้าตัวชอบซื้อลอตเตอรี่มาแจกเพื่อนร่วมงาน หากถามว่าลูกน้องนาโยเซฟถูกลอตเตอรี่บ้างหรือไม่ คำตอบคือไม่แต่อย่างว่าดวงเกี่ยวกับโชคลาภไม่เหมือนกันในแต่ละคน ลูกน้องได้ลอตเตอรี่ฟรีแต่ไม่เคยถูกรางวัลแต่นายโยเซฟซึ่งเป็นหัวหน้าซื้อจำนวนเยอะแล้วก็ถูกบ่อยติดกันหลายงวด
หากจะถามว่าที่ผ่านมานายโยเซฟได้รับรางวัลจากลอตเตอรี่เยอะหรือไม่ ตกปีละประมาณ6-7 งวดที่เจ้าตัวจะต้องเอาลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินรางวัล แต่ส่วนใหญ่จะถูกเป็นเลขสองตัวท้าย สามตัวท้าย หรือเลขหน้าสามตัวเท่านั้น ไม่เคยเฉียดรางวัลใหญ่ มีระยะหลังที่เจ้าตัวเริ่มหันไปเล่นลอตเตอรี่พลัสแล้วถูกกลางวันเยอะขนาดนี้ ยืนยันนายโยเซฟเป็นคนจิตใจดี ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือคนและเป็นที่รักของทุกคน ซึ่งเจ้าตัวยังมีพ่อแม่บุญธรรมในไทยที่เชียงใหม่ แล้วพ่อแม่บุญธรรมก็รักนาโยเซฟมากรักเหมือนลูกแท้ ๆ มองว่าฐานะของพ่อแม่บุญธรรมก็ค่อนข้างดีในเรื่องการเงินนายโยเซฟไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร
ส่วนประเด็นที่ชาวโซเชียลตั้งข้อสงสัยว่าการที่นายโยเซฟถูกลอตเตอรี่พลัสรางวัลที่หนึ่งสองงวดซ้อนกัน ถูกจริงหรือเป็นคอนเทนต์ ตนก็มองว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติเพราะถูกรางวัลที่ 1 ในงวดที่ใกล้กันก็คือครึ่งปีถูกมาแล้วสองครั้ง ซึ่งเป็นรางวัลที่ 1 เหมือนกัน แต่ตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง ตนก็งง ๆ เหมือนกันก็มองว่าเฟคนิวส์หรือเปล่า หรือมีซัมติงหรือเปล่า
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาพูดคุยกับ อาจารย์ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า มันมีหลายคนที่การแสดงออกทางกาย ไม่ตรงไปตามความคาดหวังของคนส่วนใหญ่ อย่างกรณี คนเสียใจ ดีใจ เศร้า อาจมีการคาดหวังว่าต้องแสดงแบบนี้นะในหัว แต่พอเขาไม่แสดงตรงตามความคาดหวังก็อาจจะมองว่าผิดปกติ แต่จริง ๆ มันเป็นเรื่องปกติ แต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ซึ่งถ้าดูจากคลิปตอนที่เอาเงินไปให้ตอนถูก 84 ล้านนั้น เขาเริ่มเล่าว่าทำงานอะไรมีการใช้มือ ซึ่งการใช้มือมันคือการแสดงออกว่า พูดจริง แต่พอมาเป็นพูดถึงที่มาและการถูกรางวัล อารมณ์ความดีใจมันน้อยไปนิดหนึ่ง สำหรับคนถูกรางวัลขนาดนี้ แต่มันอาจจะเป็นเพราะมีการพูดเรื่องนี้หลายครั้งมาแล้ว เพราะการอัดคลิปมันคงไม่ใช่ครั้งแรกในการพูดถึง เพราะว่าเวลาจะดูด้านอารมณ์หรือพฤติกรรมต้องดูตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้รับ แต่ถ้าคุยเรื่องเดิม 10 ครั้ง มันก็คงไม่ตื่นเต้นแล้ว
และในตัวอย่างที่สองในกรณีของการถูกรางวัล 30 ล้าน จากน้ำเสียงนั้นเป็นในทางเดียวกัน ลักษณ์มูน แอนท์ โทน ของเสียง เป็นในทิศทางเดียวกันกับ 84 ล้าน ซึ่งมันสามารถเกิดได้ในหลาย ๆ ปัจจัย เช่น เคยได้มาแล้ว 84 ล้าน ครั้งนี้ 30 ล้าน ก็คงไม่ต่างกัน ซึ่งข้อเท็จจริงว่าเขาถูกหรือไม่ มันก็ไม่สามารถเอาเรื่องภาษากายไปบอกได้ มันไม่ได้มองพฤติกรรมในแบบของพฤติกรรมการฆ่าคน เพราะพฤติกรรมของคนทำผิดเหล่านั้น มันจะการแฝงด้วยคำพูด ความรู้สึกที่เด่นชัด แต่ลักษณะนี้ มันแค่ตื่นเต้น ซึ่งสามารถแกล้งทำได้ ในสมองมีสิ่งที่เรียกว่าเซลล์กระจกสะท้อน สามารถรู้สึกได้ว่าใครแสดงกริยาที่ไม่จริงหรือจริง มันจะบอกตัวเอง ตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งอยากให้ทุกคนเชื่อตัวเอง อย่างเรื่องนี้ก็เช่นกัน