จากกรณีนายพิชิต ผู้ช่วยช่างภาพของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เสียชีวิตปริศนา หลังจากขี่รถมอเตอร์ไซค์ล้ม บริเวณ ขณะเดินทางกลับบ้านที่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ วันที่ 30 มิถุนายน รอยต่อวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งการประสบอุบัติเหตุครั้งนี้มีข้อสงสัยเนื่องจากว่าบาดแผลร่องรอยต่าง ๆ ที่พบตามร่างกายเป็นการช้ำในและเป็นบาดแผลที่หนัก เมื่อเปรียบเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ประสบอุบัติเหตุ กลับพบว่า มีรอยถลอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยอาการของนายพิชิต มีอาการ กะโหลกร้าว ตับฉีก มีเลือดออกในช่องท้อง มีเลือดไหลในสมองและอยู่ในภาวะช็อก และเสียชีวิตในวันที่ 2 กรกฎาคม
โดยพี่สาวให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุ นายพิชิตออกจากบ้านช่วงหัวค่ำ บอกว่าจะไปข้างนอกและแวะไปงานศพคนที่รู้จัก จากนั้นก็หายไปขาดการติดต่อกับทางบ้าน จนกระทั่งช่วงประมาณตีหนึ่ง ญาติบอกว่านายพิชิตประสบอุบัติเหตุอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งทันทีที่พบร่างของนายพิชิต ขณะบาดเจ็บทางครอบครัวก็เกิดความสงสัยทันทีว่าเหตุรถล้มแต่สภาพบาดแผลและร่องรอยต่าง ๆ เป็นหนักมากช้ำใน
จึงเกิดความคาใจว่า ร่องรอยบาดแผลต่าง ๆ นั้น เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ และในวันนี้นายพิชิตได้เสียชีวิต ทางครอบครัวจึงไป ลงบันทึกประจำวันขอนำศพไปชันสูตรที่ สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรบาดแผลที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอุบัติเหตุ หรือมีคนทำให้เกิดบาดแผลดังกล่าว เพราะสภาพบาดแผลต่าง ๆ รุนแรงมาก ทำให้ญาติคาใจว่าที่จริงแล้วนายพิชิตเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุหรือมีคนทำให้เสียชีวิต
ล่าสุด (2 ก.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่จุดที่เกิดอุบัติเหตุนายพิชิตรถล้ม อยู่บริเวณป่ามันทางเข้าหมู่บ้านหนองโดนอำเภออำเภอจัตุรัสจังหวัดชัยภูมิ พบว่าตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุมีน้ำดื่ม ดอกไม้ธูปเทียน มาไหว้เชิญวิญญาณบริเวณ ที่ประสบอุบัติเหตุ สิ่งที่สังเกตพบว่า ถนนที่เกิดเหตุนี้เป็นถนนดินแดง ลักษณะดินเป็นดินร่วนผสมหิน และจุดที่ประสบเหตุก็เป็นดินร่วนเพียงอย่างเดียวและป่ามัน จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าดินร่วนและนิ่มจะทำให้เกิดแรงกระแทกจนปอดฉีก กะโหลกร้าวเลือดออกในช่องท้องได้หรือไม่ตามที่ญาติคาใจ ขณะเดียวกันบริเวณจุดนี้ไม่พบกล้องวงจรปิดหรือบ้านของชาวบ้าน พบเพียงไร่มันอย่างเดียวเท่านั้น จึงไม่มีพยานบุคคลพบเห็นตอนช่วงขณะที่เกิดเหตุ มีแต่พบตอนที่ประสบเหตุแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดเพื่อนบ้าน สามารถบันทึกภาพนายพิชิต เป็นภาพสุดท้าย วันที่ 30 มิถุนายนเวลา 22.36.25 น. จะเห็นภาพนายพิชิตขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านเข้ามาในซอยข้างบ้านเพื่อนบ้าน แล้วเลี้ยวขวาออกไปยังถนน กลางหมู่บ้าน จากนั้นกล้องอีกตัวหนึ่งของร้านค้าก็เห็นภาพของนายพิชิต สอดรับกับกล้องตัวที่หนึ่งในเวลา 22.37.10 น. ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปโดยมุ่งหน้าไปยังเส้นถนนกลางหมู่บ้าน คาดว่าจะเดินทางไปที่เถียงนาที่นัดเจอกับเพื่อน ก่อนจะ เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านนางสาวรัตติพร ภรรยา นายพิชิต เปิดเผยว่า ตอนนี้ทางครอบครัวยังไม่ปักใจเชื่อประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพราะรอการผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียด ก่อนแต่สิ่งที่คาใจมากที่สุด คือสภาพรถกับสภาพร่างกายบาดแผลต่าง ๆ ที่ตรวจพบแตกต่างกันมาก โดยสภาพรถมอเตอร์ไซค์ได้รับความเสียหายเพียงแค่เล็กน้อย แต่ตัวนายพิชิต สามี กลับได้รับบาดเจ็บกับอวัยวะภายในทั้งช่องท้องและสมอง จนถึงขั้นตัดฉีกเลือดออกไม่หยุด ซึ่งถือว่ารุนแรงมากหาก เป็นอุบัติเหตุก็คงต้องชนรุนแรงจนรถพัง
แต่กรณีนี้เป็นเรื่องที่แปลกที่รถเสียหายแค่เล็กน้อยเท่านั้นจึงคลางแคลงใจเรื่องนี้มาก และต้องการทราบข้อเท็จจริง จึงตกลงกับญาติพี่น้องทุกคน จะนำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อความกระจ่างสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากอะไรกันแน่ เพียงแค่อุบัติเหตุประกอบกับความเสียหายของรถมอเตอร์ไซค์ทำให้ตับฉีก กะโหลกร้าวเลือดออกในช่องท้อง ไหปลาร้าหักได้หรือไม่
ทีมข่าวช่อง 8 สอบถาม พ.ต.อ.อาทิตย์ ฉัตรชัยรัตนเวช ผกก.สภ.จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ทางญาติได้มาทำบันทึกประจำวันขอนำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจแล้ว ซึ่งหากทางญาติไม่มาทำ ทางตำรวจก็จะต้องส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเสียชีวิตต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือมีคนทำให้บาดเจ็บจนเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยชุดสืบสวนได้ไล่กล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุแต่เนื่องจากจุดที่รถล้มไม่มีกล้องวงจรปิดจึงต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ซึ่งจากการไล่กล้องวงจรปิดก็ไม่พบความผิดปกติใด ไม่พบว่ามีใครตามหรือทำร้ายหรือมีท่าทีจะมีเรื่อง ทะเลาะวิวาท
ส่วนประเด็นเรื่องการสอบสวนก็จะต้องมีการสอบปากคำพยานที่เห็น แต่ก่อนผู้ตายออกจากบ้านและระหว่างทางไปจนถึงการพบร่างผู้ตายนอนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ของตนเองที่บริเวณ ป่ามันตำบลหนองโดน
จากการตรวจสอบสภาพรถมอเตอร์ไซค์ พบว่า บริเวณซีกขวาเกือบทั้งหมดมีร่องรอยถลอกตั้งแต่ช่วงท่อมาจนถึงช่วงแฮนด์รถ ซึ่งก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดจากอุบัติเหตุหรือไม่ โดยในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) จะมีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบรถที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ตอนนี้จึงยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งและขอให้วางใจ ตำรวจ จะให้ความเป็นธรรมและทำความจริงให้ปรากฏ