จากกรณีเมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา จับกุม นายเอกพจน์ อายุ 18 ปี และนายนันทวัฒน์ อายุ 17 ปี สองคนร้ายที่ก่อเหตุกระชากกระเป๋าครูผู้หญิงจนลมลงหัวฟาดพื้น หัวแตกปากแตกสลบคาที่ เหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านเกาะหมี ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงพักเที่ยง ได้กระเป๋าสะพายซึ่งภายในมีเงินสดอยู่ 500 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ขณะครูผู้หญิงคนนี้เดินอยู่หน้าโรงเรียน




ล่าสุด (3 ก.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 12.33.23 น. จะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาที่ร้านร้านขายของชำรอบแรก โดยมาถามแม่ค้าว่ามีร้านอาหารตามสั่งแถวนี้บ้างไหม จากนั้นเวลา 12.38.41 น. จะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเดินทางกลับมายังร้านขายของชำรอบที่สอง โดยรอบนี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เข้ามาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ไม่มีเงินจึงขี่รถออกไป




ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นครูสอนศาสนาเดินออกจากโรงเรียนเพื่อไปยังลานจอดรถ จากนั้นไม่นานจะเห็นกลุ่มของผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังครูสอนศาสนาติด ๆ ก่อนที่จะเห็นครูสอนศาสนาเดินเข้าไปยังลานจอดรถที่อยู่ขวามือ ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะขี่ตามเข้าไปและไปก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าว จะเป็นช่วงที่ หลังจากกลุ่มผู้ก่อเหตุก่อเหตุชิงทรัพย์ครูสอนศาสนาเสร็จแล้ว ก็ขี่รถออกจากลานจอดรถเพื่อหลบหนีทันที


ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม สอดรับกับกล้องวงจรปิดตัวที่ 4 จะเห็นครูสอนศาสนาเดินออกจากโรงเรียนเพื่อเดินไปยังลานจอดรถ ต่อมาไม่นานจะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถตามประกบครูสอนศาสนา เพื่อทำการชิงทรัพย์ และภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่ 7 สามารถจับภาพขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุหลังจากก่อเหตุชิงทรัพย์เสร็จแล้ว ก็ได้ขี่รถหลบหนีทันทีก่อนที่ในที่สุดจะถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา




ขณะที่คุณครูท่านนี้ชื่อครูวรรณ อายุ 52 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บหัวแตก ปากแตก เพราะล้มหัวฟาดพื้นและสลบไป ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว และเดินทางมาชี้ตัวสองคนร้ายที่โรงพัก พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยงกำลังเดินออกไปที่ลานจอดรถด้านหน้าโรงเรียน ตอนนี้รู้สึกเหมือนฝันว่าโดนกระชากกระเป๋าแล้วล้มลงจนสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็รู้ว่าถูกกระชากกระเป๋าจริง ๆ


โดยขณะที่ญาติของครูวรรณมาที่โรงพักเพื่อมาดูหน้าคนร้าย ทันทีที่เห็นหน้าเหมือนจะปรี่เข้าทำร้ายทั้งสอง ทำให้เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาห้ามปรามไว้ทัน




ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.หาดใหญ่ จ. สงขลา เพื่อติดตามกรณี 2 โจรวัยรุ่นก่อเหตุชิงทรัพย์ครูสอนศาสนา โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนันทวัฒน์ อายุ 17 ปี 1 ใน 2 โจรวัยรุ่นที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ครูสอนศาสนาออกมาจากห้องขัง เพื่อนำตัวไปส่งที่ศาลเยาวชน โดยในระหว่างที่ทางเจ้าที่นำตัวนายนันทวัฒน์ออกมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีการพูดคุยกับนายนันทวัฒน์ เจ้าตัวบอกว่า ที่ตนและเพื่อนนั้นก่อเหตุเช่นนี้เนื่องจากไม่มีรายได้ และระหว่างขี่รถไปเรื่อย ๆ ก็ไปบังเอิญเจอกับครูสอนศาสนารายดังกล่าว ที่กำลังเดินอยู่บริเวณลานจอดรถของโรงเรียน และในตอนนั้นพวกตนก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่กำลังจะชิงทรัพย์คือครูสอนศาสนา


ในตอนแรกจะเข้าไปเพื่อขอเงินดี ๆ แต่ทางครูสอนศาสนาขัดขืน พวกตนจึงผลักครูศาสนาล้มลงไป แล้วครูสอนศาสนาก็สลบไป ทำให้พวกตนตัดสินใจชิงทรัพย์สินของครูสอนศาสนา ก่อนถูกจับได้ที่บ้านพัก สุดท้ายอยากขอโทษครูสอนศาสนาเพราะพวกตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น




ส่วนผู้ก่อเหตุอีกคนคือนายเอกพจน์ อายุ 18 ปี ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนเสร็จเป็นที่เรียบร้อย หลังถูกจับทั้งสองคนได้ยกมือไหว้ขอโทษครูวรรณและสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก โดยขณะนี้อยู่ภายในห้องขังเพื่อรอทางเจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขังที่ศาลในวันพรุ่งนี้ต่อไป สำหรับนายเอกพจน์ และนายนันทวัฒน์ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยร่วมกันก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์และอยู่ระหว่างประกันตัวและคุมประพฤติ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการก่อเหตุเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ


ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังบ้านของนายเอกพจน์ อายุ 18 ปี 1 ใน 2 ผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ครูสอนศาสนา โดยเมื่อมาถึงทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับนายยอด (นามสมมติ) พ่อของนายเอกพจน์ โดยนายยอดเปิดใจกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานที่ผ่านมา ลูกชายของตนได้กลับมาบ้านพร้อมกับนายนันทวัฒน์ โดยเมื่อมาถึงนั้นก็รีบนำรถจักรยานยนต์ของตัวเองเข้ามาไว้ในบ้านทันที ซึ่งตนก็ถามว่าเอารถมาเก็บไว้ที่บ้านทำไม ลูกชายก็ไม่ตอบ


ก่อนที่ในช่วงเย็น ๆ จะมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้ามาค้นภายในบ้านของตน ซึ่งตอนนั้นตนก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะ ตอนนั้นคิดว่าลูกชายและเพื่อนน่าจะไปก่อเหตุอะไรมาแน่ ๆ แต่เมื่อถามทั้งคู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมตำรวจถึงมาบุกบ้านขนาดนี้ ทางลูกชายตนและเพื่อนก็ตอบว่า “พวกตนไปขี่รถซิ่งท่อดังมา ตำรวจจึงตามมาจับ ไม่มีอะไรมาก พ่อไม่ต้องตกใจ” และจากนั้นทางตนได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน เพราะเชื่อว่าน่าจะเข้ามายึดรถของลูกชายที่ทางลูกชายนั้นนำเข้ามาซ่อนไว้ภายในบ้าน หลังจากก่อเหตุขับรถซิ่งท่อเสียงดัง แต่เมื่อคุยกับตำรวจก็มารู้ภายหลังว่า ลูกชายและเพื่อนไปก่อเหตุชิงทรัพย์ครูสอนศาสนามา และเมื่อรู้แล้วทางตนก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายและเพื่อนของลูกชายมาทำเช่นนี้




กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตน ยอมรับว่าลูกชายเสียคนจริง แต่การที่ลูกชายเสียคนเช่นนี้ก็เป็นเพราะนายนันทวัฒน์ เพื่อนของลูกชาย ที่มักจะพาลูกชายของตนเสื่อมเสียอยู่เสมอ โดยนายนันทวัฒน์เพื่อนของลูกชาย ทางครอบครัวครอบครัวนั้นตัดหางปล่อยวัดไปแล้วไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกด้วย เพราะมักจะก่อเรื่องอยู่เป็นประจำ ซึ่งนายนันทวัฒน์ก็มีเมียภรรยาและลูก 1 คน ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ลำบากอะไร ส่วนลูกชายของตน มีภรรยาลูกน้อยอีก 2 คน ก็ยืนยันเช่นกันว่าลูกตนก็ไม่ได้ลำบากเช่นกัน แต่ที่มาก่อเหตุลักษณะนี้ก็เพราะติดเพื่อน


โดยทุกครั้งที่นายนันทวัฒน์ เพื่อนซี้เดินทางมาหาที่บ้าน ก็มักจะออกไปก่อเหตุด้วยกันเสมอ ๆ โดยครั้งล่าสุดไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์กันมา ครั้งนั้นก็ไปประกันมาตั้ง 8,000 บาท ต้นก็คุยกับลูกชายว่าขอให้เลิกคบเพื่อนคนนี้ไปเลย แล้วไปเริ่มเริ่มต้นชีวิตใหม่ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ ลูกชายตนก็เข้าใจและสัญญาว่าจะทำตาม แต่ถึงกระนั้นพอเพื่อนคนนี้กลับมาหาอีกก็มาก่อเหตุอีกเหมือนเดิม


สุดท้ายนี้ตนเองคงจะไม่ไปประกันลูกอีกแล้ว และอยากให้ลูกชายเข้าไปรับโทษภายในเรือนจำ จะได้สำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป และขอยืนยันว่าคนนั้นสอนลูกจนไม่รู้จะสอนยังไงแล้วว่าให้เป็นคนดี แต่ลูกก็ไม่เคยปฏิบัติตามเลย ยังคงฟังเพื่อนเล่นยาน้ำกระท่อม ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายไปทั่ว หักออกมาจากเรือนจำแล้วยังคงก่อเหตุลักษณะนี้อีกตนเองคงไม่ขอยุ่งกับลูกอีก

 

รวบ 2 โจรแสบ! กระชากกระเป๋าครูสาวล้มหัวฟาดพื้น