จากกรณีเมื่อเวลา 22.30น.วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุ ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยฯ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ รีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้าร้านขายของชำร่วย พบนายพุฒิพงษ์ อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกมีดฟันเข้าที่แขนซ้าย อีกรายคือนายภูริเดช อายุ 27 ปึ ถูกฟันเข้าที่แขนซ้ายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เจ้าที่กู้ภัยฯให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง

สอบถามนายพุฒิพงษ์ อายุ 21 ปี ทราบว่า ตนเองและพี่ชายทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดระยอง ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุ มาเสนอขายน้ำมันเถื่อน ที่ลักลอบสูบออกจากรถโม่ปูน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงตอบปฏิเสธไป ไม่นานก็ยกพวกกันมา 5-6 คน เข้ามาทำร้ายพี่ชาย แล้วใช้มีดฟันกันอย่างชุลมุน จนได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังสภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี ซึ่งทราบข่าว นายโชคอนันต์ หรือหรั่ง คนขายน้ำมัน (ฝั่งผู้ก่อเหตุ) ได้เข้ามอบตัวแล้ว โดยทีมข่าวได้พบกับนายหรั่ง หลังจากสอบปากคำเสร็จ จึงพยายามถามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร และน้ำมันนั้นเป็นน้ำมันเถื่อนจริงหรือไม่ ซื้อขายกันกี่บาท โดยนายหรั่งตอบเพียงว่า ก็ตามที่รู้แหละครับ

พอทีมข่าวถามต่อว่าใครยกมีดขึ้นมาฟันกันก่อน หรือรู้จักกับคนเจ็บ 2 คนหรือไม่ นายหรั่งไม่ตอบคำถามใดๆ และเดินเข้าห้องสอบปากคำไป

โดยทางตำรวจให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าสำหรับคดีนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเป็นการทะเลาะวิวาทกัน ส่วนเรื่องน้ำมันเถื่อนนั้น ทางตำรวจได้มีการประสานไปยังบริษัทต้นสังกัดของนายหรั่งแล้วทราบว่า 

กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นลูกน้องของบริษัทซัพพลายเออร์ที่บริษัทของเขาจ้างให้มาทำงาน โดยกระบวนการทำงานบริษัทของเขาจะจ้างซัพพลายเออร์เพื่อให้หาคนมาขับรถขนอิฐ หิน ปูนทราย ที่อยู่ในบริษัทไปส่งตามจุดต่างๆที่กำหนด

โดยจะให้ค่าจ้างกับบริษัทซัพพลายเออร์เป็นรอบต่อ 1 วัน ซึ่งการทำรอบก็จะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับงานในแต่ละวันแต่รอบจะเริ่มตั้งแต่ 4 รอบเป็นต้นไปต่อวัน โดยการเหมาและจะให้เงินก้อนไปกับบริษัทซัพพลายเออร์เพื่อไปบริหารจัดการค่าลูกจ้างค่าน้ำมันต่างๆเอง

ส่วนกรณีที่ลูกจ้างของบริษัทซัพพลายเออร์นำน้ำมันไปขายนั้น ทางบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเนื่องจากว่าทรัพย์สินและเงินต่างๆถูกโอนให้บริษัทซัพพลายเออร์แล้วเป็นการบริหารจัดการของซัพพลายเออร์เองจะเอาน้ำมันที่เหลือ ปูนที่เหลือไปขายก็สุดแล้วแต่กระบวนการจัดการและการบริหารของซัพพลายเออร์

เพราะว่าบริษัทจ้างเหมาไปแล้วสินทรัพย์ทุกอย่างเป็นของผู้รับเหมาทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และการนำน้ำมันไปขายก็ไม่ใช่น้ำมันเถื่อนแต่เป็นน้ำมันที่เหลือจากการเดินรถในแต่ละรอบเท่านั้นเป็นการเก็บสะสมของลูกจ้างของซัพพลายเออร์ไม่ได้เป็นการขโมยแต่อย่างใด

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เจอกับนางมานี (นามสมมุติ) ภรรยาของนายหรั่ง ฝั่งผู้ก่อเหตุ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ข่าวออกไปว่าพวกตนเป็นแก๊งค้าน้ำมันเถื่อน พวกตนเสียหายมาก พี่ฝั่งตนก็เจ็บ โดนฝั่ง 2 พี่น้องนั้นฟันนิ้วขาด พวกตนก็รีบส่งพี่เขาไปโรงพยาบาล

เมื่อคืนที่เข้าไปขายน้ำมันตนเองก็เข้าไปกับสามี 2 คน แต่ตนไม่ได้ลงรถ จากนั้นพอเขาไม่เอาน้ำมันจึงขับรถไปจอดด้านหน้ากอพักแล้วก็คุยกัน 2 คนกับสามี ว่าทำไมฝั่งคนเจ็บนั้นเขาพูดกันแบบนี้เหมือนหาเรื่อง และทำท่าเหมือนจะตีสามีตน เหมือนไม่พอใจที่สามีตนไม่ขายน้ำมันให้ในราคาที่เขาต้องการ

จากนั้นสามีตนจึงโทรไปเล่าให้เพื่อนฟัง ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพื่อนจึงมาหาเพื่อจะมาเคลียร์กับฝั่งคนเจ็บนี้ โดยพวกตนเข้าไปประมาณ 7 คน ไม่ได้ตั้งใจจะไปทำร้าย เพียงอยากเคลียร์เท่านั้น แต่ทางคนเจ็บเขามีมีดอยู่แล้ว และก็มาทำฝั่งพวกตนก่อน พี่ๆของนายหรั่งสามีตน จึงไปหยิบมีดที่รถมา และก็เริ่มตีกัน ยืนยันว่าฝั่งคนเจ็บชักมีดมาจะทำร้ายฝั่งตนก่อน ตนมองว่าเป็นการทะเลาะวิวาททั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่พวกตนไปรุมทำร้าย

ส่วนเรื่องน้ำมันพวกตนไม่ใช่แก๊งค้าน้ำมันเถื่อน ตามที่ข่าวออกไปก่อนหน้านี้ พวกตนทำงานขนของ บริษัทก็ให้น้ำมันอยู่แล้ว น้ำมันเหลือจากวิ่งงาน พวกตนถึงจะได้เอามาขายกัน ไม่ได้ไปขโมยมา

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่หน้าร้านขายของชำ โดยบริเวณภายในร้านค้า ยังคงหลงเหลือคราบเลือดหยดเป็นบางจุด เข้าไปถึงเตียงนอนหลังร้าน และยังพบเศษไข่ไก่ที่แตกอยู่ที่พื้นยังทำความสะอาดไม่หมด

จากการสอบถามนางเริ่ม อายุ 60 ปี เจ้าของร้านที่เกิดเหตุ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อคืนนี้คนเจ็บ 2 คน นั่งอยู่หน้าร้านตน จากนั้นฝั่งคนก่อเหตุก็มาตะโกนท้าทายอยู่หน้าซอยเข้าหอข้างหน้า ตนจึงบอกคนเจ็บว่าอยู่เฉยๆ ไม่ต้องออกไป จากนั้นฝั่งคนก่อเหตุก็วิ่งกันเข้ามา แล้วก็มากระชากเสื้อคนเจ็บก่อน แล้วก็ถามคนเจ็บว่ามึงมีปัญหาอะไรกับกู คนเจ็บก็บอกไม่มี จากนั้นเขาก็เนิ่มทะเลาะกันตีกัน เข้ามาในร้านตน

ตอนแรกฝั่งคนก่อเหตุเขาเคยโทรมาเสนอขายน้ำมันให้ตนกับสามีถังละ 900 บาท เมื่อเดือนที่แล้ว ตนกับสามีก็เห็นว่ามันถูกดีก็เลยให้เขาเอามาตนจะซื้อ แต่พอเมื่อคืนเขาเอามากลับมาขายให้ 950 ตนก็ว่าทำไมขึ้นราคา คนเจ็บก็เลยไม่พอใจว่าผิดคำพูด ตอนแรกบอก 900

ตนเองก็ไม่ได้รู้จักกับฝั่งคนก่อเหตุมาก่อน รู้เพียงว่าเป็นคนส่งปูนเขาเคยมาส่งปูนให้ข้างในหอนี้ ตนเลยมีเบอร์เขาไว้

โดยตอนเขาเอาน้ำมันเข้ามาเมื่อคืน เข้ามาแค่คนเดียว พอพวกตนไม่เอา เขาก็ยกกลับไปขึ้นรถ แล้วขับไปจอดอยู่ที่หน้าทางเข้าหอ จอดอยู่นานเลย ตนยังคุยกับสามีเลยว่าทำไมเขาจอดนานจัง ไม่ใช่เรียกพวกมาหรอ สรุปคือเรียกพวกมาจริงๆ หลายคน

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 21.52 น. นายโชคอนันต์ หรือหรั่ง ฝั่งคนก่อเหตุ ได้ถือถังน้ำมันที่จะขายให้ร้านค้าและคนเจ็บ เข้ามาในร้าน 2 ถัง 

////วงจรปิด 1////

โดยต่อมาจะได้ยินเสียงคนคุยกันเรื่องราคาน้ำมันว่าจะขาย 950 แต่ฝั่งเจ้าของร้านค้าก็บอก 900

////วงจรปิด 2////

ต่อมานายโชคอนันต์ หรือหรั่ง ฝั่งคนก่อเหตุ ก็ได้เดินมาหยิบน้ำถังน้ำมันกลับคืนไป

////วงจรปิด 3////
จากนั้นในเวลา 22.24 น. (เวลากล้องช้าไป 1 ชม.) นายโชคอนันต์ หรือหรั่ง ก็ได้พาเพื่อนกลับมาหาฝั่งคนเจ็บที่ร้าน โดยมากันทั้งหมด 7 คน

////วงจรปิด 4////

จากนั้นฝั่งของนายโชคอนันต์ หรือหรั่ง ก็ได้เข้ามากระชากคอเสื้อนายภูริเดช คนเจ็บ ก่อนจะเริ่มทะเลาะกัน โดยนายภูริเดชได้ เอามือมาจับด้ามมีดที่ด้านหลังกางเกงที่พกติดไว้ และพยายามดูเชิง ก่อนจะเริ่มมีปากเสียงกันค่อนข้างดังจนกล้องจับเสียงแตกฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง

จากนั้นนายเอก พี่ของนายโชคอนันต์ หรือหรั่ง ก็ได้เอื้อมมือไปหยิบมีดสปาต้า จากเพื่อนอีกคนที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะเข้ามาไล่ฟันนายภูริเดช นี้ในร้านค้า

////วงจรปิด 5////

จากนั้นในเวลา 22.30 น. (เวลากล้องช้าไป 1ชม.) จะเห็นรถกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขับออกไป

////วงจรปิด 6////

และรถกู้ภัยก็เข้ามาในเวลา 22.48 น.