จากกรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม2567เวลา 18.47 น. ได้มีคนร้ายคือด.ช.ดิว อายุ 15 ปี พร้อมอาวุธมีดสปาต้า ยาว ประมาณ 70 ซม. มารอซุ้มอยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่บ้านปลวก ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกัน น.ส.เก๋ ผู้เสียชีวิตอายุ 42 ปี ซึ่งถูก ด.ช.ดิว ได้ใช้อาวุธมีดสปาต้าฟันเข้าบริเวณท้ายทอยตลอดจนแขนและลำตัวจนทำให้ น.ส.เก๋ เสียเลือดมากจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

คืบหน้าล่าสุดวันนี้ทางผู้สื่อข่าวช่อง8ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร พบว่า หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ไปที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้ตาย นางสาวสุปราณี ทำทอง อายุ 42 ปี แม่เลี้ยง ส่วนผู้ก่อเหตุนายดิว อายุ 15 ปี (นายณัฐพล สีแก้ว ) ได้หลบหนีไปกลางทุ่งนาจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายดิวผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะส่งตัวไปฝากขังที่ศาลเยาวชน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านนางสาวสุปราณี อายุ 42 ปี โดยลักษณะบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 

 

จากการสอบนายสุพจน์ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่าในช่วงเกิดเหตุ ตนอยู่ที่กระท่อมห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 50 เมตร จากนั้นได้ยินเสียงสุนัขที่ผู้ตายเลี้ยงไว้จำนวน 8 ตัวเห่าเสียงดัง ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติของสุนัขผู้ตายที่จะเห่าคนที่ผ่านไปผ่านมา แต่สักพักตนก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายว่านายดิว อายุ 15 ปี ก่อเหตุฟันนางสาวสุปราณีแม่เลี้ยงจนเสียชีวิต ตนจึงได้รีบวิ่งมาจากกระท่อมปลายนามาบ้านของผู้ตายก็พบว่าผู้ตายนอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ส่วนนายดิวผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี 

 

นายสุพจน์ ยังบอกอีกว่า หลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายดิวได้มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพตนเองก็ได้ไปดูการทำแผนด้วย ซึ่งก็ได้ยินนายดิวรับสารภาพว่าเก็บกดที่ถูกแม่เลี้ยงด่าเรื่องเงิน จึงก่อเหตุ 

 

สำหรับนายดิวเป็นลูกเลี้ยงของนางสาวสุปราณีผู้ตายแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน โดยนายดิวไปอาศัยอยู่กับยายที่บ้านอีกหลัง ส่วนบ้านหลังนี้พ่อของนายดิว ที่ไปทำงานต่างประเทศ ได้ส่งเงินมาสร้างบ้านหลังใหม่อยู่กับภรรยาใหม่ซึ่งเป็นผู้ตายกับลูกสาวของทั้ง 3 คน 

 

ส่วนตัวนายดิวเป็นคนไม่ค่อยพูดมีแต่ยิ้ม น้อยครั้งที่คนถามจะตอบและนายดิวผู้ก่อเหตุเองก็ไม่ได้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนจึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุการทะเลาะกันและเก็บกดของผู้ก่อเหตุ

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านของนายดิวผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านคนตายประมาณ 200 เมตร โดยบ้านของยายเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่บริเวณหน้าบ้านมีเสื้อนักเรียนของเด็กชายดิวแขวนไว้ส่วนที่บริเวณประตูหน้าบ้านพบรองเท้านักเรียนของนายดิวในสภาพเก่าถอดอยู่ที่หน้าบ้าน

 

ต่อมาเราได้พูดคุยกับนางเกษร อายุ 65 ปี ยายผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับเราว่า เมื่อ 5-6 ปีก่อนลูกสาว ซึ่งเป็นแม่ของนายดิวหลานชายได้เลิกรากันกับสามีซึ่งเป็นพ่อของนายดิว โดยทั้งสองมีมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาวคนโต และนายดิว 

 

จากนั้นลูกสาวได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนพ่อของหลานหลานชายตนเองทราบมาว่าหลังจากที่ได้ภรรยาใหม่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุประมาณ 3 ขวบ โดยอดีตลูกเขยก็ได้ไปทำงานต่างประเทศ โดยก่อนที่พ่อของหลานชายจะไปทำงานต่างประเทศได้ให้สัญญาว่าจะส่งเสียเงินให้ลูกเดือนละ 2000 บาท จำนวน 2 คนรวมเป็น 4000 บาท โดยส่งเงินผ่านมาทางแม่เลี้ยง ส่วนหลานชายถ้าจะใช้ก็ต้องไปขอแม่เลี้ยง โดยบางครั้งหลานชายไปขอเงินก็จะถูกแม่เลี้ยงตำหนิว่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง ทั้งที่หลานชายตนเองเป็นคนมัธยัสถ์และไม่ค่อยอยากจะได้ของฟุ่มเฟือย แต่ส่วนใหญ่ยอมรับว่าหลานก็อยากจะกินขนมบ้างก็จะไปขอเงินแม่แม่เลี้ยงมาซื้อ ซึ่งบางครั้งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง

 

ส่วนตนเองก็เป็นผู้พิการก็จะมีลูกสาวคนโตส่งเงินมาให้ใช้จ่ายตนก็จะนำเงินส่วนนี้ไปให้หลานไปโรงเรียนครั้งละ 60 บาท ให้เติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ไปโรงเรียน 40 บาทเหลือ 20 บาท หลานก็เอาไว้ซื้อขนมกิน 

 

ส่วนวันเกิดเหตุตนเองไปงานศพจึงไม่รู้ว่าหลานไปก่อเหตุจนกระทั่งได้ยินเสียงชาวบ้านแตกตื่นและมาบอกว่านายดิวได้ก่อเหตุฟันแม่เลี้ยงจนเสียชีวิตจากนั้นได้ขี่รถหลบหนีลงไปทุ่งนา ซึ่งในตอนนั้นตนเป็นกังวลมากกลัวหลานจะตัดสินใจคิดสั้น เพราะก่อนก่อเหตุหลานชายได้บอกกับพี่สาวว่าจะไปไม่กลับ จนกระทั่ง 6 โมงเช้าหลานได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจากทุ่งนามาที่บ้าน เพื่อมอบตัว ตนจึงได้สอบถามหลาน จึงได้ทราบว่าหลังจากก่อเหตุ หลานอ้างว่าไม่ได้หลบหนีแต่ตกใจและต้องการไปตั้งสติ จึงได้หนีไปอยู่ที่กระท่อมกลางทุ่งนาและได้ไปผูกเปลนอน จนกระทั่งเช้าจึงได้กลับมามอบตัว 

 

ส่วนปมเหตุที่หลานตัดสินใจก่อเหตุตนคาดว่าน่าจะมาจากความเก็บกดที่ไปขอเงินกับแม่เลี้ยงแล้วถูกด่า จึงทำให้หลานก่อเหตุ

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่วัดป่าบ้านปลวก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพนางสุปราณี ผู้ตาย โดยทางครอบครัวได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอย่างเรียบง่ายมีเพียงญาติพี่น้องที่ เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์มาจัดงานศพ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

 

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมิธ อายุ 19 ปี ลูกชายคนตาย เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว แม่เคยพูดกับตนเองประจำว่าน้องดิวมักจะมาขู่ฆ่าแม่กับตนและน้องสาว บอกว่า “กูจะฆ่ามึง” หลังจากไม่พอใจที่มาขอเงินแล้วไม่ได้ แต่แม่เองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าน้องไม่กล้าลงมือก่อน เนื่องจากว่าแม่ตนเองดีกับน้องดิวมาก รักเหมือนลูก แต่ที่ไม่สามารถให้เงินน้องดิวได้ทันใจเนื่องจากพ่อเลี้ยงมักจะส่งเงินมาช่วงวันที่ 10 ของเดือนแต่น้องดิวมักจะขอเงินก่อนวันที่ 10 จึงทำให้แม่ไม่มีเงินให้น้อง เพราะต้องใช้จ่ายหนี้สินที่กู้ยืมมาสร้างบ้านและค่างวดรถ 

 

ส่วนวันเกิดเหตุช่วงเช้าตนยังได้โทรศัพท์คุยกับแม่และได้พูดคุยนัดแนะกันว่าวันพฤหัสบดีนี้จะเดินทางไปทำบุญให้กับยายที่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน จนกระทั่งช่วงเย็นตนจะโทรศัพท์ไปคุยกับแม่เหมือนเช่นทุกวันแต่โทรไม่ติด ก่อนที่พ่อเลี้ยงที่อยู่ต่างประเทศจะโทรศัพท์สวนกลับและบอกว่าแม่ถูกฟันอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งในตอนนั้นตนก็คิดว่าแม่ไม่ได้เป็นอะไรมากแค่บาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่ญาติจะมาบอกความจริงทีหลังว่าแม่เสียชีวิตแล้ว 

 

ส่วนปมเหตุตนก็เพิ่งจะมาทราบทีหลังว่าน้องชายไม่พอใจที่พ่อมีครอบครัวใหม่ประกอบกับน้องชายเก็บกดเรื่องที่มาขอเงินกับแม่แต่เงินยังไม่ทันออกแม่จึงไม่มีให้จึงได้มีปากเสียงทะเลาะกัน อีกทั้งตนก็เพิ่งมาทราบว่าน้องชายติดพนันออนไลน์และต้องการนำเงินไปใช้จ่ายหนี้ 

 

และก่อนหน้านี้ก็มีเพื่อนบ้านมาบอกว่า 3 วันที่แล้วก่อนที่จะเกิดเหตุเห็นน้องดิวขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนที่บ้านอยู่ประมาณ 3 รอบ 

 

ส่วนวันเกิดเหตุก็มีคนเห็นน้องดิวขี่รถจักรยานยนต์มาวนเวียนที่บ้านอีกเช่นเคย แต่ในตอนนั้นแม่ตนไม่ได้อยู่ที่บ้านออกไปตลาดก่อนจะกลับเข้ามาบ้านในช่วงเย็นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนบ้านขี่รถจักรยานยนต์สวนออกไปและเห็นน้องดิวขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านหลังจากนั้นก็มาก่อเหตุใช้มีดฟันแม่ของตนเอง โดยในตอนนั้นมีน้องสาววัย 3 ขวบที่เห็นเหตุการณ์เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่แม่โดนฟันได้รีบวิ่งไปบอกน้องสาวสามขวบให้หนีหนีไปเพราะกลัวนายดิวจะคลั่งและทำร้ายน้องด้วย

ลูกเลี้ยงเหี้ยมฉุนแม่ให้เงินคว้ามีดฟันตาย