จากกรณีที่นายบุญธรรม อายุ 67 ปี ชาวอำเภอเสริมงาม จ.ลำปาง ถูกไฟคลอกเสียชีวิตแบบปริศนา ซึ่งจากการสอบถามนางจอม ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเย็นสามีไปดื่มสุรากับเพื่อนมาเล็กน้อยแต่ไม่เมาเมื่อมาถึงบ้านก็มีการตำหนิไปเล็กน้อยก่อนที่สามีจะเข้าไปในสวน กระทั่งประมาณเกือบตีหนึ่งเข้าสูวันที่ 22 มิ.ย. สามีก็มาตะโกนเรียกหลานให้ช่วยที่หน้าบ้าน ครอบครัวจึงพากันไปดูก็พบว่าสามีถูกไฟคลอกตามร่างกายหลายจุด




เมื่อสอบถามว่าไปทำอะไรมา เขาก็ตอบว่าให้รีบพาส่ง รพ. เท่านั้น และไม่ยอมตอบอย่างอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกสาวจึงพยายามเรียกให้คนช่วยและต่อมาคนในหมู่บ้านก็มาช่วยกันนำส่ง รพ.เสริมงาม และมาเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28มิ.ย.) ส่วนรถ จยย. ของสามีก็จอดที่หน้าบ้านคาดว่าเขาคงขี่รถ จยย. มาจากสวนเพื่อขอความช่วยเหลือก่อนที่จะจอดรถแล้วเรียกหลานลงมาช่วยส่วนรายละเอียดอื่นนั้นตนเองไม่ทราบ


ทั้งนี้ ทางญาติสงสัยการตาย ไม่เชื่อว่านายบุญธรรมจะเกิดอุบัติเหตุหรือทำร้ายตัวเองอย่างแน่นอน มือและเท้าของลุงบุญธรรมถูกไฟไหม้จนเนื้อเสียหายไปมาก จะเอาเท้าสตารท์รถ จยย. ได้ยังไง และหากสตาร์รถได้แต่มือก็หนังหลุดจนเผยให้เห็นเนื้อข้างในจะขี่รถมาได้ยังไง อีกทั้งผู้ตายเจ็บขนาดนั้นยังสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ด้วยหรือ และทำไมผู้ตายต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเพราะหากมาสภาพอย่างนั้นจะได้ไป รพ. ได้ไวขึ้นจากเดิมหรือไม่ และอย่างที่สาม คือ กองฟางที่ถูกเผาเป็นฟางที่ผู้ตายเก็บไว้คลุมหน้าดินในการเพาะปลูกกระเทียม เท่าที่ทราบผู้ตายจะหวงมาก ใครมาขอก็ยังไม่ให้แล้วผู้ตายจะเผาทำไม จึงทำให้ญาติสงสัยว่าจะมีบุคคลที่สามมาทำร้ายหรือไม่ จึงอยากขอวิงวอนให้ตำรวจและแพทย์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงด้วย นั้น




ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (3 ก.ค. 2567) นายชนะพล ชุ่มธิ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสวนท้ายหมู่บ้านอยู่ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 2 กม. โดยผู้ใหญ่บ้านได้พาไปชี้จุดบริเวณที่พบเสื้อผ้าของผู้ตาย จุดที่คาดว่าผู้ตายน่าจะตักน้ำจากโอ่งรดตัวเพื่อดับไฟ และจุดที่กองฟางถูกเผาซึ่งพบว่ามีท่อน้ำถูกเผาอยู่หลายเส้น


โดยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ดังนั้นจึงไม่มีใครทราบเรื่องราวที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น หากจะให้สันนิษฐานคาดว่าผู้ตายคงจะมาดับไฟที่กองฟาง แต่เพลิงลุกไหม้มากเปลวเพลิงคาดว่าสูงเกิน 3 เมตร เพราะดูจากสภาพของต้นไม้ที่มีใบไหม้เสียหายเป็นจำนวนมาก คาดว่าระหว่างที่ผู้ตายดับไฟคงเกิดลมหวนทำให้เปลวไฟเข้ามาทางผู้ตายจึงเกิดไฟไม้เสื้อผ้า และคงไปเหยียบท่อน้ำซึ่งมีลักษณะกลมทำให้ลื่นล้มจนเกิดไฟคลอก ก่อนที่จะตั้งสติวิ่งมาที่โอ่งน้ำข้างบ้านแล้วตักน้ำรดตัวเพื่อดับไฟที่ไหม้เสื้อผ้าก่อนที่จะถอกกองไว้ และพยายามใช้แรงที่เหลือขี่รถ จยย. กลับบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ




ซึ่งจากที่ตนเองทดลองขี่ จยย. โดยใช้ฝ่ามือและข้อแขนก็สามารถบิดคันเร่งได้อยู่และหากสตาร์รถหรือใส่เกียร์รถอาจใช้ส้นเท้าแทนการสตาร์ปกติได้ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเช่นกัน แต่ก็เคยเห็นคนแขนขาดขี่รถ จยย. ได้เช่นกันซึ่งทั้งหมดก็ต้องให้ตำรวจเป็นผู้ที่ไขปมปริศนาการตายในครั้งนี้ เพราะทุกคนก็ทำได้แค่เพียงคาดเดาเท่านั้น


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทราบว่า ลูกสาวนำคนเจ็บมาส่งที่หน้ากู้ภัยตอนนั้นลุงบุญธรรมเดินไม่ได้แล้ว ต้องพยุงตัวลงมาส่วนบาดแผลที่ชัดเจน ตอนนั้นคือแผลไฟไหม้ที่บริเวณเท้าจนเปื่อยทั้งสองข้างส่วนมือก็ถูกไฟไหม้เยอะเช่นกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นหงิกและยังมีแผลไฟไหม้ตามร่างกายอีกจึงนำส่ง รพ.เสริมงาม และมาทราบภายหลังว่าที่ขมับซ้ายผู้ตายมีรถพกช้ำ ซึ่งไม่ทราบจากสาเหตุอะไร ส่วนเรื่องที่เขาจะขี่รถ จยย. มาเองได้หรือไม่นั้นส่วนตัวบอกได้เลยว่ายากมาก เนื่องจากสภาพบาดแผลนั้นไม่อำนวยที่จะขี่รถ จยย. ได้ แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น

 

ไขปริศนาหนุ่มไฟคลอกตาย ขี่ จยย.กลับบ้านได้