"ซ้อลักษณ์" เปิดหน้าท้าชนสาบานพูดจริง ยอมรับซื้อวุฒิการศึกษาเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดนหลอกให้เชื่อ แฉหลักฐานแชตไลน์
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. เวลา 11.00 น. ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม น.ส.วิไลลักษณ์ หรือ "ซ้อลักษณ์" ผู้เสียหาย ได้นำหลักฐานมามอบให้กับตัวแทนของ มูลนิธิ ทนายรณณรงค์ เพื่อแสดงว่ามีหลักฐานการซื้อขายวุฒิการศึกษา
โดยก่อนจะให้สัมภาษณ์ น.ส.วิไลลักษณ์ ได้จุดธูปสาบานต่อพ่อปู่พญานาค และสาบานว่า "ข้าพเจ้านางสาววิไลลักษณ์ ขอสาบานตนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้าพูดออกมาเป็นเรื่องจริง ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกประการ หากไม่เป็นความจริง ขอให้ข้าพเจ้ามีอันเป็นไป ภายใน 3 วัน 7 วัน"
น.ส.วิไลลักษณ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีการซื้อวุฒิการศึกษาจริง จุดเริ่มต้นคือ ได้มารู้จักกับประธานมูลนิธิคนนี้ ตอนที่อดีตสามีทำร้ายร่างกาย แล้วเราหวังพึ่งพาเขา เพราะเราถูกกระทำ ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีใครเลย นอกจากเขาเราไว้ใจเขามาก เขาพูดอะไรเราก็เชื่อหมด บอกว่ามีรู้จักผู้ใหญ่มากมาย สร้างความน่าเชื่อถือ
ก่อนหน้าที่ ตนจะร่วมสร้างมูลนิธิด้วยกัน จึงได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือสังคมในบางกรณีและในระหว่างนั้น อีกฝ่ายบอกว่า หากอยากทำงานในวุฒิสภา ก็ควรจะมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี เนื่องจากว่าตนจบเพียงแค่ ม.6 เท่านั้น โดยอีกฝ่าย บอกว่า สามารถหาวุฒิการศึกษาได้ ซึ่งในขณะนั้นเราได้แย้งไปว่า มันผิดกฎหมาย แต่อีกฝ่ายบอกว่า “ไม่ต้องกลัว เพราะรู้จักผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยและรัฐสภาเยอะ รับรองว่าสามารถเคลียร์ได้” อีกฝ่ายยืนยันหนักแน่นจนตนเชื่อ ประกอบกับอีกฝ่ายได้ส่งหลักฐาน พวกวุฒิการศึกษาของท่านอื่น และบัตรตำแหน่งใหญ่โตในรัฐสภามาให้ พร้อมกับบอกว่า “ราคาถูกมาก” และอ้างอีกว่า “เห็นไหมว่าเรื่องแชร์ ยังเงียบเลย” เราจึงคิดว่า เขาเส้นใหญ่จริง ตนเลยหลงเชื่อ
ซึ่งโอนเงินไป 4 ครั้ง รวมแล้ว กว่า 2 แสนบาท โอนครั้งที่ 1 จำนวน 50,000 บาท , ครั้งที่ 2 จำนวน 50,000 บาท , ครั้งที่ 3 จำนวน 99,500 บาท , โอนเข้าบัญชี "คุณเกษียณ" ซึ่งได้ถามเขาว่าบุคคลท่านนี้คือใคร อีกฝ่ายบอกว่า เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เราจึงได้หลงเชื่อเขา ส่วนโอนครั้งสุดท้าย จำนวน 1,500 บาท และ โอนเข้าบัญชีของประธานมูลนิธิ
สำหรับหลักฐานที่นำมามอบให้เป็นแชตสนทนาพูดคุยกัน แต่ว่าอีกฝ่ายอ้างว่าเป็นไลน์ปลอมขึ้นมา ยืนยันว่า หลักฐานที่มีคือไลน์ของประธานคนนี้จริง เพียงแค่มีการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามตั้งแต่โอนจ่ายเงิน ตนก็ไม่ได้ไปที่มหาลัยหรือเซ็นเอกสาร เพื่อไปสมัครเรียนมหาวิทยาลัยเลย และมาทราบทีหลัง ช่วงที่มีปัญหาแล้ว ว่าชื่อตัวเองอยู่ในมหาวิทยาลัย
ส่วนเรื่องวุฒิการศึกษา ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในตอนนั้นอีกฝ่ายแอบอ้างผู้ใหญ่เยอะก็ทำให้คล้อยตาม ส่วนเรื่องการถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น ก็เคารพขั้นตอนตามกฎหมาย อย่างน้อยการที่ได้ออกมาบอกวันนี้ ก็เป็นเสียงเล็กๆที่สามารถทำอะไรได้บ้าง และอยากฝากบอกอีกฝ่ายว่า อย่าทำแบบนี้กับใครอีก พร้อมทั้งขอโทษจริง ๆ
น.ส.วิไลลักษณ์ ยืนยันหนักแน่นว่าที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่คนอื่นซื้อวุฒิการศึกษาถูกกว่าตน ยอมรับว่า มีส่วนที่ทำให้ไม่สบายใจนิดหน่อย แต่ที่ออกมาพูด คือ มองว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง
ขณะที่ นายชาญชัย ฉายบุ ทนายความ กล่าวว่าเรื่องของกฎหมาย น.ส.วิไลลักษณ์ สามารถเอาผิดทางคดีได้ เนื่องจากเข้าข่ายคดีฉ้อโกง เพราะ อ.ได้ให้ข้อมูลว่า ถ้าจ่ายเงินซื้อวุฒิแล้ว จะได้ใบวุฒิ ภายใน 4 เดือน แต่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง ยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องนี้ น.ส.วิไลลักษณ์ จะมีความผิดด้วยหรือไม่ ทนายอธิบายว่า ตอนนี้ ยังเป็นผู้เสียหายอยู่ เนื่องจากยังไม่ได้รับใบวุติการศึกษามาใช้ แต่ถ้าหากได้รับใบวุฒิและนำไปใช้ ถึงจะมีความผิดด้วย