เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกของมีคมแทงที่ท้องนอนเสียชีวิตภายในบ้าน จึงได้ออกตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน จุดคลองลาน ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 (บ้านคลองน้ำไหลใต้) ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านบริเวณเตียงนอนพบศพของ “นางพเยาว์” อายุ 54 ปี สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียง สวมเสื้อลายดอกสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ มีมีดปลายแหลม ความยาว 20 เชนติเมตร ถูกเสียบอยู่ที่กลางหน้าท้อง นอกจากนี้ยังพบกับ “นายตั้ม” อายุ 36 ปี (ลูกชาย) ยืนรอให้การกับตำรวจมีอาการมึนเมา (สุรา) โดยรับสารภาพว่าเป็นคนใช้มีดแทงแม่ของตนเอง ซึ่งก็จำไม่ได้ว่าแทงไปกี่ครั้ง รู้ตัวอีกทีหลังสร่างเมาก็ลงมือไปแล้ว ตนอยากจะขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปครั้งนี้ โดย “นางพเยาว์” ผู้เป็นแม่ป่วยเดินไม่ได้
โดยทีมข่าวได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านค้าภายในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านของไอ้ตั้มซึ่งเป็นจุดเกิด โดยได้พบว่าเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ช่วงเวลาประมาณ 18.53 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่นายตั้มจากก่อเหตุใช้มีดแทงแม่ของเขาเองนั้น นายตั้มได้มาร้านค้าดังกล่าว โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าร้าน แล้วหลังจากนั้นจึงได้เดินเข้าร้านเพื่อไปซื้อสุรา 40 ดีกรี มาหนึ่งขวด หลังจากนั้นจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้านไป ซึ่งคาดว่าหลังจากที่ได้ดื่มสุราจนหมดจึงได้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงแม่
โดยหลังจากนั้นนางสมจิตร ซึ่งเป็นญาติของนายตั้มได้พาทีมข่าวเดินดูภายในบ้านที่เกิดเหตุ โดยได้พบว่าภายในบ้านมีเตียงซึ่งเป็นเตียงนอนของนางพเยาว์ และ เป็นจุดที่ นางพเยาว์ ได้นอนเสียชีวิต ซึ่งโดยปกติแล้ว นางพเยาว์ จากกางมุ้งและนอนบนเตียงนี้ ส่วนนายตั้มนั้นจะนอนอยู่ที่บริเวณพื้นหน้าประตู
นอกจากนั้น ยังมี ไม้เท้าสี่ขา ที่ไว้สำหรับช่วยพยุงในการเดิน และแผ่นกระดานที่มีล้อเลื่อน ใช้สำหรับนั่งและไปกับพื้น ซึ่งเป็นของนางพเยาว์ แต่นางสมจิตรได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังเพิ่มเติมว่าปกติแล้ว นางพเยาว์ จะไม่ชอบใช้ และมักจะนั่งและไปกับพื้นโดยตรง โดยส่วนใหญ่มักจะถัดตัวออกไปนั่งอยู่บริเวณต้นมะขามหน้าบ้าน เพื่อรอกินน้ำแข็งใสในช่วงบ่าย และจะถัดตัวกลับเข้าบ้านในช่วงเย็น ซึ่งโดยปกติฐานะครอบครัวค่อนข้างที่จะยากจน นอกจากนั้นนางสมจิตรยังได้เปิดหม้อข้าวให้กับทีมข่าวดูว่าในวันที่เกิดเหตุนั้น นายตั้มได้หุงข้าวไว้ให้แม่กิน ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุแม่ก็ได้กินข้าวไปเพียงเล็กน้อย ซึ่งยังมีรอยข้าวในหม้อ หายไปเพียงเล็กน้อยส่วนตัวในตรนั้นก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปก็ยังยังไม่ได้กินอะไรเลย
นอกจากนั้นทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายละออ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นอาของนายตั้ม โดยได้เล่าให้กับทีมฟังว่า
“ตนนั้นเป็นญาติกับตั้ม โดยที่ตนเป็นอาของนายตั้ม และอยู่บ้านใกล้เคียงกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็มักจะแบ่งข้าวหรืออาหารให้กับนายตั้มและแม่ของเขา นอกจากนั้นก็ยังมีการให้ใช้ไฟฟ้าที่บ้านต่อพ่วงไปยังบ้านของเขา ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการพูดกันเรื่องการใช้ไฟฟ้า และอาหารที่ตนมักจะแบ่งให้ โดยตนได้บ่น เพราะนายตั้มมักจะไม่ทำงาน อีกทั้งแม่ของเขายังพิการและเขายังต้องดูแลแม่ของเขา
ทั้งนี้ตนก็เป็นคนดื่มสุราแต่ปกติจะไม่เคยดื่มร่วมกับนายตั้ม โดยส่วนตัวตนเองนั้นก็รู้สึกกลัวนายตั้ม เพราะนานตั้มมีอาการเป็นเหมือนโรคประสาท ซึ่งตนคิดว่าเป็นสาเหตุดังกล่าวที่ทำให้นายตั้มก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงแม่ของเค้าเอง”