จากกรณีที่เด็กหญิง อลิส วัย 3 ขวบ หายไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนพบจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำกลางทุ่งนา ระยะห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปประมาณ 800 เมตร เมื่อเวลา 12.40 น.ของวันที่ 14 มิ.ย. 67 ซึ่งพ่อแม่ยัน ไม่ปักใจเชื่อลูกตนเองเดินไปยังจุดเกิดเหตุ
ต่อมา ทีมข่าวได้รับคลิปของน้องแก้ม โดยคลิปที่แม่น้องแก้ม ส่งมาให้กับทีมข่าว เป็นคลิปความยาว 10 วินาที ซึ่งจะเห็นว่าน้องแก้ม มีการนำหัวจุ่มลงไปในถังน้ำแล้วก็แกว่งขาไปมาลักษณะพยายามบอกแม่ว่าเป็นแบบนี้ จากนั้นเมื่อน้องแก้ม นำหัวขึ้นมาจากถังน้ำ น้องแก้ม ยังไอให้แม่ดูและพยายามบอกแม่ว่าตัวเปียกน้ำ
ต่อมา ทีมข่าวช่องแปด ได้จำลองเหตุการณ์ โดยนำ น้องอเดล (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ ยืนอยู่บริเวณ หน้ากะละมัง ที่มีความสูง 40 ซม. ใกล้เคียงกับอ่างล้างมือของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
จากนั้นทีมข่าวทำการทดลอง โดยเปิดน้ำ อย่างสุดแรง พอน้ำไหลลงตกสู่พื้นกะละมัง (ใช้กะละมังเนื่องจากศูนย์ปิด) ผลการทดลอง พบว่า น้ำกระเด็นใส่เสื้อ ของเด็กโดยส่วนใหญ่ ในบริเวณช่วงอกและหน้าท้อง
ทั้งนี้เนื่องจาก ตอนที่ทีมข่าวทดสอบนั้น เด็กไม่คุ้นชินกับทีมข่าว จึงมีลักษณะเกร็ง และนิ่งเฉย ผิดนิสัยที่ชอบเล่นน้ำ โดยยืนยันจากคุณปู่
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายประจักษ์ อายุ 63 ปี (ปู่น้องอเดล) โดยให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ในวันเกิดเหตุ หลานของตน เปียกบริเวณเสื้อเล็กน้อย ซึ่งวันนั้นตนไม่ได้เป็นคนไปรับหลาน แต่เป็นย่า โดยคาดว่าน่าจะเปียกน้ำ ซึ่งปกติจะมีชุดลำลองอยู่ในกระเป๋า เพราะเห็นกางเกงหลานตากอยู่ บริเวณรั้ว ด้านหลังอาคาร เป็นกางเกงลายทหาร
อีกทั้งในวันเกิดเหตุ หลานของตนหลังจากกลับจากโรงเรียน ไม่สบาย คาดว่าน่าจะไปเล่นน้ำมา นอกจากนี้ ยังเผยอีกว่า ตนเคยไปรับหลานที่โรงเรียน โดยชุดนักเรียนของน้องเปียกทั้งตัว ซึ่งมีน้องอเดลเพียงคนเดียวที่เปียก และคุณครูไม่เปลี่ยนชุดให้น้องจนกลับบ้านมา
เวลา 17.00 น. ทีมข่าวช่องแปดได้เดินทางไปบ้านครูปูเป้ เพื่อสอบถามประเด็นหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพาเข้าเครื่องจับเท็จนั้น โดยขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเมื่อไปถึงบ้านครูปูเป้ ปรากฏว่าคุณครูกำลังตากผ้า เมื่อเห็นนักข่าวจึงเข้าบ้าน ซึ่งทีมข่าวพยายามตะโกนเรียกชื่อ แต่ครูปูเป้ไม่ออกมา
ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านครูหนุ่ย โดยพบว่า ครูหนุ่ย รีบเดินเข้าบ้านไปและไม่ให้สัมภาษณ์
ขณะเดียวกันกรณีคลิปของน้องแก้ม ที่ทำท่าหัวจุ่มน้ำให้ทางแม่ดู วันนี้หลังทีมข่าวได้รับรายงานจากตำรวจว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางแม่ของน้องแก้ม ได้มีการพาน้องแก้ม ไปพบกับนักจิตวิทยาแล้วเป็นที่เรียบร้อย
นางก้อย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นแม่ของน้องแก้ม เปิดเผยว่า วันที่พาน้องแก้ม ไปพบนักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่มีการแยกห้องสอบถามน้องแก้ม 2 รอบ โดยรอบแรก เจ้าหน้าที่มีการเล่นกับน้องแก้ม และให้น้องแก้ม ทำท่าทางให้ดูว่าวันเกิดเหตุเห็นอะไรบ้าง โดยน้องแก้ม ก็ทำท่าทางให้ดูตามคลิป
ส่วนการสอบถามรอบที่ 2 นักจิตวิทยามีการสอบถามกับน้องแก้มว่า พี่อลิส ไปไหน ซึ่งน้องแก้ม ตอบว่าเห็นพี่อลิสตกน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ถามน้องแก้ม ต่อว่า แล้ววันนั้นเห็นไหมว่าพี่อลิส เล่นน้ำอยู่กับใครบ้าง ซึ่งน้องแก้ม ตอบคำถามดังกล่าวว่า เห็นพี่อลิส เล่นน้ำอยู่กับพี่โปรด และพูดย้ำอีกว่าเห็นพี่โปรดเล่นน้ำกับพี่อลิส
ส่วนประเด็นเรื่องคลิปที่น้องแก้ม ทำท่าทางให้ดู วันนั้นน้องแก้ม ไม่ได้บอกว่าน้องอลิส ตัวเปียกขนาดไหน แต่ตนเอง รู้สึกว่าน้องแก้ม กำลังสื่อความหมายว่ามีคนทำกับน้องอลิส แบบนั้น (จับหัวกดน้ำ) โดยที่น้องอลิส ไม่ได้เอาหัวจุ่มลงไปเอง ซึ่งวันที่นักจิตวิทยาถามน้องแก้ม นักจิตวิทยาไม่ได้ถามว่าใครเป็นคนทำกับน้องอลิส แต่นักจิตวิทยา ได้ขอให้ตนเองถ่ายคลิปยาวๆให้เพิ่มเติมลักษณะทำท่าทางด้วยและอยากให้น้องแก้ม พูดออกมาด้วย แต่ตนเองยังไม่ได้ถ่ายเพิ่ม เพราะตั้งแต่น้องแก้ม ทำท่าทางให้ดูในวันนั้น น้องแก้ม ก็ยังไม่ได้ทำท่าให้ดูอีกเลย ซึ่งถ้ามีจังหวะที่ตนเองไปส่งน้องแก้ม ให้กับย่า จะให้ย่าเป็นคนถามน้องแก้ม อีกครั้ง เพราะเชื่อว่าถ้าย่าเป็นคนถาม น้องแก้ม จะทำท่าทางให้ดูและบอกอะไรมากกว่าเดิม เนื่องจากน้องแก้ม ฟังย่าและบอกเบาะแสดังกล่าวให้กับย่าของเขาเป็นคนแรก
อย่างไรก็ตามส่วนตัวในฐานะที่เป็นแม่ของน้องแก้ม ยังเชื่อว่าเบาะแสของน้องแก้ม จะช่วยคลี่คลายคดีให้กับต้องอลิส และเชื่อว่าสิ่งที่น้องแก้ม ให้เบาะแสมา น้องแก้ม พูดความจริง เพราะก่อนหน้านี้ถ้าน้องแก้ม ถูกพ่อตีหรือถูกใครแกล้งมา น้องแก้ม จะมาทำท่าทางให้ดูว่าใครทำอะไรกับน้องแก้ม และเชื่อว่าถ้าน้องแก้ม ไม่เห็นอะไร น้องแก้มคงไม่มาทำท่าทางให้ย่าดู