จากกรณีที่ ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี นางแบบชื่อดัง แจ้งความ อดีตนางเอก-นางงาม อักษรย่อ ป. สามีเป็นนักการเมือง ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เหตุกู้ยืมเงินก่อนจ่ายเช็คเด้ง 2 ล้าน ทวงเงินหลายครั้งก็เงียบ มีผู้เสียหายรายอื่นโผล่เพิ่มด้วย ซึ่งทางด้านอดีตนางเอก-นางงาม อักษรย่อ ป. ได้ขอนัดหมายในการเจรจาเป็นวันที่ 4 ก.ค. นี้ นั้น


ล่าสุดวันนี้ 4 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 13.15 น. ลูกหมี รัศมี เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ ตามนัดการเจรจาตามกำหนดการ จากนั้นทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และทนายกุ้ง ซึ่งเป็นทนายฝั่งลูกหมีก็ได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมี ลิลลี่ เหงียน ดารานักแสดงชาวเวียดนาม หนึ่งในคู่กรณีของอดีตนางเอก ป. ที่ได้มีการให้ยืมเงินไปจำนวน 600,000 บาท เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ ด้วยเช่นเดียวกัน






กระทั่งเวลา 14.07น. ทางด้าน ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ พร้อมกับ หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ สามี และทีมทนายความ นำโดย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช และ ทนายกิ่ง ศิริญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิชมา เพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ย พร้อมแถลงข้อมูลให้สื่อมวลชนทราบถึงรายละเอียด




ซึ่งขณะที่เดินทางมาถึง สน.ทองหล่อ ทางทนายประมาณก็ได้พูดสั้น ๆ กับทางสื่อมวลชนก่อนจะเข้าไปพบพนักงานพนักงานสอบสวน ว่า “วันนี้ด้านคุณปู พร้อมที่จะใช้หนี้ ให้กับทางคุณลูกหมี ” หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปส่วนด้านคุณปูไม่ได้พูดอะไรกับสื่อมวลชน


ภายหลังจากที่ทุกฝ่ายเดินทางมายัง สน.ทองหล่อ ทนายประมาณ คุณปู และสามี ได้มีการตั้งชาร์ตแถลงถึงที่มาที่ไปของเงิน 2 ล้าน คุณปู มัณฑณา ยืนยันว่า คืนเงินคุณลูกหมี รัศมี อย่างแน่นอน ส่วนระยะเวลาในการคืนนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน พร้อมกับบอกว่าวันนี้มีพร้อมที่จะคืนแต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำกับปูและลูกปู รวมถึงครอบครัวปู เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน แต่เรื่องเงิน ยอดหนี้ที่ค้างอยู่ยังไงก็ต้องใช้อยู่แล้ว


ก่อนหน้านี้ลูกหมีเคยส่งตัวแทน ส.ส. ท่านหนึ่ง มาคุยถึงยอดหนี้ที่เหลือ 2 ล้าน ซึ่งเป็นช่วงเดือนเมษายนทีตนโดนโกงที่ดิน 100 ล้านพอดี จึงบอกว่า จะเอาที่ดินที่เหลืออยู่ประมาณ 4 โฉนดไปขายฝาก และคืนเงินให้ จากนั้น สส. ตอบกลับมาว่า ได้คุยกับคุณลูกหมีแล้ว หากขายฝากที่ดินไม่ได้ ให้เอาโฉนดที่คัฟเวอร์ 2 ล้านไปขายฝากเป็นชื่อลูกหมี แล้วพอตัวเองมีเงินถึงไปไทยโฉนดคืนมา ซึ่งก็มีการนัดหมายกันว่าจะไปโอนในวันที่ 14 มิ.ย. แต่ปรากฏว่าวันที่ 13 มิ.ย. มีการไปแถลงข่าวที่สำนักงานของทนายเดชา




คุณปู มัณฑณา ยืนยันว่า ไม่เคยห่างหายจากการพูดคุยกับคุณลูกหมี สามารถดูตามแชตไลน์ได้เลยว่ามีการติดต่อกัน นอกจากนี้ยังพบว่า ลูกหมี รัศมี มีการไปพูดคุยกับพรรคการเมืองหลายพรรคมาก รวมทั้งพรรคการเมืองของสามีตนด้วย ว่า เมียของหาญส์ หิมะทองคำ เซนต์เช็คเด้งจำนวน 2 ล้านบาท จนเจ้านายสามี และนักการเมืองโทรศัพท์มาสอบถาม และหลายคนเอาเรื่องนี้ไปนินทากันให้แซด


ส่วนเรื่องเช็คเด้งนั้น คุณปู มัณฑณา ชี้แจงว่า ฝั่งลูกหมี รัศมีเป็นคนขอเองว่า ขอเช็คพี่ปูค้ำประกันเพื่อความสบายใจได้หรือไม่เราจึงให้เช็คดังกล่าวไปไม่ว่าฝั่งลูกหมีจะขอให้ทำอะไร หรือเซ็นอะไร แม้แต่เป็นลายเซ็นในกระดาษเปล่าทั้งที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะเขียนเขียนเนื้อหาอะไร ตัวเองจริงใจกับลูกหมีหาเงินให้ลูกหมี ในห้วงเวลา 4 เดือน กว่า 6 แสนบาท แต่เขากลับมาทำครอบครัว และลูกแบบนี้ มองว่ามันไม่ได้


ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเข้า รพ. ถึง 5 ครั้ง น้ำหนักลดลงไปกว่า 6 กิโล อีกทั้งต้องกินยาเยอะและต้องไปพบจิตแพทย์ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขา ส่วนเรื่องการหยิบยืมเงินไปนั้นคุณปู มัณฑณายืนยันว่า หยิบยืมไปจริงแต่เป็นการหยิบยืมเพื่อไปลงทุนให้กับคุณลูกหมี เห็นว่าคุณลูกหมีไม่ค่อยมีงานจึงช่วยหารายได้ โดยการนำเงินของคุณลูกหมีไปลงทุนก่อน เช่น ขายกระเป๋า ทุกครั้งที่ขายได้จะนำกำไรส่งให้ตลอด แต่ที่ปรากฏในแชตไลน์คือคุณลูกหมีจ้องที่จะเอาดอกเบี้ยตลอด เธอถูกกระทำด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ทางลูกหมีเข้าใจการยืมเงินของตนอย่างไรแต่ที่ตนเข้าใจคือการยืมเงินในทุกครั้งเพื่อมาลงทุน


ต่อมา หลังจากที่เข้าไปไกล่เกลี่ยกันของทั้งทั้งสองฝ่ายใช้เวลาเวลานานร่วม 1 ชั่วโมง คุณปู มัณฑณา ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงผลสรุปการไกล่เกลี่ยในวันนี้ บอกว่า ในส่วนการเซ็นเอกสาร ยืนยันว่า ด้านคุณปูได้เซ็นเอกสารเปล่าเพียงอย่างเดียว แล้วมีการนำกลับไปให้อีกฝ่ายจากนั้นก็มีการส่งกลับมาให้ในวันที่ 18 มีนาคม พร้อมทั้งดอกเบี้ยทั้งหมดอีกฝ่ายเป็นคนเสนอมาให้กับตนเอง นอกจากตนที่ได้รับผลกระทบแล้วลูกของตนยังได้รับผลกระทบด้วย ลูกไม่กล้าไปโรงเรียนเพราะถูกเพื่อนว่า และถูกคนรอบข้างมอง ส่วนตนก็ไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนสองเดือน ซึ่งก็ยังยืนยันอีกครั้งว่าตั้งแต่ถูกกระทำมาเข้าโรงพยาบาลไปกว่า 5 ครั้งแล้ว อีกฝ่ายทำกับตนและครอบครัวเยอะมาก




เมื่อทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 สอบถามไปว่า ขณะนี้ทางฝ่ายคุณปู และสามี ว่า ที่บอกว่าถูกสังคมประณามและเข้ามาแสดงความคิดเห็นจนเสียหาย การไม่จ่าย 1,400,000 บาทในวันนี้ ไม่กลัวถูกสังคมต่อว่าอีกหรือ ทางคุณปู มัณฑนา ตอบกลับกลับมาว่า ในส่วนนี้ตนจะจ่ายเป็นหนี้ก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้ยังคุยกันไม่จบส่วนในครั้งหน้าการไกล่เกลี่ยจะจบลงด้วยดีหรือไม่ ก็ต้องรอดูอีกฝ่ายว่าจะว่าอย่างไร


ซึ่งทาง หาญส์ สามีของคุณปู มัณฑนา ก็บอกว่าในส่วนนี้ก็ต้องรอดูว่าอีกฝ่ายจะมีการเดินสายออกรายการ และทำให้มีผลกระทบต่อทางครอบครัวของตนอีกหรือไม่ หากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ก็จะไม่มีการไกล่เกลี่ยในครั้งที่สองเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ในส่วนข้อเสนอที่อีกฝ่ายบอกว่าให้มายืนคู่กันและให้ทั้งสองฝ่ายขอโทษกันและกัน ตนมองว่า จะให้ตนมาขอโทษอีกฝ่าย และอีกฝ่ายขอโทษตนตนก็ไม่ยอม มันเป็นไปไม่ได้ เมื่อสอบถามว่าตอนนี้มีในใจหรือไม่ ว่าอยากให้อีกฝ่ายชดใช้อย่างไร ทางคุณปู มัณฑนา บอกว่า ต้องรอดูก่อนและปรึกษากับทีมกฎหมายก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป




นอกจากนี้ หาญส์ สามีของคุณปู เผยว่า เรื่องหนึ่งที่ตนโมโหที่สุด มันเป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่สองคน แต่พอมาฟ้องแบบนี้ คนที่กระทบมากที่สุดคือลูก ๆ ของตน ซึ่งวันที่ไปงานโรงเรียนเป็นวันเรียนจบมัธยม มีคนโกนถามลูกผมว่า เสื้อสีแดง แม่จ่ายเงินหรือยัง คิดว่าตนจะรู้สึกอย่างไร ตระกูลตนมีคนใช้นามสกุล 2-300 คน มันเสียหายแบบนี้ ถ้าวันนี้ภรรยาตนไม่มีงานทำขึ้นมา เพราะเรื่องที่อีกฝ่ายไปพูดแล้วก็เป็นความเท็จ จะรับผิดชอบยังไง


หลังจากฝั่งของ คุณปู มัณฑนา ได้มีการชี้แจงกับทางสื่อมวลชนเสร็จแล้ว ทนายเดชาพร้อมกับฝั่งคุณลูกหมี ก็ได้เดินมาให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนเช่นเดียวกัน ทนายเดชา บอกว่าเมื่อสักครู่ได้มีการไกล่เกลี่ยโดยทางคุณปู ได้มีการเสนอว่าจะขอใช้หนี้ในจำนวนเงิน 1,400,000 บาท โดยในตอนแรกฝั่งของคุณลูกหมีได้มีการลดให้เหลือ 1,800,000 บาท แล้วมีการต่อรองอีกครั้งเหลือ 1,600,000 บาท แต่ทุกอย่างก็ยังไม่จบซึ่งยังรอทางผู้กำกับ สน.ทองหล่อ ได้มีการร่วมเจรจาอีกครั้ง




นอกจากนี้ทางทนายเดชา ยังบอกว่าตนขอชี้แจง หลังจากที่ทนายประมาณ ได้มีการแถลงข่าวร่วมกับทางคุณปู มัณฑนา ทนายเดชา ได้อ่านสัญญากู้ยืมเงินเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ว่า เป็นการกู้เงิน 2,000,000 บาท และมีการคิดดอกเบี้ยกันในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีไม่ได้ไม่ได้เป็นอย่างที่อีกฝ่ายชี้แจง ว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1,800 ต่อปี


ทนายเดชาบอกว่าข้อมูลดังกล่าว ทางทนายประมาณอาจจะจำผิดคดีหรือไม่ เพราะในเอกสารการกู้ยืมชัดเจนว่าคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีเท่านั้น พร้อมกับมีการโชว์เอกสารการกู้ยืมให้กับสื่อมวลชนได้ดู ในส่วนเรื่องเช็คค้ำประกัน ที่ฝั่งคู่กรณีได้มีการออกมาชี้แจงนั้น ทนายเดชาบอกว่า สัญญาเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเช็คดังกล่าวใช้ในการชำระหนี้เงินกู้ ซึ่งเวลามีคดีความก็จะใช้ในการฟ้องร้องกัน พร้อมกับเอกสารการกู้ยืมนั้น มีการลงลายมือชื่อชัดเจนทั้งผู้กู้ ผู้ให้กู้ยืม และพยาน


ในส่วนการกล่าวอ้างว่าอีกฝ่ายได้รับเพียงเพียงกระดาษเปล่าเท่านั้นที่ให้เซ็นในการกู้ยืม ทางคุณลูกหมีชี้แจงว่า ตนได้เขียนเอกสารทุกอย่างไว้ชัดเจนโดยตนเป็นคนเซ็นคนแรก พยานเป็นคนเซนต์คนที่สอง และคนสุดท้ายคือทางคุณปูมัณฑนา ซึ่งตนมีหลักฐาน และพยานชัดเจน




ในส่วนคนที่เสนอดอกเบี้ย ทนายเดชาพร้อมกับคุณลูกหมีเปิดเผยว่า ผู้ที่เสนอดอกเบี้ยเป็นฝั่งของคุณปู มัณฑนา ทุกครั้ง ซึ่งทนายเดชาบอกว่า การที่ลูกหนี้เสนอดอกเบี้ยไม่ว่าจะผิดกฎหมายหรือมากกว่า ร้อยละ 15 ต่อปีหรือไม่ ไม่มีความผิด ซึ่งยืนยันว่าฝ่ายคุณลูกหมี ไม่ได้มีการเรียกดอก แต่ทุกครั้งเป็นฝ่ายคุณปู มัณฑนา เป็นคนเสนอให้ เพราะต้องการอยากได้เงินจากฝั่งของคุณลูกหมี ในส่วนการร่วมลงทุนกันอย่างที่อีกฝ่ายชี้แจง คุณลูกหมีบอกว่า ในส่วนนี้ตนไม่ได้สนใจ เพราะตนรู้อยู่แล้วว่ามีการโอนเงินให้กับอีกฝ่าย โดยการโอนตรงเข้าบัญชีของคุณปู มัณฑนา และไม่เคยเห็นเพื่อนของอีกฝ่ายอย่างที่มีการกล่าวอ้างมา


ในส่วนของเงินที่มีการกู้ยืมไป อีกฝ่ายบอกกับทางคุณลูกหมีว่า จะนำไปลงทุนในเรื่องของกระเป๋า แต่ตนรู้แล้ว และต้องโฟกัสให้ถูกจุดว่าเงินที่ตนให้กับทางคุณปู มัณฑนา ไป ต้องนำกลับมาคืน ในส่วนอื่นจะเอาไปทำอะไรก็เป็นส่วนของอีกฝ่าย ในส่วนเรื่องอีกฝ่ายจะฟ้องหมิ่นประมาท คุณลูกหมีชี้แจงว่า ก็ขอให้เป็นเรื่อง ๆ ไป และขอให้อีกฝ่ายชำระหนี้ให้หมดก่อน ซึ่งฝั่งของทางคุณลูกหมี ก็มีหลักฐานทั้งเรื่องของคลิปเสียงพร้อมไว้ทุกอย่างอยู่แล้ว


สุดท้ายคุณลูกหมีบอกไว้ว่า ซึ่งหากอีกฝ่ายจะมีคำพูดทำให้ตนดูแย่ก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งที่อีกฝ่ายบอกว่าเวรกรรมมีจริงตนก็ย้ำกลับไปว่าเวรกรรมมีจริงแน่นอนค่ะ คุณทำอะไรกับลูกหมีไว้ ลูกหมีก็รับผิดชอบและคุณทำอะไรกับใครคนอื่น ๆ ไว้คุณก็ต้องตามรับผิดชอบเช่นเดียวกัน

 

"ลูกหมี" VS "ปู มัณฑนา" เจรจาหนี้ 2 ล้าน