หนุ่มแฉกลโกงซื้อขายวุฒิการศึกษา เผยวิธีนำชื่อเข้าระบบย้อนหลัง เลือกได้มีทั้งป.ตรี-ป.โท

จากกรณีน.ส.วิไลลักษณ์ หรือ "ซ้อลักษ์" และ "ปุ๊กกี้" อดีตสมาชิกมูลนิธิที่ออกมาแฉว่า ถูกประธานสาวมูลนิธิแห่งหนึ่ง เสนอขายวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก และแอบอ้างการซื้อขายตำแหน่งทางการเมือง

ล่าสุดทางมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานายเอ (นามสมมุติ) ที่อ้างว่า เป็นนักการเมือง และเมื่อเดือนมีนาคม 2566 เคยได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยดังกล่าว ให้ช่วยวิ่งเต้นพูดคุยกับผู้ใหญ่ เพื่อช่วยเคลียร์กรณีที่มหาวิทยาลัย ดำเนินการกำหนดตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัยจำนวน 51 คน ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ กกอ. กำหนด แต่สุดท้ายเมื่อไปตรวจสอบแล้วพบว่า มหาวิทยาลัยดำเนินการไม่ถูกต้องจริง จึงถอนตัวเพราะไม่สามารถช่วยเหลือได้

ทั้งนี้นายเอ เชื่อว่าทางมหาวิทยาลัย มีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง ประกอบกับตัวเองเคยพบบุคลากรของมหาวิทยาลัย เป็นผู้หญิง เสนอขายวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรี ราคา 3 แสนบาท โดยขั้นตอนไม่ได้เป็นการนำเงินเข้าไปซื้อ แล้วจะได้วุฒิการศึกษาออกมาทันที แต่เป็นการนำรายชื่อบุคคลที่จะซื้อใส่ลงไปในระบบนักศึกษาย้อนหลัง เพื่อให้ตรงกับภาคเรียน รวมทั้งยังมีการซื้อขายวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาโทก็มีด้วยเช่นกัน แต่ไม่ทราบราคาว่าขายเท่าไหร่

นายเอ ยืนยันว่า ขณะที่ตัวเองลงพื้นที่ในฐานะผู้สังเกตการณ์ พบว่า ภายในมหาลัยแห่งนี้ เฉพาะคณะหนึ่งมีอาคารเรียนเพียง 1 อาคาร แต่เมื่อสังเกตนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย มีจำนวนน้อยกว่าผิดปกติกว่ามหาวิทยาลัยทั่วไป จึงเชื่อว่าอาจจะมีการทุจริตเกี่ยววุฒิการศึกษาจริง พร้อมย้ำว่า ที่ออกมาเปิดเผยเพื่อจะเพิ่มน้ำหนักให้กับกรณีของปุ๊กกี้ ว่ามีการซื้อขายวุฒิการศึกษาจริง

ด้านนายชาญชัย ฉายบุ ทนายความที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า ที่ประธานสาว และนายเกษียร เจ้าของบัญชีรับโอนเงินไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.เมืองนครปฐม ถือเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะในบันทึกประจำวัน ที่ระบุยอดเงิน 49,500 โอนกลับมาประธานสาว ซึ่งบ่งชี้ว่า ปลายทางของเงินอยู่ที่ใคร พร้อมทั้งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ข้อความแชตที่ "ซ้อลักษ์" นำมาเปิดเผยเป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (7ก.ค.) ตนและซ้อลักษ์ จะเดินทางไปแจ้งความเอาผิดคู่กรณีฐานฉ้อโกง ที่สภ.เมืองสกลนคร รวมถึงการปลอมแปลงลายเซ็นซ้อลักษ์ไปจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ ส่วนซ้อลักษ์ที่ออกมาเปิดโปงครั้งนี้ไม่มีความผิด เนื่องจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. กันไว้เป็นพยาน

นอกจากนี้ ยังฝากไปถึงกูรูทางกฎหมาย ที่ระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็นการหักหลังกันของเพื่อน ขอให้ตั้งสติ เพราะประเด็นที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องของการโกงวุฒิการศึกษา ถือเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่การหักหลังเพื่อนทั่วไป

แฉกลโกงวุฒิการศึกษา ลงชื่อย้อนหลังรับใบปริญญา