จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายชื่อว่า คุณตาอ้าย อายุ 74 ปี เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าโดนนางเลย (นามสมมติ) บุคคลที่เป็นผู้ดูแลหลอกว่า ได้นำลอตเตอรี่ที่ตาอ้ายซื้อมา ซึ่งถูกรางวัลใกล้เคียงรางวัลที่ 1 เลข 434504 มูลค่า 100,000 บาท งวดวันที่ 1 ก.ค. ไปทิ้งถังขยะ โดยอ้างว่าลอตเตอรี่ไม่ถูกรางวัล แต่เมื่อไปคุ้ยถังขยะกลับไม่เจอลอตเตอรี่ใบดังกล่าว แถมยังเอาลอตเตอรี่ใบอื่นมาตบตา อ้างว่า หวยต้นเรื่องถูกฉีกขาดแล้ว ซึ่งต่อมา นางเลย ยอมรับว่าเอาลอตเตอรี่ใบที่ถูกรางวัลดังกล่าวของตาอ้ายไปจริง และยอมคืนลอตเตอรี่ให้กับตาอ้ายแล้ว แต่ปรากฏว่าคนที่นำลอตเตอรี่ไปคืนตาอ้ายที่บ้าน กลับเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแทน นั้น
ล่าสุดวันนี้ 6 ก.ค. 2567 ตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้า ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่บ้านของตาอ้าย ใน ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง เจ้าของลอตเตอรี่ ถูกรางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 พบว่า วันนี้ที่บ้านของตาอ้ายมีญาติพี่น้องรวมถึงสื่อมวลชนมาปักหลักรออยู่ที่บ้านตาอ้ายเป็นจำนวนมาก หลังจากมีกระแสข่าวว่านางเลยได้นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มาคืนให้กับตาอ้ายแล้ว แต่เป็นการนำมาฝากคืนให้เท่านั้น และเฝ้ารอว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด อาจจะพานางเลยเดินทางมาขอขมาตาอ้ายด้วย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับตาอ้าย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนแรกก็ทำใจว่าอาจจะไม่ได้ลอตเตอรี่คืน แต่เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่นำลอตเตอรี่ของตนเองมาให้ดู เนื่องจากนางเลยยอมรับสารภาพว่าเป็นคนเอาลอตเตอรี่ไป และยอมคืนลอตเตอรี่ให้ ตนเองรู้สึกดีใจมากและตนเองก็ได้เห็นลอตเตอรี่ใบดังกล่าวแล้ว เป็นลอตเตอรี่ของตนเองจริง ๆ
ส่วนใบที่ถูกฉีกเป็นเศษ ๆ ที่นางเลยนำมาอ้างก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ของตนเองอยู่แล้ว หลังจากนางเลย รับสารภาพว่า เป็นคนเอาลอตเตอรี่ไป ก็อยากให้นางเลยเข้ามาขอโทษตนเอง ซึ่งตนเองก็ยินดีและไม่ถือโทษโกรธเคืองใด ๆ ทั้งสิ้น และสามารถพูดคุยกันเหมือนเดิม
ส่วนหลังจากนั้นหากนางเลยจะมาล้างแผลให้ตนเองเหมือนเดิม ตนเองก็ยินดี เพราะไม่ได้โกรธเคืองอะไร เพราะคนเราย่อมผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น และตนเองยังยืนยันคำเดิม ตามที่เคยตั้งใจไว้ ว่าหากได้เงิน 1 แสน จากการถูกรางวัล ตนเองจะแบ่งเงินจากการถูกหวย ให้นางเลยด้วย ประมาณ 500 - 1,000 บาท
สิ่งที่ตนเองยังคาใจมีอยู่เรื่องเดียว คือทำไมนางเลยต้องปฏิเสธว่าไม่ได้เอาหวยของตนเองไป จนสุดท้ายเรื่องทุกอย่างบานปลายเป็นข่าวใหญ่โตขนาดนี้ เพราะถ้าเอามาคืนตั้งแต่แรกก็คงไม่มีปัญหาอะไร อยากฝากบอกนางเลย ถ้ากลับใจได้ก็เข้ามาหาตนได้ ตนเองพร้อมให้อภัยและดูแลกันต่อไป
ขณะเดียวกันวันนี้นางนอรา หน่อใหม่ หรือ รา แม่ค้าล็อตเตอรี่ได้เดินทางมาที่บ้านของตาอ้ายเพื่อมาขายล็อตเตอรี่ตามปกติ ทำให้หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จผู้สื่อข่าวได้ขอให้ตาอ้ายช่วยสุ่มหยิบลอตเตอรี่สัก 1 ใบ เพื่อให้คุณตาและประชาชนที่ดูข่าวลุ้นลอตเตอรี่งวดหน้าที่กำลังจะออกวันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งคุณตาอ้ายได้สุ่มหยิบลักษณะเดิมคือไม่ได้มองว่าจะหยิบใบไหน โดยเลขที่คุณตาหยิบได้จากแผงของนางนารา ใบใหม่ คือ หมายเลข 710947
ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปที่ สภ.เสริมงาม พื้นที่เจ้าของคดี เมื่อไปถึงพบว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญตัว นางบุศรินทร์ หรือ หมอหนา ผอ.รพ.สต.บ้านท่าโป่ง หัวหน้างานของนางเลย ให้นำลอตเตอรี่ตัวจริงที่ถูกรางวัลของตาอ้ายส่งมอบให้พนักงานสอบสวน เนื่องจากลอตเตอรี่ใบดังกล่าว ถือว่าเป็นหลักฐานของกลางในคดีแล้ว เนื่องจากลูกสาวของตาอ้ายได้เดินทางมาแจ้งความว่าถูกลักขโมยไป โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาการสอบปากคำหัวหน้างานของนางเลยประมาณ 1 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปขอพูดคุยถามรายละเอียด แต่หลังจาก ผอ.รพ.สต.บ้านท่าโป่ง หัวหน้างาน ของ นางเลย เห็นผู้สื่อข่าวเดินทางมาถึงโรงพัก เจ้าตัวได้รีบเดินทางออกจากโรงพักทันที โดยบอกเพียงว่า “ตนเองไม่สามารถให้ข้อมูลได้ และให้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามกับหัวหน้าสาธารณสุขอำเภอแทน”
ส่วนวันนี้ที่เดินทางมาโรงพักก็เพื่อนำลอตเตอรี่ใบจริง มอบให้กับตำรวจเพื่อสร้างความชัดเจนว่า มีการส่งมอบคืนเจ้าของเรียบร้อยแล้ว อยากเคลียร์ให้เรื่องมันจบ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อว่า ทำไมถึงไม่ให้นางเลยนำลอตเตอรี่มาคืนเอง และติดต่อนางเลยได้หรือไม่ เจ้าตัวปฏิเสธที่จะตอบคำถามและเดินขึ้นรถออกจากโรงพักไปทันที
ส่วนความคืบหน้าทางคดีล่าสุด ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.วรเชษฐ สกิจกัน ผกก.สภ.เสริมงาม ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกนางเลยให้มาเข้าพบตำรวจแล้ว โดยในหมายเรียกมีการระบุว่า จะมีการเรียกนางเลยเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ (7 กรกฎาคม)
จากนั้นวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่บ้านของนางเลยอีกครั้ง ปรากฏว่าที่บ้านวันนี้ประตูรั้วหน้าบ้าน ประตูบ้านและหน้าต่างเปิดเช่นเคย แต่รถกระบะของเจ้าตัวไม่อยู่ภายในบ้าน จากการตะโกนสอบถามไม่มีเสียงตอบรับจากคนในบ้านแต่อย่างใด เช่นเดียวกับ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าโป่ง พบว่าวันนี้ปิดให้บริการ ประตูทั้งรั้วด้านหน้า และประตูด้านใน รพ.สต. ถูกปิดทั้งหมด
ขณะเดียวกันนางนาราภัทร ลูกสาวตาอ้าย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อวานหลังจากที่ตนเองเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 5 โมงเย็น ผอ.รพ.สต.ท่าโป่ง ได้โทร. มาหา บอกว่าจะขอเข้ามาพบ จากนั้นเวลาประมาณ 2-3 ทุ่ม มี ผอ.สาธารณสุขอำเภอ , ผอ.รพ.สต. , กำนัน , ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับญาติของนางเลยเดินทางมาหาตนเองที่บ้าน โดยได้นำลอตเตอรี่ของพ่อ หมายเลข 434504 ที่ถูกรางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มาให้ดู บอกว่าได้คืนมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนางเลยไปสอบถาม และได้ทำการกล่อมโดยมีนิติกรและนักจิตวิทยามาช่วยกล่อมด้วย ใช้เวลาในการกล่อมตลอดทั้งวัน ตอนแรกนางเลยก็ยังคงปิดปากเงียบ
จนกระทั่งตอน 6 โมงเย็น นางเลยได้ยื่นลอตเตอรี่ใบดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งนางเลยพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว พร้อมกับถามเจ้าหน้าที่ว่า “จะให้พี่เริ่มยังไงก่อนดี” จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บลอตเตอรี่ใบนั้นไว้ แล้วนำมาให้ตนเองดูก่อนเพื่อความสบายใจว่าได้ลอตเตอรี่คืนแล้ว ตอนนี้ลอตเตอรี่ถือว่าเป็นของกลาง ต้องดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายให้เสร็จสิ้นก่อนถึงจะได้คืน
แต่ตนเองยอมรับว่าแปลกใจ ว่าทำไมนางเลยไม่นำมาคืนตั้งแต่แรก อีกทั้งไปโกหกสังคมผ่านสื่อบอกว่าไม่ได้นำลอตเตอรี่ใบดังกล่าวไป และในตอนนี้เมื่อข่าวมันเผยแพร่ออกไปแล้ว ทำให้เขาตกเป็นเป้าของสังคมว่าเป็นคนลักขโมย เค้าต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตนเองให้โอกาสเขาเอามาคืนมาตั้งแต่แรกแล้วแต่เขาไม่เอามาคืนเอง
และวันนี้ ตอนแรกมีนัดกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนางเลยให้ไปพบกันที่สถานีตำรวจ แต่ตนเองบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนจะไปที่สถานีตำรวจอยากให้นางเลยมาขอโทษพ่อที่บ้านก่อน จึงได้นัดหมายกันตอนเวลา 10 โมง แต่ปรากฏว่า 10 โมง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไม่สามารถติดต่อนางเลยได้ จึงเลื่อนนัดการพูดกันที่โรงพักกันไปก่อนยังไม่มีกำหนด
ส่วนเรื่องเงินรางวัลที่พ่ออยากจะแบ่งให้กับนางเลย ตนเองก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะเป็นเรื่องน้ำใจของพ่อและจากนี้หากพ่อจะต้องไปล้างแผล ก็จะให้ลูกตนพาพ่อไปล้างแผลที่อนามัยเอง ตนเองมองว่าสิ่งที่นางเลยทำมันไม่คุ้มกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะนางเลยเป็นคนของสังคม ช่วยเหลือคน ทำงานกับคน จึงไม่น่าทำแบบนี้เลย ตอนนี้ตนเองและครอบครัว ไม่ได้ติดใจอะไรกับนางเลยแล้ว อโหสิกรรมให้ เพราะคิดว่าคนเรามันสามารถผิดพลาดกันได้ แต่เรื่องทางคดีมันต้องดำเนินการไปต่อเพราะเป็นคดีอาญา ตนเองก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป