จากกรณี น.ส.สาริณี อายุ 53 ปี ชาวบ้าน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ดื่มน้ำอัดลมสีเขียวปริศนาที่มาวางไว้หน้าบ้าน หลังดื่มไปครึ่งแก้วกลับน้ำลายฟูมปากดับสลด ขณะที่ลูกชายดื่มไป 1 อึก กลับอาเจียนออกมาทันรอดหวุดหวิด ส่วนสามีเชื่อถูกวางยาหวังฆ่ายกครัว เนื่องจากตรวจสอบพบว่าในน้ำเขียวมีส่วนผสมของยาฆ่าหญ้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด (6 ก.ค. 2567) มีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ประสานบริษัทผู้ผลิตน้ำเขียวเพื่อตรวจสอบหาร้านค้าที่ฝ่ายจัดส่งนำน้ำเขียวล็อตที่ผู้ตายดื่มไปส่ง เบื้องต้นทราบว่า ขวดที่ผู้ตายดื่มรหัสการผลิต 4152G2071724 โค้ชวันผลิต 280924G ส่วนอีก 1 ขวด รหัสการผลิต 4152G2072011 โค้ชวันผลิต 280924G ผลิตที่ จังหวัดนครราชสีมา
โดยน้ำทั้งสองขวดถูกจัดส่งมาที่ สาขาใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตที่ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 และบริษัทจัดส่งให้แก่ร้านค้า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ซึ่งน้ำทั้งสองขวดอยู่ในล็อตที่จัดส่งให้ร้านค้าในพื้นที่ ตำบลโนนหวาย และ ตำบลอูบมุง อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี จำนวน 11 ร้าน ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบร้านค้าทั้ง 11 ร้าน เพื่อหาว่าน้ำเขียวทั้ง 2 ขวด ถูกจัดส่งที่ร้านใด ก่อนจะเร่งตามหาบุคคลที่มาซื้อต่อไป
ล่าสุดทีมข่าวได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวโดยมีการตั้งข้อสังเกตการเสียชีวิตของ น.ส.สาริณี ว่าคนร้ายอาจจะไม่ได้มีเจตนาที่จะวางยายกครัว แต่หลงนำมาวางไว้ที่หน้าบ้าน แต่สาริณีมาพบและนำมาเปิดดื่ม อีกทั้งมีข้อมูลมาอีกว่าวันที่เกิดเหตุช่วงเช้าลูกชายของสาริณีพยายามไปตามง้อขอคืนดีนางมลฤดี ที่บ้านพ่อตา จนถูกด่ากลับด้วยคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยาม
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวยังให้ข้อมูลอีกว่า นางมลฤดีเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมสีเขียวเป็นอย่างมาก ซึ่งในเรื่องดังกล่าวก็จะมีคนที่สนิทกับนางมลฤดีเท่านั้นที่จะทราบว่านางมลฤดีชอบการดื่มน้ำเขียว ซึ่งแหล่งข่าวคนดังกล่าวจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นการวางยานางมลฤดีมากกว่านางสาริณี อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า หากนายศุภชัยดื่มน้ำเขียวจริง ได้มีการไปหาหมอล้างท้องหรือไม่
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายเหรียญ เพื่อนสนิทของลูกชายผู้ตาย ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยนายเหรียญถือว่าเป็นพยานคนเดียวที่เห็นว่าลูกชายของผู้ตาย อาเจียนหลังจากที่ดื่มน้ำอัดลมเข้าไป และเป็นคนเห็นนางสาริณีตอนที่ยังไม่เสียชีวิต หลังจากที่ดื่มน้ำอัดลมเข้าไป แต่เมื่อทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายเหรียญ ปรากฏว่านายเหรียญไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ทีมข่าวเจอถังแกลลอนยาฆ่าหญ้าวางอยู่ที่ตรงประตูรั้วหน้าบ้าน ลักษณะใช้งานแล้ว ทีมข่าวได้เดินเข้าไปใกล้ถังแกลลอนดังกล่าวพบว่ามีกลิ่นฉุนออกมา
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านของนางสาริณีอีกครั้ง ซึ่งพบว่าทันทีที่ทีมข่าวเดินทางมาถึงที่บ้านไม่พบใครอยู่ที่บ้าน เมื่อมองเข้าไปข้างในบ้านเห็นมีรองเท้า 1 คู่ ถอดอยู่หน้าห้องนอน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรองเท้าของนายศุภชัย ลูกชายของผู้ตาย ที่นอนหลับอยู่ในห้อง แต่เมื่อทีมข่าวพยายามตะโกนเรียกนายศุภชัยก็ไม่ออกมา
แต่ในขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พบกับรถจักรยานสีดำคันหนึ่งที่จอดพิงกับเสาบ้าน โดยจักรยานคันดังกล่าวทีมข่าวเคยพบอยู่ในกล้องวงจรปิดวันที่นางสาริณีเดินไปเอาผักบุ้งที่บ้านของชาวบ้าน ซึ่งจากการสัณนิฐานของทีมข่าวคาดว่ารถจักรยานคันดังกล่าวเป็นของนายศุภชัย แต่ก่อนหน้าหน้านั้นนายศุภชัย อ้างว่าไม่มีรถที่จะเดินทางไปไหนมาไหนเวลาจะไปซื้อของจะต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีกเป็นกิโล จึงทำให้นายศุภชัยขี้เกียจที่จะไปซื้อของหรือซื้อสินค้าภายในหมู่บ้าน
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ในวันที่เกิดเหตุทีมข่าวยังได้พบกับนางสาริณี ผู้ตาย ที่เดินย้อนกลับมาภายในหมู่บ้านอีกครั้งช่วงเวลา 18.18 น. โดยในกล้องวงจรปิดจะเห็นนางสาริณีเดินไปที่บ้านฝั่งตรงข้ามคล้ายกับเก็บผักที่ริมรั้ว ขณะเดียวกันทีมข่าวยังได้พบว่านางสาริณีได้ถือถุงสีขาวไว้ที่มือ แต่ถุงดังกล่าวไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากภาพไม่ค่อยชัดเจน
จากนั้นในช่วงเวลา 18.25 น. กล้องวงจรปิดตัวเดิมจับภาพนางสาริณีเดินผ่านกล้องวงจรปิด และแวะเข้าไปที่บ้านของชาวบ้านที่อยู่ติดกัน โดยในครั้งนี้พบว่านางสาริณีไม่ได้ถือถุงสีขาวไว้ในมือแล้ว แต่พบว่านางสาริณีมือขวาถือมีดเดินไปริมกำแพงเพื่อเก็บผัก จากนั้นสักพักจะเห็นนางสาริณีจะเดินออกมาพร้อมกับในมือถือผักมาด้วยเดินไปยังบ้านของชาวบ้านอีกหลัง
ทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยนายสมพร สมนาม ผู้ใหญ่บ้าน เกี่ยวกับกรณีวันเกิดเหตุ ที่นายศุภชัยอ้างว่าตนเองได้กินน้ำอัดลมไป 1 อึก และเกิดอาการผิดปกติ โดยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองเห็นลูกชายผู้ตายนั่งร้องไห้กอดเข่าอยู่ข้างประตูบ้าน ไม่ได้มีท่าทีผิดปกติหรือมีพิรุธหรือมีท่าทางคล้ายคนพะอืดพะอมแต่อย่างใด เอาแต่ร้องไห้ ซึ่งตอนนั้นตนเองได้ถามลูกชายผู้ตายว่าได้กินน้ำอัดลมเข้าไปไหม ลูกชายผู้ตายบอกว่ากินไป 1 อึก สาเหตุที่ไม่มีอาการเนื่องจากว่าลูกชายผู้ตายไปล้วงคอทำให้อาเจียนออกมา ตอนนั้นตนจึงไม่ได้สนใจอะไรเพราะมัวแต่สนใจศพนางสาริณี
หลังจากวันนั้นตนเองได้กลับมาตั้งข้อสังเกตว่า ลูกชายของผู้ตายได้กินน้ำอัดลมเข้าไปจริงหรือไม่ เพราะถ้าหากได้มีการดื่มน้ำอัดลมเข้าไปจริง ทำไมถึงไม่ไปล้างท้องหรือไปหาหมอ ซึ่งนายศุภชัยเองก็ยังคงใช้ชีวิตปกติ อีกทั้งในตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้แนะนำให้นายศุภชัยไปหาหมอล้างท้อง เพราะเห็นว่านายศุภชัยไม่ได้เป็นอะไรมาก
ส่วนประเด็นที่ตนเองได้ประกาศผ่านเสียงตามสาย กรณีที่มีคนเข้าไปขโมยของของชาวบ้านจนได้รับความเดือดร้อน ตนเองยอมรับว่าได้ประกาศจริง ว่าให้เลิกทำพฤติกรรมไม่เช่นนั้น จะมีคนวางยาเบื่อให้ตาย ซึ่งตนเองพูดไปแค่ให้เป็นการตักเตือน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง