เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน คาดเป็นปืนชนิดลูกกรดยิงชายวัย 56 ปี คาขนำในสวนยางพารา 5 แผล เจ้าตัววิ่งหนี 200 เมตร มาขอความช่วยเหลือบ้านญาติ แต่สุดยื้อดับในสภาพเปลือยกาย ค้นภายในขนำพบยาบ้า อุปกรณ์เสพ และเศษฟรอยด์อื้อ ตร.เร่งเชิญคนใกล้ชิดสอบปากคำ ไล่ล่าตัวมือยิงโหด

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุที่บ้านไทรงาม ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง โดยเมื่อมาถึงพบว่าทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีการเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุในจุดแรกที่เข้ามาตรวจสอบบริเวณบ้านของนางสั้น (นามสมมติ) น้าสาวของนายปราโมทย์ ซึ่งจุดหลังบ้านบ้านคือจุดที่นายปราโมทย์หรือลุงหีด อายุ 56 ปี ผู้เสียชีวิต วิ่งมาขอความช่วยเหลือ จากขนำขององตัวเอง

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ร้อยเวรสภ.ย่านตาขาว ได้เดินเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณขนำ ซึ่งจุดนี้คือจุดที่นายปราโมทย์ ผู้เสียขีวิต ถูกยิงด้วยปืนยาวลูกกรด ซึ่งห่างจากบริเวณหลังบ้านที่นายปราโมทย์ มาขอความช่วยเหลือจากทางญาติประมาณ 200 เมตร โดยช่วงคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เจ้าไปสอบขนำของนายปราโมทย์ ผู้ตาย ตรวจพบที่นอนภายในขนำ ข้างกันพบเขียงไม้ใหญ่ 1 อัน บนเขียงพบยาบ้าบรรจุใส่ถุงพลาสติกจำนวน 5 เม็ด อุปกรณ์เสพยาเสพติด 1 ชิ้น ใกล้กันพบกระเป๋าสะพายข้าง 1 ใบ ซึ่งเป็นของนายปราโมทย์ ผู้ตายแขวนอยู่ภายในเพิงพัก ตรวจสอบภายในพบยาบ้าจำนวนประมาณ 40-50 เม็ดบรรจุใส่กระปุกพลาสติกยาว 

 

ขณะเดียวกันในขณะที่ทีมข่าวช่อง 8 เดินเข้าไปที่ขนำจุดเกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณโดยรอบมีแต่สวนผลไม้ทั้งทุเรียนป่า มังคุด ละมุด ลองกอง ฯลฯ และเมื่อเดินมาประมาณ 200 เมตร ก็ถึงขนำจุดเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่งแล้วเสร็จ ทีมข่าวช่อง 8 จึงได้เข้าไปสำรวจภายในขนำพบว่าเจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปทั้งหมดแล้ว จะเหลือเพียงฟูกที่นอนและเขียงที่เป็นอุปกรณ์การเสพ อีกทั้งบริเวณโดยรอบขนำก็พบกับเศษกระดาษฟรอยด์ที่ใช้สำหรับเสพยาบ้าตกอยู่เกลื่อนพื้น ขณะเดียวกันรอบขนำ ก็พบว่ามีลูกทุเรียนบ้านอยู่บริเวณขนำประมาณ 4-5 ลูกด้วยกัน

 

และจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมายังสภ. ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการเชิญตัวนางสั้น (นามสมมติ) น้าสาวของนายปราโมทย์ ผู้เสียชีวิตและเป็นเจ้าของบ้าน มาให้ปากคำกับทางเจ้าที่กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยหลังจากที่นางสั้น ได้ให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วจึงออกมาเปิดใจกับทางช่อง 8 ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาช่วงเกิดเหตุทางตนไม่ได้ยินเสียงปืนแต่อย่างใด 

 

เพราะตอนนั้นหลับลึกไปแล้วแต่เวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ นายปราโมทย์ ผู้ตาย วิ่งมาเคาะประตูข้างหลังบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยพูดว่า “ช่วยผมด้วยผมโดนยิงจะไม่ไหวแล้ว” พร้อมกับร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ซึ่งนายปราโมทย์ ผู้ตาย ไม่ได้บอกเลยว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนี้ทางตนจึงได้รีบโทรหาญาติพี่น้องให้เข้ามาช่วยเหลือและโทรหาตำรวจและกู้ภัยให้เข้ามายังจุดเกิดเหตุทันที แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะนายปราโมทย์ ผู้ตาย เริ่มหายใจรวยรินก่อนที่จะสิ้นใจในที่สุดในเวลาต่อมา 

 

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้เลยว่าผมขัดแย้งที่ทำให้คนร้ายเข้ามาบุกยิงนายปราโมทย์ ผู้ตายเช่นนี้ มีสาเหตุมาจากเรื่องอะไร อีกทั้งเรื่องของการรักเล็กขโมยน้อยในเรื่องของยาเสพติด ตนก็ไม่เคยรู้มาก่อนเช่นกันเพราะไม่ได้สุงสิงกับนายปราโมทย์ ผู้ตายเท่าไหร่นักแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ในฐานะน้าหลานก็ได้ใช้ให้นายปราโมทย์ ผู้ตาย ไปเก็บผลไม้ภายในสวนมาให้ตนเท่านั้น

 

ส่วนเรื่องที่ที่บ้านของตนบริเวณหลังบ้านจุดที่นายปราโมทย์ ผู้ตาย มาขอความช่วยเหลือก่อนสิ้นใจ มีป้ายที่เขียนไว้ตรงเล้าไก่ว่า คนไหนหยิบไข่ไม่เว้นอ่านไม่ หนังสือไม่ออกว่าปลือ รังไม่ทำเท่าแต่เก็บ” (แปลว่า : ใครที่ไหนขโมยแต่ไข่ไก่คนอื่น อ่านกระดาษใบนี้ด้วย ทำเล้าไก่ที่บ้านบ้าง อย่าเอาแต่ขโมยไข่ไก่ของคนอื่น) ป้ายนี้ก็ติดไว้เพื่อเผื่อมีใครมาขโมยไข่ไก่ที่บ้านของตนก็แค่นั้น ไม่ได้มีนัยยะว่าเคยมีคนมาขโมยไข่ไก่ที่บ้านตนแต่อย่างใด เพราะที่บ้านตนยังไม่เคยมีใครเข้ามาขโมยไข่ไก่มาก่อนแค่ติดเตือนไว้ก็เท่านั้นว่าอย่ามาขโมย

 

สุดท้ายก็อยากจะขอให้ทางตำรวจนั้นเร่งจับตัวคนก่อเหตุให้ได้โดยเร็วเพราะมาก่อเหตุอยู่หลังบ้านของตนกลัวว่าคนในบ้านซึ่งมีกันประมาณหกถึงเจ็ดคนจะไม่ปลอดภัย

 

และต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ลองเดินสำรวจเส้นทางข้างหลังขนำ พบว่าข้างขนำจะมีลำธารขนาดใหญ่ให้เดินและมีต้นไม้ขนาดใหญ่พาดขวางลำธารเป็นสะพานให้ข้ามไปอีกฝั่ง และเมื่อลองเดินไปเรื่อยก็จะผ่านสวนทุเรียนของชาวบ้านไป ซึ่งเมื่อเดินมาประมาณ 500 เมตร ก็จะทะลุออกมาถนนเส้นรองของหมู่บ้าน

 

และถัดมาทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมาพบกับนายอุดมพร อายุ 53 ปี เจ้าของสวนทุเรียนหลังขนำจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ทางคนก่อเหตุใช้เป็นเส้นทางหลบหนี โดยนายอุดมพร เล่าว่า กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้เมื่อช่วงเที่ยงคืนว่านายปราโมทย์ ผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตที่ขนำ แถวสวนทุเรียนของตน จึงเดินทางมาจุดเกิดเหตุเช่นกัน ซึ่งทางตนก็รู้จักกับนายปราโมทย์ ผู้ตายมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดคุยหรือสุงสิงรู้จักกันขนาดนั้น เพราะรู้จักในฐานะที่นายปราโมทย์นั้นมาตั้งขนำอยู่ในสวนของตัวเองที่ติดกับสวนทุเรียนของตน แต่เท่าที่ทราบ ก็ได้ยินชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านายปราโมทย์ ผู้ตายเป็นคนที่ขี้ขโมยเป็นอย่างมาก แต่สวนของตนเท่าที่สังเกตก็ไม่เคยเห็นว่านายปราโมทย์ ผู้ตายจะเข้ามาขโมยทุเรียนแต่อย่างใด และเรื่องของการขัดแย้งเรื่องต่างๆที่เป็นชนวนเหตุให้นายปราโมทย์ ผู้ตายถูกยิงจนเสียชีวิต ทางตนก็ไม่รู้เช่นกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไรและเท่าที่สังเกตก็ไม่เคยเห็นว่านายปราโมทย์ ผู้ตายจะไปสุงสิงมั่วสุมอะไรกับใครเท่าไหร่นะ

บุกยิงหนุ่มใหญ่ตายเปลือย คลานหนี 200 เมตรก่อนสิ้นใจ ค้นขนําพบยาเกลื่อน