จากกรณีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการนักท่องเที่ยวที่ 3 (ลานสน) เขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวชายหนึ่งรายไม่ได้กลับลงมาจากด้านบนเขา หลังเจ้าตัวได้ลงทะเบียนขึ้นไปท่องเที่ยวบนลานสนเพื่อสำรวจเส้นทางธรรมชาติ ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกภูสอยดาว 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่สูญหายรายนี้ คือ นายธัญวริช หรือ ฟอร์ด อายุ 27 ปี ชาว จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งทีมกันเดินขึ้นไปค้นหาถึงขนาดนี้ยังไม่พบตัวผู้สูญหาย แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 3 วันแล้ว

 

ล่าสุดวันนี้ข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่เขตอุทยานน้ำตกภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อติดตามการค้นหาผู้สูญหาย ทีมข่าวได้สอบถามนายทศพร ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้บัญชาการในการวางแผนค้นหา ให้ข้อมูลว่า นายธัญวริช ผู้สูญหายได้เดินทางมาที่เขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งแต่ ช่วงเที่ยงของวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่า มีการลงทะเบียนเพื่อที่จะเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวด้านบนเขตอุทยานแห่งชาติ (ลานสา) ในเวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งได้เดินทางไปคนเดียว 

 

แต่หลังจากนั้นช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบนักท่องเที่ยวทั้งหมดพบว่า นายธัญวริชไม่ได้เดินทางกลับลงมา เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางขึ้นไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบ จึงมีการโทรศัพท์แจ้งญาติให้รับทราบและเริ่มตั้งศูนย์ ปฏิบัติการเพื่อค้นหาตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคมเป็นต้นมา 

 

จากการแบ่งเจ้าหน้าที่เพื่อขึ้นไปค้นหาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติได้พบกับเบาะแสสำคัญของผู้สูญหาย โดยพบกระเป๋าเดินทาง (เป้สะพายหลัง) 1 ใบ และรองเท้า 1 คู่ โดยอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร ส่วนจุดที่พบกระเป๋าเป้ อยู่ห่างจากเส้นทางเดินธรรมชาติประมาณ 50 เมตร และอยู่สูงจากที่ทำการอุทยานฯ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางพบว่า ผู้สูญหายตั้งใจเดินออกนอกเส้นทาง 

ส่วนปฏิบัติการของวันนี้ตนเองได้แบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 5 ชุด ชุดละ 20 นาย รวม 100 นาย โดยทุกทีมจะมีการเดินขึ้นไปด้านบนเขาและเรียงหน้ากระดานกันลงมาเพื่อค้นหาในรัศมีจากจุดที่พบกระเป๋าของผู้เสียหาย 1 กิโลเมตร แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสของผู้สูญหายเพิ่มเติม

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนายสมศักดิ์ พ่อของนายธัญวริช เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ลูกชายของตนเองนั้นเพิ่งจะเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อไปทำงานเป็นคนงานในฟาร์มหมู ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายได้ขอตนเองไปทำงาน เนื่องจากอยู่บ้านว่างงานมา 1-2 ปีแล้ว ตอนแรกตนเองก็เป็นห่วงเนื่องจากที่ทำงานอยู่ไกลจากบ้านมาก และตนเองมีลูกชายเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายตัวเองก็อนุญาตให้ลูกชายไปทำงานโดยมีการโทรศัพท์พูดคุยกันเกือบทุกวัน 

 

กระทั่งวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาตนเองเดินทางไปส่งลูกชายที่สถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่น จากนั้นลูกชายได้นั่งรถทัวร์มาที่ฟาร์มหมูในจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งทุกเย็นตนเองจะโทรศัพท์หาลูกชายเพื่อสอบถามว่าทำงานไหวหรือไม่

 

ลูกชายตอบตนเองว่า “น่าจะไหว ผมจะขอลองดูสักตั้ง” ตนเองยังได้บอกกับลูกชายเลยว่า “ถ้าทำไม่ไหวก็กลับมาทำงานที่บ้านเราก็ได้ จะได้อยู่ใกล้กับครอบครัว และกลับมาดูแลย่า“ ลูกชายก็รับปากและจะขอลองทำงานดูก่อน ซึ่งตลอดการพูดคุยกับลูกชายดูมีความสุขและเป็นปกติดีทุกอย่าง

 

กระทั่งช่วงเที่ยงของวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเจ้าของฟาร์มหมูได้โทรศัพท์มาหาตนเองบอกว่าลูกชายได้ลางานจะขอกลับบ้านไปดูแลย่าที่ป่วย โดยบอกให้เจ้านายไปส่งที่สถานีขนส่งจังหวัดอุตรดิตถ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 กรกฎาคม แต่พอช่วงบ่ายกลับมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่อุทยานโทรมาบอกเจ้าของฟาร์มหมูว่า ลูกชายได้สูญหายจากเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตอนนั้นตนเองตกใจมาก และไม่เข้าใจว่าลูกชายจะเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติทำไม เพราะลูกชายบอกกับตัวเองว่าจะตั้งใจไปทำงานหาเงิน

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่นายธัญวนิชจะหายตัวไปอย่างปริศนา โดยพบว่าเมื่อช่วงวันที่ 4 กรกฎาคมเวลา 8 โมงเช้า นายธันวนิชได้เดินแบกเป้สะพายหลัง สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ รองเท้ากีฬา ออกจากฟาร์มหมู เดินไปขึ้นรถกระบะตู้ทึบสีขาว ซึ่งเป็นรถของฟาร์มหมู เพื่อจะเดินทางไปที่สถานีขนส่งอุตรดิตถ์ โดยสังเกตได้ว่า กระเป๋าเป้ และรองเท้า เป็นกระเป๋าเป้และรองเท้าใบเดียวที่เจ้าหน้าที่เจอบนภูเขา 

 

ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามนางจิรฐา เจ้าของฟาร์มหมู ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองเพิ่งจะรับนายธัญวนิช เข้าทำงานเป็นคนงานดูแลฟาร์มหมู และเพิ่งจะเริ่มงานได้เพียง 3 วันเท่านั้น โดยวันแรกที่เดินทางมาถึงฟาร์มหมูคือวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากนั้นตนเองได้ให้นายธัญวนิช กักโรค ก่อนทำงานจำนวน 2 วัน โดยในวันที่ 2 ได้มีการเรียกมาพูดคุยเพื่อจะเริ่มงาน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดก็จะเห็นว่า นายธัญวนิช ดูปกติทุกอย่าง และค่อนข้างตั้งใจในการทำงาน สอบถามรายละเอียดการทำงานอยู่ตลอด 

 

ส่วนวันที่ 3 นายธัญวนิช ได้เริ่มทำงานเป็นวันแรกซึ่งก็ผ่านไปด้วยดีไม่มีปัญหา แต่เจ้าตัวได้ ขอลางานกับตนเองหลังจากทำงาน ผ่านไปได้เพียง 1 วัน โดยอ้างว่าจะขอกลับไปดูแลย่าที่ป่วยกระทันหัน โดยทำเรื่องลางานทั้งหมด 7 วัน จากนั้นตนเองจึงอนุญาตและให้ลูกน้องขับรถไปส่งนายธัญวนิชที่สถานีขนส่งอุตรดิตถ์ 

 

ซึ่งตนเองยอมรับว่าค่อนข้างงงว่า ทำไมนายธัญวนิช กลับหนีงาน อ้างว่า ย่าป่วย และไปที่เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจนหายตัวไป เพราะจากที่ทำงานจนถึงเขตอุทยานห่างกันเกือบ 100 กิโลเมตร

ระดม 100 ชีวิต หานักท่องเที่ยว 3 วันไม่รู้ชะตากรรม